[อ่าน : ไปเที่ยวงาน "ตลาดนัด กสก. ปี' 50]
"ห้อง D" เป็นชั้นเรียนที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจัดการองค์ความรู้ใน 2 เนื้อหา คือ เรื่องที่ 1 เรื่องกระบวนการจัดการความรู้ ที่นักส่งเสริมการเกษตรนำไปใช้ทำงานและจดการเรียนรู้ให้กับตนเอง และ เรื่องที่ 2 เรื่องรูปแบบและวิธีการจัดการตนเองของนักส่งเสริมการเกษตรให้ "บันทึกและเขียนงานที่ตนเองทำและความรู้ที่ตนเองสรุปจากการลงมือทำ"
"เฮฮา...ภาษา KM" จึงเป็นฉายาของ ห้อง D ที่กำหนดขึ้นมาภายใต้ข้อคิดที่ว่า "เราจะคุยเรื่องการจัดการความรู้ให้มีความสุขสรร...สนุกสนาน...กบทุกคนที่มารวมกันในห้องนี้ และชั้นเรียนแห่งนี้เป็นของทุกคน"
ฉะนั้นการออกแบบจึงเริ่มต้งแต่การคัดสรรนักส่งเสริมการเกษตรที่มี "จุดเด่น" มาเดินเรื่องและชักจูงให้เห็นกรณีตัวอย่างที่ตนเองได้ทำ คือ
อาทิเช่น
คนที่ 1 คุณจำลอง พุฒิซ้อน (สำนักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา) มีจุดเด่นเรื่อง การบูรณาการโครงการ แล้วนำการจัดการความรู้เข้าไปใส่เพื่อใช้ทำงาน
คนที่ 2 คุณวีระยุทธ์ สมป่าสัก (สำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร) มีจุดเด่นเรื่อง การจัดระบบงานส่งเสริมการเกษตร แล้วนำการจัดการความรู้เข้าไปใช้เป็นเครื่องมือ
คนที่ 3 คุณสรณพงษ์ บัวโรย (สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม) มีจุดเด่นเรื่อง กระบวนการตรวจสอบงานส่งเสริมการเกษตร ที่นำการจัดการความรู้ไปร่วมทำงานกับชุมชน
คนที่ 4 คุณสมศักดิ์ แสภู่ (สำนักงานเกษตรจังหวัดสุพรรณบุรี) มีจุดเด่นเรื่อง การวิเคราะห์งานส่งเสริมการเกษตร แล้วใช้การจัดการความรู้เข้าไปขับเคลื่อน
คนที่ 5 คุณพยอม วุฒิสวัสดิ์ (สำนักงานเกษตรจังหวัดน่าน) มีจุดเด่นเรื่อง เครือข่ายการทำงานส่งเสริมการเกษตร แล้วนำการจัดการความรู้เข้าในสวมและเชื่อมโยงสู่กัน
ห้อง D ได้จัดที่นั่งแบบ "จัดเวทีเสวนา" ที่ลดระดับความต่างกันให้มากที่สุด ที่ทำให้ทุกคนในชั้นเรียนมีความสบายตัวให้มากที่สุด และสามารถใช้สื่อและอุปกรณ์เสมือนกับ "อยู่บ้านตนเอง" เช่น จะลุกจะนั่ง, จะคุยจะกิน, จะพูดจะแนะนำ, จะบอกจะเล่า เป็นต้น
และในขณะที่หน้าชั้นเรียนกำลังมีการ "ชวนคุย ชวนเล่า ชวนแลกเปลี่ยน" นั้น ด้านหลังชั้นเรียนก็จะมีคนจับประเด็น สรุปความ บันทึกเรื่องราว และใช้เครื่องมือเขียนเนื้อหา"
โดยจะมีคนที่คอยป้อนประเด็นคำถาม มากระตุ้นชั้นเรียนให้มีข้อมูลและเนื้อหาออกมาจากทุกคน และคอยชวนให้ทุกคนได้มาร่วมกันสร้างบรรยากาศของ "ห้อง D" เช่น นำประเด็นหลัก ๆ มาแซว, นำข้อคิดมาสะกิด, เล่านิทาน เป็นต้น
ห้องเรียน D จึงเกิดขึ้นภายใต้หลักการของ "เฮฮา...ภาษา KM" ที่ถอดบทเรียนของคนในห้องมารวมกันเป็นอัลบั้มที่ชื่อว่า "เทคนิคงานส่งเสริมการเกษตร" ที่เกิดขึ้นจากการใช้วิธีการจัดการความรู้
มาจัดกระบวนการ แล้วใส่บทบาทของผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ หรือ Facilitator เข้าไป ตั้งแต่เริ่มเปิดชั้นเรียนจนปิดชั้นเรียน
นอกจากนี้ในห้องเรียน D มีคนมารวมกัน ประมาณ 70 คน (ดิฉันนับด้วยตนเองค่ะ) ที่สนใจมาสมัครและลงชื่อด้วยตนเอง และคนเหล่านั้นอยู่ร่วมห้องกันจนปิดชั้นเรียน
ส่วนผลงานของเนื้อหา "เทคนิคในงานส่งเสริมการเกษตร" ได้มีการรวบรวมและจัดเก็บไว้ในเครื่องมือ 3 แบบคือ
เครื่องมือที่ 1 Mine Map
เครื่องมือที่ 2 Diagram and Flow Chart
เครื่องมือที่ 3 Problem tree
sawasdee p' siriwan
so quick so good and so cute