อนุทิน 103915


คนบ้านไกล
เขียนเมื่อ

จิตที่ยังไม่เคยฝึกมาเลย ย่อมชอบต่อการอยู่กับอารมณ์ที่เป็นอดีตและอนาคต ซึ่งอารมณ์ที่เป็นอดีตและอนาคตนี่แหละที่ทำให้เกิดความชอบและไม่ชอบ ดัง นั้น การฝึกจิตให้อยู่กับปัจจุบันอยู่กับอิริยาบถน้อยใหญ่ กำลังทำอะไรก็รู้ตัวว่าทำอะไรตามไปกับอิริยาบถนั้นๆ ถ้ามีความคิดให้ทำความรู้สึกไว้ที่ใจ เมื่อฝึกจิตให้มีสติอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับกายและใจ ความชอบไม่ชอบจะเข้ามาไม่ได้ เพราะใจถึงแม้จะมี ธรรมชาติคือคิดแล้ว แต่ก็สามารถคิดได้ทีละอย่างไม่สามารถคิดพร้อมกันหลายๆเรื่องได้ ดังนั้น เมื่อคิดถึงเรื่องอดีตหรือเรื่องอนาคตเสียแล้วจึงไม่สามารถจะมาอยู่กับ ปัจจุบันได้

เมื่อวานผ่านไปแล้วไม่เคยหวนกลับมา พรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง ดังนั้น ทั่งสองอย่างนี้จึงไม่ใช่ของจริง เป็นความมืดบอด ห้องที่มืดไม่เปิดไฟเรายังหยิบของผิดได้ ดังนั้นหัวใจที่คล่องตัวลื่นตกอยู่ในความมืดบอดตลอดเวลาย่อมตัดสินใจผิดพลาด นำความเดือดร้อนมาให้เราอยู่เรื่อย ห้องมืดเรายังสามารถเปิดไฟได้ ทำไมหัวใจที่มืดนั้นเราจะไม่สามารถนำแสงสว่างเข้าไปได้ และแสงสว่างดังกล่าวนี้คือตัวปัญญานั่นเอง

สำหรับปัญญานี้ไม่ใช่ปัญญาที่ได้เพียงจากการอ่าน การฟัง หรือการคิดพิจารณาเท่านั้น แต่หมายถึงปัญญาที่สามารถทำการขัดเกลากิเลส ที่เรียกว่าภาวนามยปัญญา


ที่มา สมถะและวิปัสสนากรรมฐาน (ตอนที่ 2)

อาจารย์ไตรพิตรา วิสิษฐยุทธศาสตร์



ความเห็น (3)

สาธุๆๆครับพี่ เคยโดนใครแอบเอาภาพไปไหมครับ...

ขอบคุณค่ะ บางทีความคิดกระเจิงเหมือนกัน

ห้องที่มืดเปิดไฟให้สว่างได้ ใจก็เช่นกัน

ห้องว่างๆ เอาอุปกรณ์ทำครัวไปใส่ก็เป็นห้องครัว

เอาพระไปตั้งบูชาก็เป็นห้องพระ

ใจก็เช่นกัน เอาอะไรไปใส่ก็เป็นเช่นนั้น...

(จำไม่ได้ค่ะว่าอ่านเจอที่ไหน)

สาธุ

เพิ่งพบคำตอบครับ 

บางทีความคิดกระเจิงเหมือนกัน

เชิญอ่าน แม้ลูก... ยังรู้ดีกว่าเรา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท