AnthroCat-Thailand
นาย ปรัชญาณินทร์ วงศ์อทิติกุล

บาก่องถี่ เหล้า บุหรี่ และหวยขายเกินราคา


เชื่อหรือไม่ว่า ตำรวจที่แต่งตัวในชุดเครื่องแบบเดินไปซื้อล็อตเตอรี่ ก็ซื้อในฉบับละ 85 - 95 บาท เช่นเดียวกันกับชาวบ้านทั่วไป "คนขายไม่ถูกจับ"..........แต่ก็ไม่มีการออกมาดำเนินการควบคุมอะไรจาก สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และทำเหมือนไม่มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น

          หวย หวย หวย และก็หวย คนไทยจะมีดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคาดหวังที่จะได้ "ลาภลอย" จากการเสี่ยงโชคด้วยการซื้อลอตเตอรี่ (ใต้ดิน และ ของรัฐบาล)

          ในอดีต การเข้ามาจัดการโดยการเป็นเจ้ามือรายใหญ่ที่ "ถูกต้องตามกฏหมาย" โดยกลุ่มคนที่เรียกว่า "รัฐ" มีให้เห็นมาโดยตลอดและในหลาย ๆ "ผลิตภัณฑ์" ซึ่งเริ่มแรก "ผลิตภัณฑ์" หรือ "สินค้า" ที่ว่านี้เกิดจากการเล่นของคนจำนวนไม่มากไม่น้อย แต่จากการเล่นของจำนวนไม่มากไม่น้อยนี้ กลับมีผลประโยชน์ที่สูงเกินจำนวนคน เพราะมีการเดิมพันและการจ่ายเงินตอบแทน

           จำได้ว่า ในอดีต คุณแม่เคยเล่าให้ฟังว่า บ้านเรา (ที่หมู่บ้านเกิด จังหวัดภาคเหนือ) มีการเล่น "บ่าก่องถี่" ก็คล้าย ๆ กับการเล่นลอตเตอรี่ แต่เป็นการเล่นที่เต็มไปด้วยการใช้เชาว์ปัญญา ไม่ใช่การเช่นแบบเสี่ยงสุ่มเช่นในปัจจุบัน คุณแม่เล่าว่า จะมีรอบเล่นต่อวัน ๆ ละ 2 รอบ - เช้า และ บ่ายก่อนเย็น -

          ทุกวัน เจ้ามือ จะเขียนรูปสัตว์ที่ปรากฎในบนพื้นพิภพ แล้วนำไปใส่ใน "ถุง" ที่ถูกผูกด้วยเชือกแล้วชักขึ้นไปอยู่บนปลายเสาไม่ไผ่ (คล้ายธงชาติ) แล้วเจ้ามือก็จะบอกคำใบ้ เป็นสำนวนคล้องจอง โดยมีปริศนาอธิบายถึงลักษณะของสัตว์ที่วาดใส่ไว้ในถุงนั้น

         หลังจากนั้น ใครที่เงิน จะแทง ก็ แทง โดยบอกว่าจ่ายเงินให้แก่เจ้ามือและบอกชื่อสัตว์ที่ตนเองคิดว่าน่าจะเป็นชนิดเดียวกันที่เจ้ามือวาดไว้

          ก่อนเที่ยง ก็จะเปิดถุง และเทียบจ่ายเงินตามอัตราที่กำหนดไว้ ในช่วงเวลาการเปิดถุงนี่ เป็นบรรยากาศที่คึกคักอย่างมาก ทุกคนก็จะมารอและมาออกันอยู่เต็มไปหมด "อู้จ๋ากั๋นซ๊าว ซ๊าว" เป็นที่ "ม่วนอกม่วนใจ๋" พอเจ้ามือเปิดออกมา ก็มีทั้งคนโห่ร้องด้วยยินดีปรีดาที่ทายถูก และมีคนที่หน้าตาเศร้าหมองเพราะทายผิด และบางกลุ่มก็จะเริ่มทำการวิเคราะห์ถึงคำใบ้ปริศนาที่เจ้ามือตั้งไว้ และวิเคราะห์ว่าตนเองพิจารณาผิดพราดตรงไหน

          หลังจากนั้นก็แยกย้ายไปกันไปกินข้าว พูดคุยกันถึงเรื่องคำใบ้และสัตว์เฉลย หลังจากนั้น ตอนบ่าย ก็จะเริ่มขึ้นอีกรอบ และการเสี่ยงทายและเสี่ยงดวงก็เริ่มขึ้นใหม่ วนไปเช่นนี้ทุกวัน ยกเว้นวันพระ และวันที่มีงานสังคมอื่น ๆ ของหมู่บ้าน เช่น งานศพ เป็นต้น

          ต่อมา การละเล่น "บ่าก่องถี่" นี่ ก็ถูกประกาศควบคุมและให้เลิกการละเล่น จากทางการ ด้วยอ้างว่า เป็นการเล่นการพนันและผิดกฎหมาย ผลสุดท้ายก็เลิกเล่นกันไปตามระเบียบ.............

          เหตุการณ์ผันผ่าน หวย เข้ามาเป็น สินค้าใหม่ ในระบบตลาดทุนเสี่ยงโชค เสี่ยงดวง  ณ จุดนี้ เป็นจุดผ่าน ของการรวบอำนาจและผลประโยชน์เข้าสู่ส่วนกลาง และอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของโดยชอบธรรม ก็คือ "รัฐ"

          "รัฐ" กลายเป็น "เจ้ามือ" ที่ถูกต้อง และชอบธรรม ไม่มีใครอาจลบล้างได้ และรัฐก็เริ่มจัดสรรด้านต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์ ด้วยวิธีการที่ไม่ได้แตกต่างไปจาก "เจ้ามือบ่าก่องต๋า" หรือ "เจ้ามือหวย (เถื่อน)" คือ การตั้งรางวัลที่จะจ่ายตอบแทนให้แก่ผู้ที่ถูกเลขที่ถูกเสี่ยงหมายเลขด้วยหน่วยงานของรัฐ

          สิ่งนี้ กลับไม่ผิด เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดที่กระเทือนวงการพนันเสี่ยงโชคของประเทศไทยก็คือ การปราบปรามหวยใต้ดิน ให้เป็นหวยบนดิน และว่ากันว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้องและชอบธรรม ในสายตาผู้บริหารราชการบ้านเมือง แต่ก็ยังอ้างว่าไม่ถูกต้องศีลธรรม (มันทับซ้อนกันอยู่ภายในใจ) แต่ก็ต้องทำ เพราะ อยากได้เงิน ????

           เหล้า ชาวบ้าน แช่เองต้มเอง ก็บอกว่าผิด เพราะรัฐไม่ได้ภาษีสรรพสามิต จากเหล้า ก็ เข้าไปจัดการเอง ได้ทั้งภาษีได้ทั้งรายได้

          จะเห็นได้ว่า สิ่งที่ว่าผิดกฎหมาย ถ้าเปลี่ยนมือและถูกจัดการโดย "รัฐ" ไม่ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม ทำไม ?

          จากเรื่อง "บ่าก่องถี่" มาสู่  "หวย" ไปลง "เหล้า" สุดท้ายก็คงจะเป็น "บุหรี่"

          ชาวบ้านคนไทย ปลูกใบยาได้ และก็เป็นได้แค่คนปลูก เพราะไม่ได้ผลิต ใครเป็นผู้ผลิตแปรรูป ก็แน่นอน กรมยาสูบ กระทรวงคลัง ออกขาย ได้ตังค์ ได้เงิน ได้ภาษี แต่ก็ "ภาครัฐ" ก็ออกมารณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ ให้คนไทยเลิกสูบ เหมือนทำลายหม้อเข้าตนเอง เพราะรายได้ส่วนใหญ่ก็มากจากภาษีขายเหล้าขายบุหรี่ ก็กลายเป็นเรื่องที่ว่ากันว่าเป็น "มาตราฐานสองชั้น" (Double Standard) แปลให้เป็นภาษิตไทย ก็คง "ปากว่าตาขยิบ" มั๊ง?

           ที่แน่ ๆ การกำหนดราคาจำหน่ายล็อตเตอรี่ (หวยรัฐบาล) ไว้ที่ ฉบับละ 80 บาท แต่เชื่อไหม ทั่วประเทศไม่ได้ขาย 80 บาท

          ถ้าไม่เชื่อ ก็ไปถามชาวบ้านร้านตลาดดูได้ว่า ซื้อกันในราคาเท่าไหร่ เคยมีมาตรการออกมากำกับจากนโยบายรัฐบอกว่า ถ้าขายเกินจะถูกจับปรับดำเนินคดีและผิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค

         เชื่อหรือไม่ว่า ตำรวจที่แต่งตัวในชุดเครื่องแบบเดินไปซื้อล็อตเตอรี่ ก็ซื้อในฉบับละ 85 - 95 บาท เช่นเดียวกันกับชาวบ้านทั่วไป "คนขายไม่ถูกจับ" 

          ตามความเข้าใจของผม จากที่เคยผ่านหูผ่านตามาบ้างว่า การนำสลากรัฐบาลออกมาจำหน่ายในแต่ละงวดนั้น จะมีการประมูลจากกลุ่มคนไม่กี่กลุ่ม และราคาที่ประมูลออกมาได้ก็ไม่ใช่ 80 บาทตามที่พิมพ์ไว้ แต่ราคาย่อมกว่านั้น ซึ่งคาดว่าน่าจะประมาณ 77 บาท ซึ่งก็จะเป็นส่วนต่างไว้เพื่อให้ผู้จำหน่ายได้กำไรฉบับละ 3 บาท

          หลังจากนั้น ผู้ประมูลรายใหญ่ก็จะนำสลากไป "ปล่อย" ต่อ ในราคาที่เกินราคาหน้าตั๋ว ประมาณ 82-85 บาท รวมเบ็ดเสร็จ กำไรขั้นนี้อยู่ที่ 5-10 บาท ต่อฉบับ สำหรับผู้ประมูลได้จากกองสลากโดยตรง

          เมื่อปล่อยไปแล้ว คนที่นำไปจำหน่ายต่อ อาจจะเป็น ยี่ปั๊ว หรือ ซาปั๊ว จนกระทั่งผู้ขายรายย่อยทั่วไป ก็ต้องบวกกำไรให้ตัวเองอีก 3-5 บาท ราคาสลากถึงได้พุ่งสูงปรี๊ดดดดดดด จาก 80 บาท ไปเป็น 95 บาทได้โดยมีการควบคุมจากผู้ประมูลใหญ่และจากการกำหนดจากผู้นำไปจำหน่ายต่อหลังจากนั้น

            แต่ก็ไม่มีการออกมาดำเนินการควบคุมอะไรจาก สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และทำเหมือนไม่มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น

           เอ๊ะ หรือว่า คนใน สคบ. ก็ซื้อ สลากในราคา 95 บาท เหมือนกับผม

         

         

 

คำสำคัญ (Tags): #บ่าก่องถี่#หวย
หมายเลขบันทึก: 103659เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2007 15:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 09:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
เคยไปถ่ายสารคดีหน้ากองสลาก เรื่องการขายลอตเตอรี่ หนูให้ผู้ช่วยกล้องเป็นคนซื้อลอตเตอรี่ เพื่อที่จะขอถ่ายแม่ค้าได้สะดวกๆ ซึ่งแม่ค้าคิดเงินแค่ 40 บาทตรงตามราคาเป๊ะ พวกพี่ๆผู้ช่วยกล้องยังเอามาบอกกันเลยว่า เพราะเขารู้ว่าออกทีวี เลยไม่กล้าขายสลากเกินราคา หนูถึงนึกได้ว่าเออ ตอนจ่ายเงินคนขายหน้าบึ้งๆนิดนึง เพราะขาดทุนนี่เอง เพิ่งรู้ว่าหวยไม่ได้ราคา 40 ก้อตอนนั้นแหละ เพราะไม่ค่อยได้ซื้อ อิอิ

ทำไมหวยบ้านเราราคาจึงแพงกว่าราคาที่แจ้งไว้  ไม่เห็นตำรวจไปจับเลย  ผมว่าตำรวจละเลยการปฏิบัติ(ขี้เกียจ)หน้าที่มากกว่า  ทางการก็ไม่เคยออกมาตรการ  ปล่อยให้หวยแพง  เบื่อพวกมีหน้าที่ด้านนี้จัง  ไม่ทำก้ลาออกไปซะ  คนที่เขาอยากทำมีอีกมากครับ  ดีแต่ซื้อเสียงเข้าไปโกงกินจนชาติฉิบหาย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท