นึกอยากจะเขียนบันทึกเรื่องนี้ก็เลยลองนั่งทบทวนไดอะรีของตนเองซึ่งบันทึกไว้เป็นสิบปีมาแล้ว ปีละเล่ม ... เหตุที่ได้กลับมานั่งอ่านบันทึกก็เพราะดูรายการสารคดีเรื่องหนึ่ง ... เขากล่าวว่า .. คนเรานั้นทำอะไรมาตั้งเยอะแยะแต่ไม่ได้กลับไปทบทวนว่าสิ่งที่ทำมาแล้ว ในอดีตนั้นได้ทำอะไร แล้วเป็นอย่างไร ? เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ? และต่อไปจะทำอย่างไร ? ให้ดีขึ้นกว่าเดิม หรือ ไม่ซ้ำหนทางเดิม .... จึงเกิดแว๊บขึ้นมาในหัวสมองว่า เราควรท่จะต้องทบทวนบ้างแล้วละ หลังจากที่ทบทวนแล้ว พบว่า สิบปีนั้นมีเรื่องราวเกิดขึ้นมาแยะแยะทั้งสิ่งที่ดี ๆ และสิ่งที่ไม่ดี ทั้งที่ตัวเรากระทำ หรือ คนอื่นกระทำ สิ่งแวดล้อมกระทำ ซึ่งลองจำแนกแยกแยะมาได้ประมาณว่า
1. การทำงาน ก็ทำงานหลายอย่าง ทั้งทำสวนปาล์มนนน้ำมัน ปลูกกล้วยหอมทอง ปลูกสารพัด .... งานพัฒนาเป็นทั้งประธาน / กรรมการกลุ่มองค์กรชาวบ้าน ผู้ประสานงานในหลาย ๆ งาน กับหลายหน่วยงาน ซึ่งได้ทำให้เกิดทักษะและประสบการณ์ในการประสานงาน รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง .....เรียนรู้การใช้ข้อมูลในการทำงานซึ่งเริ่มต้นจากการทำแผนแม่บทชุมชน การประสานแผน การแปลงแผนสู่การปฏิบัติ ขยับมาสู่การทำงานวิจัยท้องถิ่นเชิงปฏิบัติการ ..... การจัดกระบวนการเรียนรู้ ..... การจัดการความรู้ของท้องถิ่น
2.การอยู่รวม และ สัมพันธ์กับคนหมู่มาก และหลากหลาย ... ตั้งแต่ระดับชาวบ้านตามายายมี ถึงระดับอธิบดี ซึ่งค่าของความเป็นคนนั้นไม่ได้แตกต่างกัน ความดีความงามนั้นที่แฝงฝังอยู่ในตัวคนนั่นต่างหากที่ จะบอกถึงความแตกต่าง หรือแยกแยะความเป็นคน.... และทำให้รู้ว่าจริงแล้วความรู้นั้นอยู่ในตัวคนนั้นมากมาย ทำอย่างไรจึงจะดึงความรู้นั้นมาใช้ และจัดระบบให้ไปอย่างถูกทิศถูกทาง
3. ความเข้าใจต่อความรัก กับชีวิต .... การได้เรียนรู้ว่ารักนั้นเป็นอย่างไร ? ทำไมจึงรัก รักเพราะอะไร และการที่รักใครสักคน เป็นจริงเป็นจังและตั้งใจ ฉะนั้นความไว้วางใจจึงทุ่มให้สุดตัว ........ แต่เมื่อวันหนึ่ง .... เหตุการณ์เปลี่ยน.... ... สถานการณ์เปลี่ยน ... คนเปลี่ยน
ความไว้วางใจที่เคยมีนั้นได้ถูกทำลายโดยไม่ได้ทบทวนในสิ่งที่ผ่านมา แล้วเรา ....................
ความเข้าใจกับความรักมันสัมพันธ์กันอย่างไร
บางคนเริ่มมีความรักโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวมาก่อน ........... จนอยากจะหนีมันไปให้ไกล ๆ ......... ไม่อยากเจอ ........ แล้วคุณว่าความเข้าใจกับความรักมันสัมพันธ์กันอย่างไร