อนุทิน 154558


Tawandin
เขียนเมื่อ

บำเพ็ญตบะ (๑๖-๒๗ ส.ค.)

สิบปีที่หายไป จากการเข้าอบรมที่ศูนย์วิปัสสนาธรรมกมลา จึงเหมือนมาเริ่มนับหนึ่งใหม่

ผ่านสิบวัน ด้วยความทรมานสาหัส ท้องผูกสามวัน และอาการตายังคงลาย

จิตกับสมองยังคงไม่สามารถแยกประสาทได้ ว่า...เวลาสแกนความรู้สึกตลอดตัว 

ให้ใช้ตานึก อย่าใช้ตาเนื้อกลอกตาขึ้นลง...ทั้งวัน ตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง ถึงสามทุ่ม! 

ลืมตามา ข้ามวันแล้ว ยังรู้สึกโคลงเคลง (ไม่ตีลังกา ก็บุญแล้วหละ ๕๕ )

ประทับใจ วิธีการฝึกใช้ "วงแหวนแห่งสติ" รับรู้สึกตัวทั่วพร้อม ในเบ้าหลอมแห่งแรงกดดัน

งดฟัง อ่าน เขียน พูดคุย เพื่อความสงบระดับจิตสำนึก และฝึกเปิดทางให้จิตไร้สำนึกสะท้อนสิ่งนอนเนื่อง

กรอบการพัฒนาพลังแห่งสติ(อานาปาณสติ)สามวันแรก สังเกตความรู้สึก จนแจ่มชัด

นำสู่การเรียนรู้วิปัสสนาระดับจิตสังขาร ชอบ ไม่ชอบ ฝึกพัฒนาจิตอุเบกขา

จาก...สภาพติดลบ ในวิถีชีวิตปกติ คือรักษาศีลยังลงไม่ถึงจิต จนเกิดปัญญา อุเบกขาได้

กรอบฝึกบำเพ็ญรอบนี้เริ่มจับติดบ้าง พัฒนาเป็นบวกหนึ่ง บวกสอง ยังไปไม่ถึงห้าเปอร์เซ็นต์!!

จริต อินทรีย์อ่อน มีส่วนให้จิตไร้สำนึกขึ้นมาทำงานได้ง่าย วิธีการนี้จึงเป็นโอกาส เป็นทางเลือกที่เหมาะยิ่ง

เริ่มเปรียบเทียบได้ว่า การใช้คลื่นดนตรีบำบัด ปรับสมดุลธาตุ คงมีผลเพียงผ่อนคลายธาตุขันธุ์ระดับจิตสำนึก

แต่กรอบการวิปัสสนา เป็นการเรียนรู้"ลงลึกถึงทุกข์อริยสัจ" ที่สะท้อนกับกายธาตุ 

และค่อยๆขจัดเหตุอันเป็นรากเหง้าแท้ๆ จากฐานจิตอุเบกขา รับรู้สัญญา...จบ ไม่สังขาร เป็นวิญญาณ...(ไม่จบ)

กราบขอบพระคุณเบ้าหลอมแห่งบุญ ณ กาลสถานหนึ่ง ในเดือนแห่งวันแม่ปีนี้... ศูนย์ฯธรรมกมลา


ในภาพอาจจะมี ท้องฟ้า, ต้นไม้, เมฆ, ต้นพืช, สถานที่กลางแจ้ง และ ธรรมชาติ

สาธุ สาธุ สาธุ

๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๐



ความเห็น (4)

บางครั้งตัวรู้ก็คือสติ อยู่ไหนก็ทำได้นะครับ สาธุ

อนุโมทนาสาธุค่ะ ท่านอาจารย์  prayat duangmala

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท