๑๕/๑๒/๒๕๕๖
อนุทิน ๑๐๓.
เมื่อเราขับรถมาในเส้นทางสองเลนมุ่งตรงตัดกับสี่แยกถนนสี่เลนสายเอเชียที่ไม่มีสัญญาณไฟ...เพื่อที่จะข้ามไปอีกฝั่ง...สิ่งแรกที่เราจะต้องทำก็คือ...การชะลอและหยุดรถเสียก่อน...จากนั้นก็มองไปทางขวามือของทางสองเลนแรกว่ามีรถมาหรือไม่...และไม่ลืมที่จะมองมาสองเลนทางซ้ายมือด้วยเหมือนกัน...ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เส้นทางที่รถควรจะวิ่งมาก็ตาม...แล้วก็มองเลยข้ามไปถึงถนนด้านหน้าทางซ้ายมือว่ามีรถเลี้ยวขวามาหรือไม่...ก่อนที่จะค่อย ๆ ขยับขับรถออกไปอยู่ช่วงกึ่งกลางของถนน...แล้วก็มองไปทางถนนทางซ้ายมือดูว่ามีรถวิ่งมาทั้งสองเลนหรือไม่...และก็อดไม่ได้ที่จะต้องมองไปทางสองเลนขวามืออีกเช่นกัน...ถึงแม้ว่าปกติจะไม่มีรถวิ่งสวนมาก็ตามที...และถนนด้านหน้าสองเลนที่จะวิ่งไปก็เช่นเดียวกัน...ต้องดูว่ามีรถวิ่งสวนมาหรือไม่...แล้วจึงค่อยออกรถวิ่งข้ามถนนไป...การขับรถข้ามทางสายเอเชียสี่เลนโดยเราอยู่ทางโทนั้น...ต้องมีความรอบคอบ มีสติสัมปชัญญะ มองหน้ามองหลังอย่างรอบทิศทาง...ถึงจะช่วยลดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนลงได้...
สถานการณ์บ้านเมืองของเราในปัจจุบันก็มีส่วนคล้ายกัน...สถานการณ์ที่ไม่มีใครฟังใคร...การที่จะช่วยให้เกิดความสงบลงได้...ผู้ประท้วงควรชะลอและหยุดตัวเองกันลงก่อน...หันมองไปทางขวามือคือองค์กรตำรวจและรัฐสภา...หันมองไปทางซ้ายมือคือนักเรียนนักศึกษาครูอาจารย์และผู้ได้รับผลกระทบ...เมื่อมายืนอยู่กึ่งกลางของถนนแล้ว... ก็หันมองไปทางซ้ายคือองค์กรทางทหารและสถาบันหลัก...และหันมองไปทางขวาคือองค์กรด้านการเมืองการปกครอง และกฎหมาย(รัฐธรรมนูญ)ของบ้านเมือง...และหันมองไปทางด้านหน้าที่ได้รับผลเสียโดยตรงคือองค์กรทางด้านเศรษฐกิจและประเทศชาติ...ขณะเดียวกันที่มองข้ามไม่ได้ก็คือ จุดที่เราชะลอหรือหยุดอยู่นี้คือองค์กรสื่อสารมวลชนที่ถ่ายทอดภาพต่าง ๆ ออกไปภายในและนอกประเทศรอบทิศทาง...หากเราผ่านการมองพูดคุยพิจารณากับทุกฝ่ายอย่างรอบคอบรัดกุมระมัดระวังอย่างเข้าใจกันแล้วก็น่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี...การกระทบกระทั่งกันก็น่าจะลดลงเกิดความสงบได้เช่นกัน...
แต่ถ้าหากเรายังขับรถหรือขับเคลื่อนขบวนฝ่าไปแบบไม่กลัวภัยหรือไม่กลัวตาย...อุบัติเหตุจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนจาก “เจตนา” หรือความตั้งใจของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...ถึงตอนนั้น...คงสืบสาวหาต้นสายปลายเหตุยากมากขึ้นทุกที...
ผมเองก็ได้แต่หวังไว้ว่าจะปลอดภัยด้วยกันทุกฝ่าย
ขอบคุณครู อาจารย์ สมาชิกในโกทูโนว์ทุกท่านที่ให้กำลังใจมากครับ