ตื่นเช้ามาวันนี้ด้วยความรู้สึกสดชื่นแจ่มใส บ้านสวนอากาศดีมาก ๆ ขณะนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ (ข้าวต้มสมุนไพร) ก็มีเรือพายมาขายเครื่องดื่ม ชา กาแฟ ขนมขบเคี้ยว จากคุณลุงคนหนึ่ง ท่านขาขวาขาดตั้งแต่หัวเข่าลงไป นัยว่า คุณลุงเคยขับรถไปประสบอุบัติเหตุที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2500 (อู้ฮู้..ผู้เขียนยังไม่เกิดเลยนะนั่น) ตั้งแต่นั้นก็เลิกขับรถมาประกอบอาชีพพายเรือขายเครื่องดื่มแทน อีกวันสองวันนี้ ท่านก็จะเลิกพายเรือขายของแล้วล่ะ เพราะอายุมากแล้ว และลูก ๆ ก็ห้ามไม่ให้ขายด้วย เสียดายจัง เพราะคุณลุงถือเป็นสีสันอย่างหนึ่งของ วิถีชีวิตของคนแควอ้อมเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้หาคนพายเรือขายของแบบคุณลุงไม่มีอีกแล้ว มีแต่ใช้เรือยนต์ส่งเสียงดังแทน อืม..เสียดาย...!!!
วันนี้เรามีไกด์กิตติมศักดิ์ (รึป่าว) มาพาเราเที่ยวด้วย นั่นคือเพื่อนรักของผู้เขียนนั่นเอง เธออาสาพาพวกเราไปเที่ยวเมืองแม่กลอง คณะทัวร์ของเราเดินทางไปเที่ยวชมวัด กราบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพนับถือของคนแม่กลอง
วัดแรกที่เราไปเที่ยวชมคือ วัดบางกุ้ง อ.บางคนที ที่นี่เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์สมัยแผ่นดินสมเด็จพระที่นั่งสุริยอัมรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศน์) เคยเป็นที่ตั้งของค่ายทหารเรือมาก่อน เรียกว่า “ค่ายบางกุ้ง” โดยสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งให้อยู่กลางค่าย เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเป็นที่เคารพบูชาของทหาร และในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชสถานที่แห่งนี้ก็ยังได้ใช้เป็นที่สู้รบกับพม่า และสามารถเอาชนะได้สำเร็จ เรียกขวัญกำลังใจกลับมาให้ทหารและประชาชนได้
ปัจจุบัน บริเวณค่ายบางกุ้งได้มีการพัฒนาเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม ที่นี่มีอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเป็นสิ่งเตือนใจให้ระลึกถึงวีรกรรมอันหาญกล้าของบรรพบุรุษนักรบไทยที่ปรากฏ ณ ค่ายบางกุ้ง
นอกจากนี้ที่แห่งนี้ยังมีโบสถ์ที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เรียกว่า “โบสถ์หลวงพ่อดำ” (หลวงพ่อนิลมณี) ที่การท่องเที่ยวฯ ยังตั้งให้เป็นสถานที่เที่ยว UNSEEN THAILAND อีกแห่งหนึ่งด้วย มีลักษณะพิเศษคือเป็นโบสถ์ที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ถึง 4 ชนิด คือ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร ต้นกร่าง แต่ชาวบ้านเรียกกันว่า “โบสถ์ปรกโพธิ์” เป็นสิ่งแปลกที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้น
วันที่ผู้เขียนไป มีผู้คนเข้าไปท่องเที่ยวที่วัดบางกุ้ง มากพอสมควร แต่สถานที่วัดกว้างขวางเลยไม่อึดอัดเท่าไหร่ อากาศก็เย็นสบายไม่ค่อยร้อน (ถ้าไม่ไปยืนตากแดด อิอิ) เมื่อสักการะหลวงพ่อนิลมณี เรียบร้อย พวกเราก็อพยพกันไปหาที่เที่ยวที่อื่นต่อไป
วัดบางแคน้อย เป็นอีกหนึ่งวัดที่พวกเราแวะเข้าไปเยี่ยมชมและร่วมทำบุญกัน ที่นี่มีจุดเด่นคือ มีโบสถ์ที่ทำด้วยไม้สัก (เฉพาะด้านใน) แกะสลักเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนา มีคนมาทำบุญที่วัดนี้บางตาไม่เหมือนที่วัดบางกุ้ง นอกจากโบสถ์ไม้สักแล้วที่นี่ยังมีศาลาหลังหนึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นเหมือน หลวงพ่อโต พรหมรังสี เป็นศาลาไม้ทั้งหลัง ดูสงบเงียบ เหมาะแก่การนั่งสมาธิมาก
ไหว้พระกันเรียบร้อย ท้องก็เริ่มประท้วงว่าหิววววววววว...เพื่อนเราก็ดีเหลือใจ รีบพาคณะทัวร์เห็นแก่กินกรุ๊ปนี้ไปชิมอาหารอร่อย (เธอว่างั้น) ที่ ร้านบ้านชมเดือน แต่พอได้รับประทานแล้ว อืม.. อร่อยทุกอย่าง ขอบอก!! สมกับที่ไกด์ของเราโม้ไว้ อิอิ ที่ผู้เขียนติดใจที่สุด คือ แกงส้มปูไข่หน่อไม้ดอง วุ้ย.. คิดแล้วน้ำลายหยดติ๋ง ๆ แฮะแฮะ ขออภัยท่านผู้อ่านที่ไม่มีรูปมาให้ดู ถ้าท่านใดเป็นแฟนบล็อกนี้ จะสังเกตได้ว่า เวลาถึงเวลาอาหารทีไร จะไม่ค่อยมีรูปมาให้ดู หรือมีก็เป็นแบบกินเกือบหมดแล้วทู๊กที แฮ่แฮ่ อันนี้ต้องขออำภัยเหน๊อ ก็เวลาหิวทีไร ลืมทุกอย่างเลย ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว อะแฮ่ม! ใครอยากทราบว่าอร่อยเพียงใด ต้องไปชิมกันเอง หาข้อมูลร้านนี้ได้จากใน google นะจ๊ะ ไปชิมเห๊อะ เดี๊ยนรับรอง ด้วยเกียรติของคนตะกละ ฮิฮิ
กว่าจะอิ่มหน่ำสำราญกันถ้วนหน้า ก็ปาเข้าไปบ่ายคล้อย พวกเราลงความเห็นกันว่าจะไปเที่ยวที่บ้านของเพื่อนรักของผู้เขียน เธอก็ใจดีพาไปเที่ยวที่บ้านของเธอ เมื่อไปถึงก็เข้าไปสวัสดีคุณพ่อคุณแม่ของเธอ คุณพ่อของเธอยังดูหน้าตาสดใส อ่อนกว่าวัย แต่ก็มักบ่นเสมอว่า ขาแข้งไม่ค่อยดี ส่วนคุณแม่ก็ยังดูสุขภาพดี คณะของพวกเราได้รับการต้อนรับด้วยความยินดี ทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนมาบ้านญาติผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันมานานยังไงยังงั้นเลย ทั้ง ๆ ที่พวกเราเพิ่งมากันครั้งแรก นอกจากคุณพ่อคุณแม่แล้วยังได้พบกับญาติพี่น้องของเธออีกหลายชีวิต (ต้องบอกว่าหลายชีวิต เพราะถ้าอยู่กันครบ พี่น้องของเธอ รวมทั้งเขยและหลาน ก็ปาเข้าไปหลายสิบคนทีเดียว 555 เป็นครอบครัวใหญ่ถึงใหญ่มาก อิอิ ผิดกับครอบครัวของผู้เขียน ทั้งบ้านรวมพ่อแม่น้อง ๆ ลูกเขยลูกสะใภ้และหลานแล้ว แค่ 8 คน ตั้งทีมฟุตบอลไม่ได้เลย โฮะโฮะ) พูดคุยกันพอหอมปากหอมคอ ก็พากันกลับบ้านพัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเพื่อนเท่าไรนัก นั่งเล่นนอนเล่นกันพักใหญ่ ก็ได้เวลาอาหารเย็นอีกแล้ว
คราวนี้ต้องไปทานอาหารกันไกลจากบ้านพักพอสมควร ไกด์คนสวย (สวยเหรอ! อืม..) พาไปกินอาหารตามคำแนะนำของพี่สาวคนสวยเจ้าของโฮมสเตรย์ ตลอดทางถกเถียงกับผู้เขียนเรื่องเส้นทางกันพอสมควร ครือ..คุณไกด์เธอจำทางผิด ๆ ถูก ๆ เสมอ อาหารพอรับประทานได้ ไม่เลวนัก แต่ถ้าเทียบกับร้านบ้านชมเดือนเมื่อตอนกลางวัน เทียบกันไม่ติดเลยจ๊ะ แต่ก็จัดการทุกอย่างหมดไม่มีเหลืออีกเช่นเคย 555 ก็เพราะเราถูกสั่งสอนมาว่า “ยังมีคนที่อดอยากอยู่อีกมาก เพราะฉะนั้นอย่ากินทิ้งขวาง”
ระหว่างทางขากลับบ้านต้องแวะส่งคุณไกด์กลับบ้าน ถนนในสวนตอนกลางคืนมืดได้ใจจริง ๆ มองไม่เห็นทางเลย
“ตรงไหนซอยเข้าบ้านเธออ่ะ”
“จอดดดด.. ตรงนี้แหละทางเข้าบ้านชั้น”
“บ๊าย..บาย แล้วเจอกัน”
“อือ..พรุ่งนี้คงไม่เจอกัน แล้วค่อยโทรคุยกันนะ ไปก่อนล่ะ”
“จ้า..บาย!!..”
ผู้เขียนยังไม่ออกรถรอคุณไกด์เธอเดินเข้าบ้านไปก่อน ยังไม่ถึงอึดใจ คุณไกด์เธอก็วิ่งตุ๊บตั๊บออกมา
“ว๊าย..!!! ไอ้ฝุ่นชั้นเข้าผิดซอยยยย..”
5555555 ขำกลิ้งกันทั้งคันรถ เฟอะฟะจริงจริ๊งแม่คนนี้ ว่าแล้วเชียวเดาออกเลยตั้งแต่นำทางไปกินข้าวแล้ว หลงตาหลอด..เฮ้ออ.เพื่อนชั้น สรุปก็ต้องขึ้นรถไปใหม่ สักประมาณ 30 เมตร ก็ถึงทางเข้าบ้านของเธอ คราวนี้ไม่ผิดละ อิอิอิ วันนี้สนุกจริง ๆ เลย มีแต่เรื่องให้หัวเราะตลอดวัน Thank you นะเพื่อน พรุ่งนี้ก็จะกลับบ้านแหละ บ๊ายบาย แม่กลอง..
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะ น้องฝุ่นดาว
วัดบางกุ้งป้าแดงเคยไปเหมือนกันนะ
ถ่ายรูปมาไม่สวยเหมือนน้องฝุ่นเลย เสียดายจัง
สวัสดีค่ะ
สายตาจดจ่ออยู่ที่ป้ายเมนูแนะนำ "มาแล้วต้องทาน" (ไม่งั้นไม่ให้ออกจากร้าน...อิ.อิ.)
ไอติมหม้อดิน (น่ากิน) .....แล้ว กล้วยลืมเบรค นี่เป็นยังไงหรือคะ !!!
แณณขอแวะมาเยี่ยมชมบล็อกของคุณ Stardust บ้างค่ะ ตั้งชื่อได้น่าสนใจ น่าอ่านมากเลยค่ะ เล่าเรื่องก็สนุกดี แณณชอบค่ะ การใช้ภาษาก็ง่ายๆ สบายๆ บ่งบอกถึงความเป็นคนมีอารมณ์ขัน ดีค่ะ มาอ่านแล้วแณณก็ได้หัวเราะตามไปด้วย สนุกดี
แณณก็ชอบไปเที่ยวที่นั่น ที่นี่ เหมือนกันค่ะ เคยไปอัมพวามาแล้ว แต่ตอนนั้นไปดูงาน ก็ชอบอัมพวา เช่นกัน กะว่ามีโอกาสอยากจะไปอีก
ได้ดูเรื่อง Stardust หรือยังคะ แณณชอบมาก หนังน่ารักดีนะคะ
บายค่ะ
แณณ
สวัสดีค่ะ
ยัยฝุ่น
งั้นซิ! เห็นหน้าคุณขจิตเป็นมาม่าต้มแซ๊ป แซป..อิอิ
ขอบคุณคุณครูพี่กั๊ต สำหรับดอกไม้ช่อโตค่ะ (ขอบคุณช้าไปหน่อย คงไม่ว่ากันนะคะ อิอิ)
อิจฉาใครบางคนไปกอดกัน ไกลถึงลพบุรี อยากกอดมั่งจัง ฮือฮือ งิงิ
สวัสดีค่ะ คุณน้องไกด์
พี่ไป อัมพวา มาแล้ว
สนุก สนาน อิ่ม อร่อย
แต่ เสียดาย ไม่ได้ดูหิ่งห้อย
ต้องรอ ช่วงค่ำ อิ อิ
ขอบคุณค่ะ
มีความสุข ทุกเทาศกาล ค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันค่ะ
^____^ ปีใหม่จะไปเที่ยวไหนดีค่ะ
แนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ