ทำไมสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชนจึงต้องมีหลายสาขา ไม่มีแต่สหวิทยาการอย่างเดียว?
ที่เราเพิ่มสาขาวิชาสุขภาพชุมชนและสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อชุมชน เกิดจากระเบียบกฎเกณฑ์ของ สกอ.ที่ระบุว่าจะเปิดสถาบันอุดมศึกษาได้ต้องมีอย่างน้อย ๓ สาขา เราก็เลยมามองที่วิชาเฉพาะของสาขาสหวิทยาการว่ามีกลุ่มวิชาอะไรที่จะขยายเป็นสาขาในตัวมันเองได้บ้าง ก็พบว่ามีกลุ่มวิชา
แล้วเราก็ประสานกับภาคีและเครือข่าย จนกระทั่งสามารถพัฒนาหลักสูตรในสาขาสุขภาพชุมชน และสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อชุมชนสำเร็จ
ในตอนนั้นเราคิดถึงอีก ๒ สาขา คือ สาขาเกษตรกรรมยั่งยืน และสาขาเศรษฐกิจชุมชน สาขาเกษตรกรรมยั่งยืนนั้นมีความสำคัญเพราะผู้เรียนส่วนใหญ่มีอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมด้านการเกษตรนั้น แต่เฉพาะหน้านี้ให้รวมเอาไว้ในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อชุมชนก่อน พร้อมเมื่อไรค่อยแยกออกมา สาขาเศรษฐกิจชุมชนได้ตั้งทีมทำหลักสูตรขึ้นและมีความคืบหน้าพอสมควร แต่เนื่องจาก สกอ.กำหนดให้มีอย่างน้อยเพียง ๓ สาขา และเราก็มีสาขาสหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอยู่แล้ว จะมีสาขาเกษตรกรรมยั่งยืนหรือสาขาเศรษฐกิจชุมชนหรือไม่ก็ไม่มีผลต่อการได้รับอนุมัติให้เปิดสถาบัน เฉพาะหน้านี้เราจึง focus ที่สาขาสุขภาพชุมชนและสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อชุมชนก่อนเพราะทั้งสองสาขามีความเป็นไปได้สูงในการ raise fund
สาขาสุขภาพชุมชน เราได้รับความร่วมมือจาก สช.เพราะตรงกับวัตถุประสงค์หลักของ สช.ที่ต้องการเสริมงานสร้างเสริมสุขภาวะชุมชน ซึ่งการสร้างเสริมสุขภาวะดังกล่าวจำเป็นต้องสร้างคนที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง(สร้างเสริม)นี้ ซึ่งก็มองไปที่ อสม.
สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อชุมชน เราได้รับความร่วมมือจาก สวทช. ซึ่งเป็นภาคีก่อตั้ง สสวช. ซึ่งต้องการสร้างผู้นำในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในท้องถิ่นจากคนในท้องถิ่นเอง (ก่อนนั้นได้ทำเรื่องการสร้างนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับชาติอยู่แล้ว)
ส่วนสาขาสหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นก็ยังคงเน้นด้านการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในชุมชนท้องถิ่นแบบรอบด้าน ครอบคลุมทั้งการทำแผนแม่บท แผนปฏิบัติการทุกด้าน การจัดการทุนท้องถิ่น วิสาหกิจชุมชน รวมทั้งด้านการเกษตร สุขภาพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ไม่มีความเห็น