ฉันเองเคยได้เข้ารับการอบรมการเขียนรายงานของหน่วยงาน (Unit Profile)ฉบับฉลองสิริราชฯ 60ปี ตั้งแต่สมัยเป็นฉบับร่างเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นฝรั่งที่ฉันเองจำชื่อไม่ได้มาช่วยอธิบาย... หนึ่งในนั้นเป็นหัวข้อของ Clinical Tracer…..
....แล้วใครว่า Clinical Tracer เขียนยาก...อืมมม....มันก็เขียนยากจริงๆแหละ....แต่คนอ่านซิคะ อ่านได้ง่าย
ให้เขียนเล่างานคุณภาพให้คนอ่านอ่านแล้วเข้าใจในหน้ากระดาษ A4 ไม่เกินหน้าครึ่ง...ผลงานตั้งเยอะตั้งแยะ...ทำได้ไหม?....ทำได้ไง?.....
ฉันเองเคยมาแล้ว.....ทำทุกวิธี....ทั้งทำให้ตัวหนังสือเล็ก ทั้งตั้งขอบหน้ากระดาษแคบ...สารพัด....
.....ฉันยอมรับว่า พรพ. นี่เก่งสุดยอด.....ที่นำเอา Clinical Tracer มาให้คนทำคุณภาพเขียน เพราะก่อนที่ท่านจะเขียนได้ท่านต้องมีเรื่องจริง..ข้อมูลจริง...ประมวลผลจริง... วิเคราะห์แล้วดำเนินการทำมาแล้วจริงๆ...จึงนำมาเล่าได้ถูก...
นั่นหมายถึงต้องมีข้อมูลฉบับเต็มๆในมือ.....เชื่อมโยงเชิงระบบมาให้เรียบร้อย....ใช้เครื่องมืออะไรในขั้นตอนไหน...ผลเป็นอย่างไร...ตอบเป้าหมายองค์กรหรือสิ่งที่ต้องการอย่างไร?......ไม่งั้นคนอ่านอ่านไม่รู้เรื่อง(ในหน้าครึ่ง)...ก็คนเขียนเองยังไม่รู้เรื่องเลย....
ตอนเริ่มใหม่ๆตอนนั้นต่างคนต่างเขียน....คนเขียน(ที่พอรู้เรื่องหน่อย)ก็จะรู้สึกว่าอึดอัด ยากมาก เพราะระดับผู้นำไม่มีภาพรวมใหญ่ให้เรา....ก็ได้แต่เมาๆ...เอางานที่ทำเขียนไปแกนๆ...พอกล้อมแกล้มๆ...ส่ง...
จะว่าไป....ผลงานของโรงพยาบาลได้จากผลงานหน่วยงานย่อยๆจริงอยู่....หากทิศทางการบริหารชัดเจนแต่แรกเริ่ม คงไม่ยากที่จะเขียนเพราะทุกหน่วยย่อยคงทำให้ได้ตามเป้าหมายใหญ่...
แต่ที่ยากเย็นเข็ญใจเพราะปล่อยให้หน่วยเล็กๆทำกันไป แล้วถึงมาเก็บผลงานไปรายงาน...
...ก็ไม่เป็นไรค่ะ...ถ้าเอาvision หรือ mission เป็นตัวตั้ง ก็พอถูไถไปได้.... แต่ถ้าได้มีการวางแผนไว้แต่แรก เราก็จะเขียนง่ายหน่อยค่ะ
....เราเริ่มต้นใหม่ได้ค่ะ....การเลือกเรื่องที่จะเล่าบางคราวอาจจะไม่ถึงกับต้องรอนโยบาย เพราะเป็นงานประจำที่ทำ เพียงทบทวนกันเป็นทีมว่าทำอะไรกันอยู่ มีอะไรดีแล้วรักษาไว้ได้ไหม มีปัญหาอะไรทำให้ดีขึ้นได้ไหม........
สำหรับ รพ.ที่มีประสบการณ์แล้วก็จัดระบบซะเลยก็ดีค่ะ สอดคล้องกันทั้งหน่วยเล็ก หน่วยใหญ่...หน่วยใหญ่ก็เล่าเชิงระบบก็แล้วกัน หน่วยเล็กก็ล้อไปตามนั้นจากงานประจำที่ทำอยู่น่ะแหละ .....จะได้เล่าเรื่องคุณภาพเป็นเรื่องเดียวกัน เกิดปัญหางานจะได้แก้ไขทั้งระบบ เกิดผลดีต่อภาพรวมโดยเฉพาะผู้ป่วยที่จะได้รับการดูแลเป็นทีมค่ะ
เอาเป็นว่า การเล่าลง Clinical tracer ต้องมีเนื้อหาที่จะเล่าเต็มๆไว้ในมือก่อนค่ะ....แล้วเอามาย่อความ...ขอเน้นค่ะ..ย่อความ(ไม่ใช่เรียงความนะคะ).....เล่าแต่ส่วนสำคัญค่ะ
ที่เขียนเล่ามานี่ก็เพียงแต่เอามาประสบการณ์ที่เคยมาเล่าให้เพื่อนๆฟัง...ถ้าเข้าใจแนวคิดแล้วคงไม่ยากเกินไปค่ะ หวังว่าเพื่อนๆคงไหวนะคะ
ขอขอบคุณ : เพื่อนร่วมวิชาชีพที่mailมาถามการเขียนให้ช่วยแชร์ค่ะ
(คุณขวัญพจน์ อวนพล
.....จะทยอยเล่าการเขียนในแต่ละหัวข้อย่อยของ Clinical Tracer ในบันทึกถัดๆไปค่ะ.....
ข้อความ:
กำลังพยายามทำ Clinical tracer เรื่อง Postoperative Reintubation
พี่มีข้อแนะนำบ้างไหมคะเพราะรู้สึกงงกับการเขียนให้เป็นรูปแบบ เริ่มตั้งแต่ บริบทเลยค่ะ)
สวัสดีครับ อ.ติ๋ว
เห็นด้วยอย่างยิ่งกับทัศนะนี้นะครับ เรื่องจริง..ข้อมูลจริง...ประมวลผลจริง... วิเคราะห์แล้วดำเนินการทำมาแล้วจริงๆ
...
ทุกอย่างไม่ยากไปกว่าการเริ่มต้นที่จะทำ.. ใช่ไหมครับ
และเชื่อว่า อ.ติ๋ว ..ทำได้และทำได้ดีเสียด้วย
....
ผมเชื่อเช่นนั้น..และเป็นกำลังใจให้เสมอ (นะครับ)
สวัสดีค่ะ น้องแผ่นดิน