จันทร์ที่ 29 สิงหาคม  วันนี้เป็นวันที่ 3 ของการเที่ยวใน Moscow เราตั้งใจกันว่าวันนี้จะออกนอกเมืองเพื่อไปยังเมือง Zagorsk (ซาร์กอส) หรือ Sergiev Posad (Сергиев Посад) อ่านว่า เซอร์กาเยฟโปสาด  วิธีไปก็แบบนี้ค่ะ  เริ่มต้นด้วย Metro สายสีแดงใกล้ที่พักคือ Охотный ряд  ไปสถานี KOMSOMOLSKAYA (КОМСОМОЛЬСКАЯ) ออกจาก metro ให้เดินตามป้าย Ленинградский Ярославский แปลว่า Leningrad Yaroslavl เป็นชื่อสถานีรถไฟของมอสโควค่ะ สำหรับ สถานี Leningrad จะไป St petersberg ส่วน Yaroslavskiy จะไป Sergiev Posad ที่เราต้องการนั่นเอง  เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ ก็จะมาโผล่ออกทางด้านหลัง  เจอ counter ขายตั๋วเป็นช่องๆ ออกไปยืนเอ๋อ ได้ซักแป๊ป เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเข้าไปซื้อช่องไหน  ถามใครก็พากันเดินหนี  จนกระทั่งเดินไปถามหนุ่มคนหนึ่งพร้อมกับชี้ภาษารัสเซียที่เป็นโพยในมือว่า Сергиев Посад ซื้อตั๋วช่องไหน เค้าก็พาไปช่องนึง เราก็ชี้ชื่อเมืองให้คนขายดู  คนขายก็ดูนาฬิกาข้อมือ แล้วหยิบเครื่องคิดเลขมากด 10.23 ให้เราดู  เราก็เข้าใจว่าเป็นเวลารถออกเที่ยวต่อไป ก็เลยพยักหน้า พร้อมกับบอกว่า round trip for 2 adults  คนขายก็ชู 2 นิ้ว แล้วก็ถามเป็นภาษารัสเซียพร้อมกับชี้นี้วไปทางซ้ายและกลับมาทางขวา เราก็เขาใจว่า ไป-กลับ ใช่ป่าว  ก็เลยพยักหน้าหงึกหงึก สรุปแล้วได้ตั๋วมา 2 ใบ ราคาใบละ 264 ruble เย้ ได้ตั๋วแล้ว

     พอได้ตั๋วก็มองหาทางเข้าไปยังสถานี  แอบดูคนอื่นว่าทำไง อ๋อ เอาบาร์โค้ดเสียบเข้าไปที่เครื่องอ่าน ไฟขึ้นสีเขียว ประตูจะเปิด แล้วก็เดินเข้าไป ก็ทำตามมั่ง

     พอหลุดเข้าไปในสถานีได้ ก็เอ๊ะ อีก แล้วไปขบวนไหนหว่า  เพราะมองดูป้ายที่บอกว่ารถขบวนไหน ไปไหน อยู่ plateform ไหน ของเวลา 10.23 ก็ยังไม่ขึ้นมา  ก็เลยไปนั่งรอก่อน 

     ตรงที่นั่งรอเราก็ถือโพย ที่มีทั้งภาษารัสเซียและภาษาไทยปนกัน อ่านซ้ำไปซ้ำมา  ก็มีคนที่นั่งข้าง ถามว่า Chinese? เราก็ยิ้มบอกว่า no I come from Thailand. คือ มีเพียงเรา 2 คน เท่านั้นที่เป็นชาวเอเชีย  เค้าก็คงจะคุ้นกับคนจีนมากกว่า ทำนองนี้ เค้ามองโพยในมือเราเห็นคำว่า Sergiev Posad เค้าก็ถามว่า จะไปเหรอ ก็เลยพยักหน้าและถามเค้าว่า รู้ป่าวว่าไปคันไหน  เค้าก็เลยไปถามคนอื่นให้ แล้วก็ชี้ไปยังขบวนนึง ซึ่งยังไม่มีป้ายขึ้นว่าจะไปไหน  เราก็เลยไม่แน่ใจ  เดี๋ยวรอให้ป้ายขึ้นก่อนดีกว่า

     รอไปเรื่อยๆ จนใกล้เวลาก็ยังไม่มีป้ายขึ้น  เริ่มร้อนรนละทีนี้  จนเราต้องเดินไปถามผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวคล้ายเป็นคนตรวจตั๋ว (เดาเอา)  เค้าก็รออยู่เหมือนกัน  คือเวลาถาม ต้องถามเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาใบ้ และโพยในมือ รวมทั้งถ้าหงุดหงิดแล้วก็ภาษาไทยก็มี  จนสุดท้ายเค้าก็เลยเรียกให้ตามเค้าไปที่รถคันนั้นนั่นเอง คราวนี้มั่นใจแล้วค่ะ

     ภายในรถเป็นเบาะหนังนั่ง 3 ที่ หันหน้าชนกัน  รถเกือบจะเต็มอยู่แล้ว  ดีนะที่ขึ้นมาก่อน  พอขึ้นรถได้ก็มองหาห้องน้ำกัน มองไปมองมาไม่เห็นมี  ก็เลยกด iphone ถามคนข้างๆ ว่า มีห้องน้ำแถวๆ นี้หรือเปล่า  เค้าก็ส่ายหน้าตอบเป็นภาษารัสเซีย เดาว่า ไม่มี  ก็เลยต้องอดทนกันต่อไป  รถไฟเป็นรถหวานเย็นจอดแทบทุกสถานี รวมเวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง  ไปถึงก็เกือบๆ เที่ยงแล้วค่ะ  สภาพภายในรถค่อนข้างแออัด ให้อารมณ์เหมือนรถไฟชั้น 3 บ้านเราค่ะ

     ถึงแล้วสถานีปลายทางแต่เราก็ไม่หิวกันสักเท่าไหร่ หยิบเสบียงออกมากินรองท้องแล้วออกเดินตามโพย เดินออกมาก็จะเจอตลาดเล็กๆ มีของมาวางขายแบบนี้ค่ะ บรรยากาศตลาด

     ตามที่อ่านมาวิธีไปก็คือเดินตรงออกมาจากสถานี  ผ่านสถานีรถบัส  แล้วเลี้ยวขวา เดินตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นยอดโดมหัวหอมอยู่ลิบๆ

เดินตามคนไปเรื่อยๆ จะเห็นทางไปแบบนี้ค่ะ 

เดินผ่านขอทาน เยอะอยู่เหมือนกันค่ะที่นี่

     เดินขึ้นไปถึงประตูทางเข้าแล้วก็เข้าไปกันเลย  ค่าเข้าไม่เสียค่ะ  ค่ากล้องก็ไม่เห็นมีคนมาเก็บ  คงเพราะไม่ได้หยิบกล้องออกมาโชว์  ก็เลยเดินกันเข้าไปด้านในเลย

     ด้านในสวยงามมากเลยค่ะ  อันที่จริงจะเก็บเงินสักหน่อยก็ไม่น่าจะมีใครว่า  มีโบสถ์  เสาโอบิลิส  และก็บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เราก็ไปรองกินกะเค้าด้วย  ไหนๆ ก็มาละ  อยู่ในนี้กันเกือบชั่วโมงครึ่ง นี่เป็นภาพโบสถ์ต่างๆ ที่เจอกับแดดแรง แรง สีก็เลยสวยงามมากอย่างที่เห็น

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีคนเอาภาชนะมารองกลับบ้านด้วยค่ะ

ตรงนี้ขอบาย เพราะคิวยาวเหลือเกิน และก็อาจจะเสียตังค์ค่าเข้าด้วย  ก็เลยไม่ไปต่อคิวกะเค้า

ส่วนนี่เป็นภาพภายในโบสถ์ค่ะ เค้าไม่หวงถ่ายรูปก็เลยเก็บมาฝาก

วิวโบสถ์หัวหอมอีกนิดนึง

     อิ่มหนำกับบรรยากาศโบสถ์นอกเมือง  ก็เดินกลับออกมาเที่ยวตลาดใกล้ๆ กับสถานีรถไฟ ตลาดนี่เหมือนกับตลาดบ้านเรา ของขายเป็นแผงๆ เหมือนของจากเมืองจีนอะไรทำนองนั้น 

     ที่นี่เราได้ช็อกโกแล็ตเด็กตาแป๋วเป็นของฝาก ราคาถูกมากมากค่ะ อันใหญ่ 43 ruble เลยเหมามาซะหน่อย ขอบอกว่า รสชาติอร่อยมากเลยค่ะ

     จากนั้นกินอาหารกันในห้างแถวๆ สถานีรถไฟ อ้อ กินแมคโดนัล ค่ะ ก็ไปชี้ๆ ที่เมนู พนักงานจะเอามาให้ค่ะพอเค้าทักแล้วเราทำหน้าเอ๋อ เค้าก็จะไปหยิบเมนูมาให้ชี้ สำเร็จ ได้กินแบบที่ตั้งใจ ราคาไม่แพง 

     ขากลับรถไฟค่อนข้างแออัดยัดเยียด มีทั้งคนยืนคนนั่ง  การนั่งรถไฟไปนอกเมืองวันนี้ได้อะไรมากมาย  เป็นความเอื้อาทรของคนรัสเซีย เค้าลุกให้คนแก่  เด็ก และผู้หญิง ตลอดเลยค่ะ  ผิดกับบางประเทศอย่างสิงคโปร์ ไม่มีลุกค่ะ ช่วยเหลือตัวเอง  ตอนไปครั้งก่อนแม้แต่เด็กน้อยก็ต้องยืนกันตามรถไฟ  ไม่เหมือนที่นี่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะคนของเค้าผ่านความยากลำบากมามาก ทำให้เห็นใจกันมากกว่าประเทศที่ไม่เคยลำบากมาก่อน  อ้อ รถไฟไม่มีแอร์นะคะ  กลับมาถึง Moscow ก็เกือบ 5 โมงเย็น  หลังจากนั้นเราก็ว่าจะไปดูละครสัตว์รัสเซียกัน

     จากสถานี КОМСОМОЛЬСКАЯ ก็ไปต่อกันที่สายสีเทาเพื่อไปลงที่สถานี TSVETNOY BULVAR (Цветной бульвар)  พอมุดขึ้นมาก็งงอีก ไปทางไหนดี  ก็หยิบแผนที่ออกมาดู อ๋อ เดินไปทางขวาของสถานีนี่เองค่ะ เดินไปประมาณ 50 เมตรก็ถึงโรงละครสัตว์ Nikoulin  ซื้อตั๋วข้างใต้  และก็มีคนขายตั๋วผีมาติดต่ออีกว่า ตอนนี้นะ ราคาตั๋วเหลืออยู่ 2 ราคาเท่านั้นก็คือ 1800 กับ 2500 แต่ถ้าซื้อที่เค้า จะได้ราคาเพียง 1000 ruble แหม ใครจะไปกล้าซื้อ เดี๋ยวซื้อเสร็จจะไปเข้าประตูเข้าไม่ได้ทำไง คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง  ก็เลยตัดสินใจซื้อจาก counter ดีกว่า รูดการ์ดไป ราคา 1800 ruble/person  ขณะนั้นเวลาประมาณทุ่มกว่าๆ แล้ว ละครสัตว์เริ่มแสดงตอนทุ่มครึ่ง  ไม่มีเวลาไปกินข้าวแล้วก็เลยกินช็อคโกแลตเด็กตาแป๋วรองท้องกันไปก่อน แล้วก็เดินเข้าประตูเพื่อชมละครสัตว์กัน  ที่นั่งใกล้เวทีมากมากเลยค่ะ แถวที่ 3 จากหน้าเวที ชัดมากมาก ด้านในไม่ให้ถ่ายรูปค่ะ การแสดงประมาณ 2.30 ชั่วโมง มีพักครึ่ง 15 นาที  การแสดงน่าประทับใจมาก  ต้องมาดูค่ะ ไหนๆ ก็มาแล้ว นี่เป็นภาพก่อนเริ่มการแสดง

และเพื่อนใหม่ค่ะ

     แล้วก็เดินทางกลับที่พักกันด้วยความเหนื่อยอ่อน  แต่สนุกมาก  เจอกันตอนต่อไปนะคะ

ติดตามตอนหน้าได้ที่นี่ค่ะ http://www.gotoknow.org/blog/learn2travel/462752