เมื่อคืนที่ผ่านมา น้องบุ๊ค เกิดไอบ่อย ตื่นมางัวเงีย ร้องงอแง แล้วก็อาเจียน
เอานมที่เพิ่งกินเข้าไปออกมาเลอะเทอะที่นอน ผมกับแฟนก็เลยต้องลุึกมาเปลี่ยนที่นอนให้กลางดึก แล้วก็ผมนอนไปก่อนเพราะว่าต้องทำงานวันนี้ ส่วนแฟนก็ต้องปรนนิบัติพัดวีกันไป จนน้องบุ๊คนอนหลับไปตีสองครึ่ง
เ มื่อสักสองสามเดือนก่อนน้องบุ๊คเป็นครูป มากลางดึกผมต้องขับรถไปซื้อยา เดกซามาฉีดให้ที่บ้าน แต่ไม่ได้พ่นยา
เพราะว่ากลัวว่าจะยิ่งร้องมาก ตอนเช้าก็อาการดี โชคดีที่เรารักษาเองได้บ้าง ก็เลยนึกถึงความเหนื่อยยากของพ่อแม่อื่นๆ
เฮ้อ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความรู้ที่เรียนมานั้น ช่วยเหลือเราน้อยมาก (ทางด้านจิตใจ) ในการเลี้ยงลูกครับ
ผมกับภรรยาเลี้ยงลูกตามตำราของเราเอง ลืมไปเลยครับ เนลสัน (ไม่แน่ใจว่าเขียนถูก) ไม่เคยบอกผมเลยว่า เวลาลูกร้องควรทำยังไง
เวลาเป็นหวัดคัดจมูกน้ำมูกไหล ภรรยาก็จะใช้ปากจุ๊บออกมา และเรายังใช้ตำราบ้านนอกในการเอาหัวหอมแดงมาทุบ แล้ววางไว้ที่หัวนอนเพื่อให้หายใจโล่ง
เหนื่อยดีนะครับ
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เห็นพัฒนาการของเขาแล้วชื่นใจครับ
ลืมประโยคจบที่สำคัญไป
ขอให้น้องบุ๊คหายเร็วๆครับ
สวัสดีครับ
ขอบคุณ อ.ธนพันธ์ ที่เข้ามาคุยด้วยครับ
เป็นจริงอย่างที่ อาจารย์ว่าครับ การเรียนรู้ทฤษฏี แล้วก็ปฏิบัติกับคนไข้ ย่อมไม่มีวันรู้รสชาติเท่ากับเป็นคนไข้เองหรอกครับ
แล้วสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้เกิดการเรียนรู้ขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรของน้องบุ๊คด้วยครับ
ใช่แล้ว แล้วจะรู้ว่าเลี้ยงลูกมันยากขนาดไหน กว่าจะโตมาเท่าเรา ( พูดยังกับเคยมีลูกยังงั้นแหละ )
ขอ ให้หลานแข็งแรง หายไว ๆ นะ