เชื่อจริงๆ..... (tag ลับๆค่ะ)


"มนุษย์ทุกคนต้องมีความเชื่อ แม้แต่คนที่ไม่เชื่ออะไรเลย ก็ยังเชื่อว่าตัวไม่เชื่ออะไรเลย".......

คุณพ่อดิฉันบอกว่า ......"มนุษย์ทุกคนต้องมีความเชื่อ แม้แต่คนที่ไม่เชื่ออะไรเลย  ก็ยังเชื่อว่าตัวไม่เชื่ออะไรเลย".......

ดิฉันฟังเมื่อสมัยสาวๆก็เห็นเป็นเรื่องขันดี แต่พอแก่ๆเข้าก็ชักจะเห็นจริง  แต่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเชื่อไปอย่างนั้นเป็นที่สนุกสนาน  อาทิเช่น

  • เชื่อว่าชีวิตผูกพันอยู่กับเลข 13

          ....คือ ออกจะงงๆเหมือนกันนะคะ แต่ชอบคิดไปเองว่าอะไรๆที่มีส่วนทำให้เกิด หรือเป็นจุดเปลี่ยนผ่านในชีวิต มักเกี่ยวพันกับเลข 13  เคยคุยและเคยอ่านเรื่องความเชื่อประมาณนี้ ก็ได้เห็นว่ามีอยู่เยอะ  เลยรู้สึกว่าไม่ได้ฟุ้งซ่....เอ๊ยไม่ได้จินตนาการอยู่แต่ลำพังคนเดียว  ค่อยยังชั่ว

  • เชื่อว่าชอบอยู่คนเดียว 

          ซึ่งเชื่อไปแล้วก็ออกจะขำตัวเอง  ดิฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจว่า ที่เขาว่า "มีโลกส่วนตัวสูง" นั้น  แปลว่าอะไร  เพราะดิฉันเที่ยวได้บอกใครๆว่าเวลาที่มีความสุขมากคือการได้นั่งอ่านหนังสือ   ได้คิด ได้เขียน ได้ฟังเพลงเย็นๆ ในห้องนอนเงียบๆ คนเดียว มีการปิดประตู ปิดม่าน แบบว่าช่างเป็นโลกส่วนตัวอะไรเช่นนี้......  ออกจะดูดีเป็นปัจเจกเอกสตรี...

        แต่พอได้ยินเสียงว่าหลานน้อยๆอายุสองขวบครึ่งแวะมา .............. ดิฉันก็พร้อมที่จะเปิดม่าน เปิดประตู  และเปิดแน่บแล่นถลาออกไปหาเธอ แล้วก็พร้อมจะเนรมิตโลกปัจเจกส่วนตัว(หยกๆเมื่อตะกี้) ให้เป็นแฮ้ปปี้แลนด์แดนเนรมิตรคิตตี้ทาวน์ของหลานๆ 

        ไม่ว่าเธอจะป่วนตู้โต๊ะเตียงของดิฉันให้ระเนระนาดประมาณใดก็ตาม   ดิฉันก็ยังชอบให้หลานน้อยๆเข้ามาสนุกสนานลั้นลันลาในโลกของดิฉันอยู่ดี

  •  เชื่อว่าชอบเขียน  .....มากกว่าชอบพูด.... 

         ดิฉันเชื่อว่า ถ้าให้เขียน ดิฉันพอจะเขียนได้  แต่ถ้าให้พูด ดิฉันลำบากใจ    ที่ผ่านมา ดิฉันโดนไปพูดไปแสดงอะไรๆหน้าชั้นตั้งแต่เด็ก  ประมาณว่าเพื่อนผลัก  ผลักออกไปแล้วก็ต้องเลยตามเลย ทั้งๆที่ไม่ชอบเลยที่จะต้องพูด  ต้องร้องเพลง   ต้องแสดงอะไรต่างๆ......  พอผลักได้ทีนึง คราวต่อๆไปเพื่อนก็ผลักเอาๆ 

         จนวันหนึ่งได้มาเป็นครู  ....ต้องมีอาชีพยืนพูดฉอดๆๆๆ (ทั้งที่เคยอยากเป็นคนเขียนบทหนังฝรั่งมากกว่า)  ดิฉันก็เลยต้องตกกระไดพลอยโจนยึดอาชีพพูดฉอดๆๆๆๆหน้าชั้น ในวันและเวลาราชการมาจนถึงบัดนี้

          อนึ่ง  ทั้งที่ดิฉันเพียรพยายามภูมิใจเสนอเขียนนั่นเขียนนี่ไปมากมาย     ก็หาผู้สนับสนุนและชักนำเข้าวงการไม่ได้  เขียนอะไรก็ไม่ใคร่รุ่ง  จะทำผลงานวิชาการก็ออกจะหนักใจ  จะทำวิจัยก็กลุ้มอย่างที่ว่า  คือกลัวเขียนออกมาแล้วท่านจะชมว่า "....อ่านไม่รู้เรื่อง".....

         จวบจนวันหนึ่งต้องทำงานประชุมอบรมสัมมนา ด้วยจิตวิญญาณของเลเบอร์เอ๊ยเลขาที่ดี  วันนั้นพิธีกรไม่มีดิฉันก็ต้องเป็นเสียเอง...

          ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ ดิฉันก็หนีงานพูดต่อหน้าประชุมชนไม่พ้น งานไหนที่พิธีกรไม่มีหรือโฆษกีไม่มา ท่าน(คือพี่ๆเพื่อนๆและน้องๆ)ก็จะ(กรุณา)ผลักดิฉันออกไปเป็นพิธีกรตัวสำรอง  ดิฉันจะโวยวายอย่างไรก็ไม่มีใครฟัง จนกระทั่งลุกลามไปถึงงานแต่งงาน  และการจัดรายการวิทยุ

          งานแต่งงาน เป็นพิธีกรรมที่ทำให้ดิฉันทำหน้าที่พิธีกรอย่างสุขสมระทมใจมาก  คือสุขใจแทนคู่สมรส แต่เจ็บใจที่ตัวเองไม่มีโอกาสยืนอยู่ในตำแหน่งเจ้าสาว ได้แต่ยืนมองเขามีความสุขกันตาปริบๆ  คือดิฉันมีได้มีจิตคิดอิจฉาผู้ใดเลย ...      .....แค่เจ็บใจตัวเองนิดๆหน่อยเท่านั้น.....

         ส่วนการจัดรายการวิทยุ  คือการพูดในห้องคนเดียว ที่มีช่างเทคนิคเพียงคนเดียวที่จ้องหน้าเราผ่านกระจกกั้น  ดิฉันไม่กล้าบอกใครว่าดิฉันมีปัญหาอันยิ่งใหญ่ ที่คงไร้สาระในความรู้สึกของเพื่อนๆที่เคารพเช่นเคย......   

         ทุกครั้งที่ต้องตะเกียกตะกายไปจัดรายการวิทยุ  ดิฉันรู้สึกเหมือนถูกผลักให้เข้าสู่การรบแบบประจันหน้า ... โดยมีข้าศึกที่เรามองไม่เห็น ...นับจำนวนไม่ได้  และประเมินกำลังไม่ถูก   ไม่รู้ไผเป็นไผ(ไผเป็นหน่อไม้)  ....กำลังประเมินเราอยู่....  โดยที่เราไม่มีทางต่อสู้   

         และการพูด(กับคนจำนวนมากที่เราไม่เห็นตัวตน) โดยมีคนตัวเป็นๆหนึ่งคนมานั่งจ้องหน้าเรา (ด้วยความบริสุทธิ์ใจ) เช่นนี้ ทำให้คนขี้อายเป็นอันขาดอย่างดิฉัน    รู้สึกอึดอัดใจเหลือประมาณ     จะไปโวยวายเอากับใครก็ไม่ได้  เดี๋ยวเขาจะสวนมาให้ได้อายว่า แก่จนเป็นยายแล้ว ยังจะมาอายไม่เข้าเรื่อง 

         (ดิฉันนึกเถียงสวนไปอยู่ในใจว่า ถึงจะเป็นยาย ก็อายเป็นอ่ะ....)

  • เชื่อว่าตัวเองเป็นคนขี้อาย

         ข้อสุดท้ายนี้   ว่าไปแล้วดิฉันก็ออกจะแปลกใจตัวเองอยู่บ้าง  แต่ก็ยังเชื่อแบบเข้าข้างตัวเองว่ามีเพื่อนร่วมโลกที่มีอาการเบี่ยงเบนไปจากนอร์มเหมือนดิฉันอยู่อีกเยอะ 

         ดิฉันทานข้าวที่โรงอาหารเวลากลางวันที่มีคนเยอะๆไม่ได้  รู้สึกประหม่าและอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก  อยู่ในที่มีกิจกรรมจำเพาะซึ่งมีคนเยอะๆก็ไม่ใคร่สะดวกใจ เช่น การนั่งร่วมอยู่ในงานแต่งงาน   เข้าคิวรอตรวจบัตร หรือ รอเข้าแถวซื้ออาหารในที่ๆมีผู้คนล้านแปดเป็นต้น

        ดิฉันอธิบายเพื่อนยาวๆโดยละเอียดดังนี้  เธอก็สรุปสั้นๆแต่ได้ใจความว่า "...ประสาท..."  แต่ดิฉันก็มิได้ถือโทษโกรธเคืองแต่อย่างใด แค่ฝากไว้ก่อนเท่านั้น

        อันที่จริงอาการนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาแก่คนผิวสีเข้มอย่างดิฉันมากนัก  เพราะไม่ว่าจะอายเท่าไหร่  หน้าก็ไม่เปลี่ยนสี   คุณภาพผิวยังคงเข้มดีเหมือนผงไมโลบวกโอวันติน  ด้วยเมลามินเข้มข้น  (เรียกถูกรึปล่าวก็ไม่รู้)

        แต่ปัญหาอยู่ที่ตา  คือนึกแล้วก็ออกจะหนักใจ  เพราะยายเอ๊ยทันทีที่นึกประหม่าอายขึ้นมา(โดยไร้เหตุผลสิ้นดี) ตาดิฉันก็จะกระพริบ  ปริ๊บๆ  ปริ๊บๆ  ปริ๊บๆ  ทำอย่างไรก็ไม่หยุด  จนกว่าจะเลิกอาย  ถ้าคนที่รู้นิสัยกันก็จะสังเกตเห็นได้  และจะล้อเลียนให้ได้อายหนักขึ้น  

        ดิฉันจึงใช้วิธี "ย้ายที่อารมณ์" คือเปลี่ยนโฟกัสจากความรู้สึกอายของตัวเอง  ไปโฟกัสที่เรื่องงานแทน  ทำให้ต้องมีกระดาษปากกาติดตัวอยู่เสมอ  พอรู้สึกอายปุ๊บก็จดบันทึกโน่นบันทึกนี่ปั๊บ    และภาคภูมิใจว่าช่างเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ประเสริฐอะไรเช่นนี้

      เพื่อนรู้เข้าก็สรุปให้อย่างดีเป็นคำสั้นๆเช่นเคย....  แบบที่ไม่อาจเฉลยในที่นี้ได้  คือคิดว่าปล่อยให้เป็นความลับต่อไปจะประเสริฐกว่าอ่ะค่ะ    :-)

ปล. ผศ.ดร.กานดา รุณนะพงศา กรุณาส่ง tag มา ดิฉันก็เพิ่งได้ตอบ (ด้วยความเต็มใจ)  แล้วก็ไม่ทราบเป็นอย่างไร  ตอบทีไร...ต้องย้าว..ยาวๆ ทู้กทีค่ะ      

            

คำสำคัญ (Tags): #สิ่งเล็กๆน้อยๆ
หมายเลขบันทึก: 86047เขียนเมื่อ 24 มีนาคม 2007 08:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

ถึงแม้จะยาว...แต่อ่านเพลินดีครับ...

ผมว่าเป็นการเขียนที่อ่านแล้วได้อรรถรสครับ ไม่น่าจะไกลเกินฝันครับสำหรับการเป็นนักเขียน...

ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ครับ...

ขอนุญาตินำเข้าแพลนเน็ตนะครับ...

อ่านสนุกค่ะอาจารย์

แต่ยังไม่เชื่อว่าอาจารย์ชอบเขียนมากกว่าพูด
ถ้ามีโอกาส คงได้ฟังอาจารย์พูด (บรรยาย) บ้างนะคะ

สวัสดีค่ะคุณดิเรก

ดิฉันแวะไปอ่านบันทึกของคุณหลายหน  และอ่านความคิดเห็นของคุณหลายครั้ง  แต่ไม่ได้เข้าไปเช็คชื่ออ่ะค่ะ   ชอบที่คุณพูดสั้นๆแต่ได้ใจความดี  (ดิฉันก็เป็นอะไรไม่รู้ชอบเขียนยาวๆ :)   ) 

กะว่ากลับจากเดินทางไกลรอบนี้ จะหาเวลาแวะเวียนไปเยี่ยมบล็อกและสื่อสารกับสมาชิกให้มากขึ้น   

ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทายและให้กำลังใจนะคะ  

ขอบคุณคุณต๊ะติ๊งโหน่งที่แวะมาสื่อสารกันนะคะ...  ตั้งชื่อน่ารักจัง  เป็นชื่อเล่นจริงๆรึปล่าวคะ?

....เอ่อ... ดิฉันชอบเขียนมากกว่าพูดจริงๆนะคะ แต่สงสัยเป็นเพราะชอบเขียนยาวๆ เลยดูเหมือนคนพูดมาก...  คือพอเขียนๆไปแล้วหยุดไม่ได้  จอดไม่ทันอ่ะค่ะ ... (^_^)

อ่านแล้วสนุกดีค่ะ  ถ้ามีโอกาส จะเชิญอาจารย์มาเป็นพิธีกรนะค่ะ

เพิ่งเข้ามาอ่านบันทึกจริงๆจังๆครั้งแรก...ก็ชอบและประทับใจมาก...ขอบคุณที่เขียนเรื่องที่อ่านแล้วยิ้มได้ เพลินไปกับเรื่องที่เขียน แล้วจะแวะมาอ่านใหม่นะคะ

อ่านแล้วชอบค่ะ และต้องขอบอกว่าเชื่อทุกอย่างที่บอกมาเลยค่ะ มีหลายๆๆๆๆอย่างมากที่โดนใจ (ไม่อยากบอกว่าคิดเหมือนกัน)

สวัสดีค่ะคุณดอกไม้ทะเล

           บอกได้คำเดียวว่าชอบค่ะ ชอบทุกเรื่อง นั่งอ่านไปยิ้มไป ราณีก็ชอบเหมือนกันค่ะที่หลาน ๆ จะเข้ามาเล่นกับเรา สุดท้ายตอนจบต้องพาไปซื้อขนมให้ทุกที กับหลาน ๆ ใจอ่อนค่ะ (แอบบอกราณีก็เหมือนเป็นคนขี้อายเหมือนกันค่ะ) มีอะไรชอบเหมือน ๆ กัน ยินดีที่ได้อ่าน ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์ราณี 

  • ใครก็ไม่ทราบพูดไว้ว่า เด็กคือสัตว์โลกที่น่ารักและน่ารำคาญในตัวเดียวกัน   ดิฉันฟังแล้วขำกลิ้ง   เพราะเห็นจริงมากับตัวเป็นๆ   แต่ก็ยังคงหลงรักมดตัวน้อยตัวนิดทั้งหลายเหล่านั้นอย่างถอนตัวไม่ขึ้นอยู่ดี 
  • เพราะพวกเขามีโลกของความไร้เดียงสา ที่ป้าเอ๊ยที่เราไม่มีวันถอยหลังกลับไปหาได้อีกแล้ว...
  • แอบบอกอายๆว่าดีใจที่อาจารย์ราณีแวะมาอ่านค่ะ
  • คุณโอ๋คะ  ดิฉันตื่นเต้นอยากรู้ว่าอะไรตรงกันมั่งอ่ะค่ะ !!!....
  • มีเลข 13 ด้วยรึปล่าวคะ ....(คือดีใจไปล่วงหน้าแล้วนะคะเนี่ย  ...)    \^_^ /
  • สวัสดีครับคุณครู
  • เข้ามาทักทายพร้อม เรียนรู้แท็กลับๆ ในหลายๆ เชื่อว่า ครับ
  • เป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์กิจกรรมการสอนและทำประโยชน์เพื่อสังคมครับ

สวัสดีค่ะ  อาจารย์ ผศ.ดร.กานดา   ดิฉันดีใจที่ได้เล่าเรื่องนี้นะคะ ต้องขอบพระคุณอาจารย์ด้วยที่ tag มา

เรื่องเป็นพิธีกรนี่  ดิฉันก็นึกขำตัวเองอยู่บ่อยครั้งนะคะ    คือหลายๆครั้งก็คล้ายๆกับว่าเขาหันซ้ายหันขวาไม่เห็นใครแล้วก็เอาอันเนี้ยแหละ .... ใกล้มือดี   เก๊าะคว้าแขนหมับ...   

...ใจหายวาบทุกทีเลยเลยอ่ะค่ะ ....''' ^_^ '''....

  • คุณเม้งคะ ..ตอนนี้ไม่ลับแล้วค่ะ  เปิดหมดเลย 
  • ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ  พรุ่งนี้จะเข้าไปแสดงความเห็นประเด็นคณิตศาสตร์ของคุณเม้งด้วย  คำถามน่าตอบจัง..ชอบค่ะ :)

ขอบคุณคุณพัชนีนะคะที่อ่านไปยิ้มไป  ตอนเขียนดิฉันก็นั่งหัวเราะกิ๊ก ขำตัวเองเหมือนกัน.....   (^_^)

เชื่อว่าอาจารย์ต้องเป็นคนเขียนเก่งแน่ๆ เพราะสำนวนอ่านแล้วเพลิดเพลิน อารมณ์ลื่นไหลมากเลยค่ะ

เพียงแต่สะกิดเรื่องความเชื่อว่า ชีวิตเกี่ยวข้องกับเลข 13 น่ะค่ะ  ทำให้ฉุกคิดว่า อาจารย์ต้องเป็นคนที่ชอบความลึกลับ ชอบคิดฝัน และมีจินตนาการมากมายแน่เลย เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะคะ ถ้าผิดโปรดอย่างเคือง ^__^

k-jira เองก็ชอบสิ่งลี้ลับค่ะ  ไม่ได้หมายถึง ชอบไสยศาสตร์หรือเชื่อโชคลางนะคะ แต่หมายถึง ชอบสิ่งที่มันลึกลับ เพราะรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ชวนให้สนใจ ชวนให้คิดหาคำตอบ และจุดประกายจินตนาการได้ดี

^_________^

 

ดิฉันชอบเขียนแต่ไม่คิดว่าตัวเองเขียนเก่งเลยค่ะ คุณ  k-jira คือดูมีน้ำมากกว่าเนื้อทุกที  ประมาณว่าเขียนโดยใช้ความรู้สึกมากกว่าความรู้  ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล แต่ไม่ได้เป็นคนขี้โมโหนะคะ 

 คือเพื่อนบอกว่าจัดอยู่ในประเภทความรู้สึกช้า....  แบบว่าเขาไปถึงปากซอยแล้วถึงได้รู้ตัว  :) 

เรื่องเลข  13 นี่เป็นความเชื่อแบบสนุกสนานน่ะค่ะ อาทิเช่น จู่ๆก็พบว่าตัวอักษรชื่อนามสกุลตัวเอง  นับได้ 13 ตัวพอดี  (และที่จริงก็มีคนcaseนี้เป็นล้าน) คือเมื่อเห็นเป็นสถิติหลายครั้งเข้า  ก็ลุ้นว่าหนต่อไปจะมีเลข 13 เข้ามาเกี่ยวข้องไหม    พอลุ้นออกนอกหน้าก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใคร่ศักดิ์สิทธิ์ 

ต้องเผลอๆลืมๆไปเดี๋ยวก็โผล่มาใหม่ให้ลุ้น  สนุกดีอ่ะค่ะ .....

 

ผมเกิดวันที่ 13 แถมเป็นคนขี้อายเหมือนอาจารย์ ดอกไม้ทะเล กับ อาจารย์Ranee ครับ   แต่ที่แน่ๆเป็นคนไม่ชอบเขียนและไม่ชอบพูดครับ
  • สวัสดีค่ะคุณหมอคนชอบวิ่ง  ดิฉันเกิดวันที่ 1  ค่ะ  เสียดายจังที่ไม่ใช่เดือน 3   ไม่งั้นคงจะขลังกว่านี้    :)
  • คุณหมอไม่ชอบเขียนแต่เขียนเก่งนะคะ
  • ดิฉันชอบอ่านเรื่อง ขยะ ของคุณหมอ แต่ไม่ได้สื่อสารไว้ค่ะ เพราะเขียนทีไรยาวทุกที  อยากเขียนให้ครบอย่างที่ใจนึก  กลัวเกิน 3 หน้าบันทึกค่ะ
  • ดิฉันสนใจปัญหาขยะ มีเรื่องใหญ่ๆเกี่ยวเนื่องให้คิดมาก  แต่ปัญหา(คือการแก้นิสัย)แก้ยากมากค่ะ  แถวบ้านดิฉัน  การแยกขยะยังไม่ได้ผล  แต่เข้าใจว่าทุกโรงเรียนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้  และสื่อสารกับเด็กมาโดยตลอด
  •  ขอบพระคุณที่แวะมานะคะ  อยากเรียนว่าดิฉันเป็นอาการขี้อายแบบว่าไม่กล้าออกกำลังกายนอกบ้านด้วยค่ะ  แต่มั่นใจว่าจะต้องรักษาหายก่อนเกษียณแน่นอนอะค่ะ :)

นานๆจะมีคนชมว่าเขียนเก่ง  เลยต้องมารับคำชม ขอบคุณมากครับ  อิอิ

                           : )            &          : )

ตามคุณดิเข้ามาครับ เขียนไว้เยอะจัง ทำไมไม่เอาบทความที่บล็อกโน้นมาด้วยละครับ ผมชอบบทความนี้เพราะมีที่เหมือนกันอย่างน้อยสามข้อ ดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ ขอยืนยันว่ายังไม่แก่หรอกครับอย่าเพิ่งรีบ แต่ก็เห็นด้วยนะครับผมก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติไม่อยากย้อมผม เด็กๆยังจำได้และถามถึงบ่อยช่วงเทศกาลเพราะจะพากันไปที่เดิมทุกครั้ง มีโอกาสแวะไปบ้างนะครับ ไม่ไกลกันเลย พาครอบครัวไปพักผ่อนเมื่อไหร่ยินดีต้อนรับเสมอนะครับ

หวัดดีค่ะคุณมิตรไกลๆ

ต้องขอบพระคุณคุณอดิเทพนะคะที่ทำให้ได้พบกันอีกครั้ง  สำหรับที่นี่ตอนแรกว่าจะลงเฉพาะการรู้เท่าทันการสื่อสารเรื่องเดียว  แต่เจ้าของเคบินบอกว่าคนอ่านหลับหมดแน่ เลยพยายามเขียนเรื่องที่คิดว่าอ่านแล้วไม่ง่วง   ของบล็อกโน้นทีม"อภิปราย"กันดุเดือดอย่างที่เห็นเลยไม่ยกมา    แต่ TS คงชินแล้วใช่ไหมคะ : )  

ดีใจที่แวะมาและขอบคุณที่ปลอบใจนะคะ  ที่จริงแอมแปร์ก็ไม่ได้รีบหรอกค่ะ มันไปเองตามวัย  และเต็มใจให้เป็นไปตามธรรมชาติ   จะหงอกก็ให้หงอกไป  ไม่ย้อมเหมือนกันค่ะ นักศึกษาแซวว่าเป็น "มิลเลนเนียม บลิ้งค์บลิ้งค์"   เลยยืนยันไปว่าเป็นแบบเพอร์มาแน็นท์บลิ้งค์อีกต่างหาก   : )   ทีมพบกันครั้งหลังสุดยังนั่งหัวเราะกันว่าเวลาผ่านไปเร็วจริง  นัดเจอกันคราวหน้าคงต้องให้หลานจูงกันมา  สองสาวโตขึ้นเยอะนะคะ  เห็นรูปครั้งล่าสุดที่เคบินยังตกใจ  ถ้าหัวหน้าไม่บอกก่อนคงจำไม่ได้  บัดดี้บอกว่าเก่งภาษาทั้งคู่ เหมือนคุณพ่อ : )  ฝากบอกเด็กๆด้วยว่าน้าแอมป์คิดถึงเสมอนะคะ เด็กๆฉลาดมากและมีไหวพริบหาตัวจับยาก  ดีใจจังที่เด็กๆยังจำได้    ต้นหิรัญญิการ์ยังอยู่ที่เดิม หัวหน้าทำแคร่กับเปลญวนไว้น่านั่งเล่นมากค่ะ      ดีใจด้วยอย่างยิ่งที่ได้"กลับบ้าน"นะคะ  ทีมพักร้อนกลับมาเมื่อไหร่จะแวะไปเยี่ยมเยียนแน่นอนค่ะ : )

สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่แอมป์

  • ฮึ๊ย....ดีใจๆๆ
  • โผล่มาทันพี่แอมป์พอดีเด๊ะเลย....อ้อ..น้องได้รับเมล์อวยพรของพี่แล้วนะคะ  ขอบคุณพี่แอมป์กับพี่ต่อล่วงหน้าด้วยค่ะ
  • พี่แอมป์ขา....น้องมาสวัสดีปีใหม่พี่ก่อนนะคะ
  • ปีใหม่นี้ขอให้เป็นปีที่ดีที่สุดของพี่แอมป์เลยนะคะ
  • หากพี่คิดและหวังสิ่งใดก็ขอให้สมปราถนาทุกประการทั้งสิ้นเทอญ
  • มีความสุขม๊าก...มากตลอดปีและตลอดไป
  • ด้วยรักจากใจริง...
  • น้องสาวค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

P หวัดดีจ้าน้องแอน

 

  • โห..ดีใจสุดยอดเลยแอน พี่ตอบบันทึกโน้นเห็นรูปใหม่แอนแล้วว่าจะเมลไปทักว่ารูปสวยจัง 
  • ทันใดนั้นน้องแอนก็โผล่มาสวยทีเดียวสามรูปเลย  : )   : )   : )
  • พี่ไม่ได้เจอพี่ต่อหลายวันแล้ว  กลับมาเมื่อไหร่จะตะครุบเอ๊ยจะจับตัวไปเลี้ยงปีใหม่ บอกมาหลายหนแล้วยังไม่ได้ไปซักกะที  ว่างไม่ตรงกัน
  • สรุปว่ายุ่งทั้งคู่  อิอิ  : )
  • ขอบคุณแอนมากๆจ๊ะสำหรับพรปีใหม่  ขอให้พรที่ดีที่สุดจงเป็นของน้องในปีใหม่นี้เช่นกันจ๊ะ
  • ไอเลิฟยูทู่จ้า  ^_^ 

เม็ดสี..เมลาโตนิน มั้งคะ ไม่ใช่เมลามีน..เอ หรืออาจารย์ แอมป์ตั้งใจแซวประเทศจีน

แซวล่วงหน้า..อิ อิ

 

อันนี้..แซว

  P     สวัสดีด้วยความคิดถึงน่าดูค่ะพี่อึ่งอ๊อบ

แอมแปร์ดีใจมากๆค่ะที่พี่อึ่งอ๊อบแวะมาบอกว่าสบายดี   ขอให้พี่อึ่งอ๊อบคนดีรักษาสุขภาพและทำงานอย่างมีความสุขนะคะ   สำหรับวัย(ยังพอ)ทำงาน(ไหว)อย่างพวกเรานั้น  ความสุขในที่ทำงานสำคัญจริงๆ   และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น  คือการสร้างความสุขในระหว่างการทำงานได้ด้วยตนเอง  อันนี้แอมแปร์ชอบที่สุดเลยค่ะ  ชอบจริงๆเวลาที่ทำได้  คือมันทำให้เรามีความสุขแบบนิ่งๆสบายใจดี  และหลายๆคนคงเคยรู้สึกเช่นที่ว่านี้    "สุขในงาน"  (อนึ่ง ห้ามเปลี่ยนตัวสะกดจาก ข ไข่ เป็น ก ไก่ อย่างเด็ดขาด )   : ) 

สำหรับหลักฐานเป็นภาพประกอบเล็กจิ๋วที่ดูสบายอารมณ์ดีของพี่อึ่งอ๊อบ   แอมแปร์ชอบมากค่ะ  ท่าทางสบายดีอย่างแท้จริง  (หลังจากที่ได้ส่องดูด้วยแว่นขยายแล้ว)  ตอนโอกาสดีๆที่ไม่มีใครเห็น  แอมแปร์ชอบนอนบนสนามหญ้าแล้วก็ร้องเพลงกล่อมตัวเองอย่างมีความสุข  วัชพืชแถวนั้นระเนระนาดไปตามๆกัน

เอ่อ..   อย่างไรก็ตาม  สำหรับแมงและแมลงเล็กๆน้อยๆแถวนั้น  คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่ 

...เพราะมันคงโดดหนีกันทันอะค่ะ..   อิๆๆๆ

สวัสดีค่ะคุณหมอเล็ก 

ยินดีที่แวะมาแซวนะคะ  : )   บันทึกนี้ต้องขอบคุณน้องต้อม (ผศ.ดร.กานดา) ที่กรุณาส่ง tagลับๆเอ๊ยแถ็กความลับมาค่ะ  (คำฝรั่งบางคำเวลาถ่ายเสียงเป็นคำไทยฟังแล้วขำดี) 

ตอนเด็กๆพี่แอมป์เป็นคนผิวสองสีอะค่ะ  แล้วก็ได้ยินในโฆษณาอะไรสักอย่างเรื่องสีผิวและเม็ดสี เลยจำมา  
อ้าว..  เขาเรียก เมลาโตนิน หรอกหรือคะคุณหมอเล็ก
.. ว้า.. นึกแล้ว..   ว่าต้องผิด..  : )

อ่า...  ไม่เป็นไร  เขาว่าผิดหนนึงเป็นครู   ผิดสองหนเป็นอาจารย์อะค่ะ   อิอิ

 

ปล.ขออภัยคุณหมอเล็กที่ตอบสลับลำดับนะคะ    ขนาดใส่แว่นแล้วนะคะเนี่ย : )

 

ไว้เขียน เพื่อนนิ่วและการผ่าตัดที่ครื้นเครง เสร็จจะมาชวนไป(อ่าน)ดูคุณหมอขี้ปอด(แหก) คนหนึ่ง ค่ะ

ฝากอันนี้ก่อน ปวดท้องสามปีกับคำตอบ

P สวัสดีค่ะคุณหมอเล็ก 

 

 

พี่แอมป์ตกข่าวอีกแล้ว !!  

ขอให้คุณหมอเล็กแข็งแรงดังเดิมไวๆนะคะ  และจะตามไปอ่านเรื่องที่เอามาฝาก ณ บัดnow ค่ะ : ) 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท