การเดินทาง : วันเริ่มต้นของการเดินทาง “สงกรานต์”


 

 

ออกเดินทางจากขอนแก่น เวลาประมาณบ่ายโมง ไปรับน้องติ๋วที่บ้านจากนั้นเราก็ขับรถมุ่งหน้าที่หนองคายตามที่ได้นัดหมายกันกับพี่เอียดและพี่รุ่ง การเดินทางครั้งนี้เราไม่รีบมากนัก แวะนั่งจิบกาแฟที่ร้านริมทางที่จังหวัดอุดร... จากนั้นก็เคลื่อนกันต่อมาที่หนองคายถึงที่หมายก็ค่ำพอดี เรานำจักรยาน มาประกอบและพร้อมปั่น

 

ฉันชี้ไปทางสะพานข้าม มิตรภาพไทย-ลาว บอกกับน้องติ๋วว่านั่นคือเป้าหมายของเราที่เราจะปั่นจักรยานไปที่นั่น น้องติ๋วรับคำและเราก็ปั่นกันไปตามทาง ถามผู้คนแถวนั้นเป็นระยะๆ ปั่นไปแบบไม่เร่งรีบ  ที่สุดเราก็ถึงสะพานและได้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ ถึงการนำจักรยานปั่นไปฝั่งตรงข้าม ซึ่งก็คือ ปลายสะพานฝั่งลาวนั่นเอง เจ้าหน้าที่มองหน้าเราสองคน และตัดสินใจว่าเราอย่าปั่นไปเลยให้นำรถจักรยานขึ้นรถโดยสารดีกว่า เราสองคนจึงตัดสินใจ ที่จะไม่ปั่นข้ามไปเพราะไม่อยากให้เกิดความยุ่งยากและเคารพในการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ จึงได้ตกลงใจฝากจอดจักรยานไว้ที่ฝั่งลาว และจับรถโดยสารข้ามไป 

 

ขากลับออกมา ... ไปหยุดยืนอยู่ร้านปลอดภาษี และติ๋วก็พูดเสียงดังขึ้นมาว่า ร้านอั้นภาษี ดิฉันหันไปมองแล้วเราก็หัวเราะขำด้วยความน่ารักของภาษา

 

อั้นภาษี = ปลอดภาษี

 

ระหว่างยืนรอตรวจคนเข้าเมืองที่ด่าน... มีฝรั่งและญี่ปุ่นยืนอยู่ข้างหน้าเราสองสามคน เมื่อเกือบจะถึงคิว มีชาวเวียดนามวิ่งมาสามสี่คนลัดคิว หญิงสาวชาวญี่ปุ่นไปต่อหน้าต่อตา เจ้าหน้าที่ด้านลาวก็ไม่ได้ว่าอะไร นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นก็ได้แต่โวยวายแบบเงียบๆ เพราะดูท่าเธอจะพะวงกับข้าวของสัมภาระมากกว่าการโดนลัดคิวเสียอีก...

 

แต่ท้ายสุด....ของการเดินทางวันแรก เราเพียงเยี่ยมหน้าเข้าไปทักทาย เวียงจันทร์ แล้วก็กลับเข้ามานอนที่หนองคาย รอพี่เอียดกับพี่รุ่งมาสมทบ

 

 

วันแรกฉันกับน้องติ๋วก็เลยพากันตะลอนทัวร์ในค่ำคืนที่หนองคาย...

เมื่อข้ามฝั่งกลับมาที่หนองคายก็มืดแล้ว เราก็ปั่นจักรยานมาตามเส้นทางเลียบฝั่งโขง ชี้มือไปที่เจดีย์...ที่มองเห็นแสงไฟลิบๆ... ก็เลยตกลงกันว่านั่นคือเป้าหมายของเรา ระหว่างทางที่ปั่นจักรยานไปนั้น บ้านเรือนเริ่มปิด จะมีก็เพียงแต่ร้านค้า และร้านอาหารที่นั่งกับพื้นริมโขง  เมื่อไปถึง พระธาตุเมืองหล้าหนอง ที่เรามองเห็นลิบๆ เมื่อตอนอยู่สะพาน ได้เจอกับเด็กๆ สามสี่คนมานั่งพูดคุยด้วยและได้เล่าที่มาที่ไปของพระธาตุนี้ให้ฟัง

 

พระธาตุเดิมอยู่กลางน้ำ ส่วนพระธาตุนี้จำลองขึ้นมา...

 

เด็กน่ารัก พลัดกันเล่า แรกๆ ก็มีท่าทีเขิลอาย มีเจ้าตัวเล็กสุด ชิงเล่าก่อนพี่ๆ ก็เลยเล่าเสริมเป็นที่สนุกสนาน...ฉันนั่งเล่นพูดคุยกับเด็กๆ สักพักมีพี่เอียดโทรมา...นัดแนะจุดนัดหมายที่ร้านนม...ริมโขง

 

สไตล์เดิมของการพูดคุย...เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ...

พีเอียดเล่าว่า...ลื่นไถลก้นกระแทก...ขัดยอก คาดว่าจะปั่นจักรยานเข้าเวียงฯ ไม่ไหว(สำนวนคนลาวเรียกเวียงจันทร์ว่า เวียง เฉยๆ) เราก็เลยตัดสินใจใหม่ว่า พรุ่งนี้เช้าเราจะข้ามด่านตั้งแต่เช้า...และตรงไปที่วังเวียงเลย แล้วค่อยตะลอนด้วยจักรยานที่นั่นแทนที่จะปั่นไปเวียงจันทร์และพักค้างตามที่กำหนดเดิมแล้วค่อยไปต่อที่วังเวียง -----> แผนใหม่ของเราจึงมุ่งหน้าสู่วังเวียง... สร่างซาเทศกาลสงกรานต์แล้วจึงค่อยตัดสินใจกันใหม่ว่าจะไปต่อที่หลวงพระบางหรือไม่...

 

ค่ำคืน...ที่บ้านพี่นาง

สาวๆ ต่างพูดคุยเรื่องหนังสือ และนำมาอวดกันว่าใครหอบหิ้วเล่มไหนไปบ้าง... จริตที่คล้ายกัน คือ การอ่านหนังสือและผจญภัย...เราเลือกที่จะนอนห้องเดียวกันที่บ้านพี่นาง และตื่นมารับรุ่งอรุณเช้ามืด

 

 

11 เมษายน 2551

 

 ............................................

 

 

หมายเลขบันทึก: 177657เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2008 17:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)
  • สวัสดีค่ะ น้องกาปุ๋ม
  • ใครกันนะ บอกไว้ว่า มาหนองคาย จะส่งข่าวมา
  • เลยอดเข้าเมืองไปเที่ยวสงกรานต์เลย

พึ่งคุยกับพี่ขจิตอยู่เลยว่าเป็นห่วงพี่ ไม่รู้เป็นไงบ้าง แบบนี้ก็ดีนะ นั่งรถไปแล้วค่อยไปปั่นเที่ยว ทางโน้นคนขับรถแย่ๆ ก็เยอะ กลัวจะสอยจักรยานไปกินซะก่อนถึงวังเวียง อยากกลับไปเที่ยววังเวียงอีกจัง สวยมาก ชอบที่สุดคือตอนพายเรือท่องลำน้ำซองง่ะ แล้วก็ชอบของกินคือไส้กรอกหลวงพระบาง อร่อยจี๊ดเลยล่ะ กับลาบไก่ ไม่เคยกินลาบไก่รสชาติผู้ดีขนาดนี้มาก่อน : ) คิดถึงพี่นะ

สวัสดีค่ะ...P  pa_daeng [มณีแดง คนสวย แซ่เฮ]

ทีแรกกะว่าจะปั่นจักรยานไปท่าบ่อค่ะ...ไปจ๊ะเอ๋ป้าแดงค่ะ...ee..

กะปุ๋มมีภาพ...มาฝากป้าแดงด้วยค่ะ...ผสมผสานค่ำคืนเมืองหนองคายและด่านข้ามเมืองยามเช้า...ค่ะ

กะปุ๋มข้ามด้านตั้งแต่เช้าเปิดด่านเลยค่ะ...ประมาณหกโมง...คนไม่เยอะ และเรามีเป้าหมายเพื่อที่จะต่อไปวังเวียงเลยค่ะ...

อ้อ!! ลืมบอกไปค่ะว่า..มีเวสป้าสีขาวมาฝากป้าแดงด้วยเจ้าค่ะ...อิอิ

สวัสดีจ้ะ...ซูซานP  Little Jazz \(^o^)/

ตลอดการเดินทางนึกถึงซูซานตลอดเลยค่ะ...(นึกถึงที่ซูซานไปเช่ารถจักรยานผู้หญิงปั่นน่ะนะ..พี่ว่ามันเหนื่อยมากเลยนะ...555)

(^___^)

ข้ามฝั่งลาว...ก็หลายครั้ง ซึ่งการเดินทางแต่ละครั้งไม่เหมือนเดิมซักครั้ง..และครั้งนี้มีเรื่องเล่ามากมาย แม้ว่าเราจะมีการปรับแผน แต่...สิ่งที่เราเผชิญ...ก็ทำให้เราประทับใจมิรู้ลืม...เดี๋ยวพี่กะปุ๋มจะทยอยเล่าให้ฟังนะ...

แต่ตอนนี้มีภาพ...จักรยานที่ pack เตรียมพร้อมสถานการณ์...มาให้ดู...

อ้อ..ตลอดเส้นทางการเดินทางนะ ... พบคนเดินทางด้วยจักรยานเยอะมาก แต่พิจารณาแล้วช่วงสงกรานต์นี้อาจจะไม่เหมาะเพราะคนลาวหลั่งไหลกลับบ้านเยอะมาก เพราะช่วงนี้คือ ปีใหม่ที่เขามีการเปลี่ยน พ.ศ. จาก 2550 เป็น 2551 ดังนั้นรถจึงวิ่งเต็มถนน คล้ายๆ กับบ้านเราเลย

หากว่าไปแล้ว...ในจำนวนเมืองต่างๆ ในลาวพี่กะปุ๋มจะหลงรักลาวใต้มากกว่าเพราะยังไม่ช้ำมาก ความเจริญยังน้อย ความเดียงสายังมีมาก หากโซนนี้...วังเวียงก็ยังพอพักพิงได้บ้าง แต่...อีกไม่นานก็เกรงว่าจะช้ำเพราะนักท่องเที่ยต่างหลั่งไหลเข้าไป...กลืนความเป็นวัฒนธรรมเดิม

สังเกตดูว่า...บ้านทรงลาวนี่...แถบลาวใต้จะหาดูได้ค่อนข้างเยอะกว่า แม้แต่วังเวียงรูปทรงบ้านก็แปรเปลี่ยนไป...การแต่งตัวของผู้คนก็เปลี่ยนไปมากเช่นกันนะ...

นี่เป็นภาพเมือง "วังเวียง" ในบางมุม บางส่วน...ซึ่งบ้านทรงเก่ามีให้เห็นบางตามาก หากว่าไปแล้วบ้านเมืองที่สร้างขึ้นมาใหม่ส่วนใหญ่จะคล้ายคลึงกับบ้านฝั่งไทยเรามากนะ...

ว่าแต่ว่า...ซูซานได้ "สักหลาว" ไหม ...

สักหลาว = กระโดดบันจี๊จั๊ม... ลงในแม่น้ำซอง..พี่กะปุ๋มไปกระโดดแล้วนะ...ตื่นเต้นมาก...มีเรื่องสนุกๆ มาเล่าให้ฟังเยอะ

(^____^)

ขอบคุณนะคะสำหรับความห่วงใย...

พี่เอียด...ทักผ่านมาทาง msn ว่า

Greensky says:

ส่งรูปที่พักมาให้อวดชาวบ้านหน่อยค้า

ทีแรกก็กะว่าจะทยอยเล่าเป็นเรื่องราว...อิอิ..

แต่ดูท่า...คนรอคอยจะทนไม่ไหว...ก็เลยนำภาพที่พักของพวกเรามาให้ดูก่อน...ซึ่งเป็นที่พักริมน้ำซอง...บ้านพักนี้เราต้องไต่บันไดลงชันมาก... แต่ทิวทัศน์และบรรยากาศนั้นดีมาก และสวย เหมาะต่อการ reset ตัวเอง ในห้วงแห่งวันพักผ่อน...อันเป็นรางวัลสำหรับชีวิต...

บ้านที่เราพักนี้...จะเป็น Hut เจ้าของเป็นชายหนุ่มคนลาว และได้แต่งงานกับสาวเชียงรายบ้านเรา... เป็นที่พักที่เงียบสงบ ถึงแม้ว่าจะมีฝรั่ง แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มที่...ชอบนั่งซึมซับเอาบรรยากาศและสุนทรียทางอารมณ์ อย่างละมุนละไม...

  • ภาพสวยมากๆๆ
  • บ่นๆๆกับน้องซูซานนึกว่าถูกกินฝุ่นไปแล้ว
  • ฮ่าๆๆ
  • อยากไปบ้าง
  • ที่ลาวเขาเล่นสงกรานต์สนุกเหมือนบ้านเราไหมครับ
  • พี่นึกว่าน้องกาเหว่าไปด้วย

 

  • น้องกะปุ๋ม ต้นเดือน พ.ค. ว่าจะพาลูกชายฮัก ไปเที่ยววังเวียง
  • เห็นที่พัก กะปุ๋มแล้ว ชอบจังค่ะ ช่วยแนะนำ ป้าแดงด้วยสิคะ
  • ป้าแดงกำลังจะจอง บ้านสบาย หน้าโรงบาล รอถามจากน้องกะปุ๋มก่อนดีกว่า
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ...พี่แอ๊ด...Pขจิต ฝอยทอง

จริงๆ แล้ววังเวียง หรือในส่วนต่างๆ ของลาวนี่ต้นไม้ยังเยอะอยู่นะ เป็นที่ดักฝุ่นได้ดี แต่ก็ดีใจที่พี่ชายและน้องสาวคิดถึง ขณะที่คนโดนคิดถึงแอบหนีไปเที่ยวอย่างสบายอารมณ์...ee...

ถามว่าที่ลาวเล่นสงกรานต์สนุกไหม... กะปุ๋มว่า...เป็นอีกรูปแบบหนึ่งนะคะ ที่เวียงจันทร์น่ะนะไม่ค่อยต่างฝั่งไทยเลย คือ มีการนำน้ำขึ้นรถยนต์แล้วขับตระเวณไปรอบเมืองสาดนำกัน ร้านรวงต่างๆ ก็ปิด ... ที่ลาวนี่สงกรานต์ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของเขาเลยค่ะ...

สำหรับที่วังเวียงนี่กะปุ๋มชอบ เขาเล่นเป็นเวลาดี คือ ประมาณ สี่ห้าโมงเย็นนี่ ก็เริ่มหยุดเล่นแล้วค่ะ

อ้อ...แล้วเขามีการประกวด และแห่นางสังขาน (ไม่แน่ใจว่าเยนถูกหรือเปล่านะคะ) มีภาพนำมาฝากด้วยค่ะ...

นางงามใช่ไหมนางสังขานนะ งง ดูแล้วคล้ายบ้านเราเนอะ

ป้าแดง...ขาP  pa_daeng [มณีแดง คนสวย แซ่เฮ]

ที่ที่กะปุ๋มไปพักนั้น คือ... "จำปาลาว" ถามใครก็ได้ค่ะ ข้างบนจะแบ่งเป็นห้องๆ ใช้ห้องน้ำร่วมกัน ฝรั่งชอบพักเพราะราคาถูก... ส่วนกะปุ๋มนั้นไต่บันไดลงมาพักข้างล่าง เป็นกระท่อมสามหลังเรียงกันมีห้องน้ำคั่นกลางสองห้อง ใช้ร่วมกัน นอนห้องละสองคน เป็นที่นอนกับพื้น ระเบียงขนานกับน้ำซอง ... มีเปลญวณให้นอนชมวิว และเขาหินปูอันไดรับฉายานามว่า "คุนหมิงลาว"

ที่ "จำปาลาว" นี้เราสังเกตว่า คนไทยจะไม่ค่อยมาพัก นักท่องเที่ยวไทยจะพักรีสอร์ทที่ดูสบายกว่านี้หน่อย ที่มีห้องน้ำในตัว บังเอิญว่ากลุ่มที่เราไป..เราชอบเผชิญและเรียนรู้ และของแปลกๆ เราจึงค่อนข้าง Happy กับที่พักนี้มาก เพราะคนไม่เยอะเป็นส่วนตัวดี...

"จำปาลาว" ค่อนข้างจะห่างจากโรงพยาบาลพอสมควร แต่ก็เดินได้สำหรับคนชอบออกกำลังกาย เดินผ่านหน้าโรงพยาบาลค่อนไปทางทิศเหนือ กะปุ๋มว่าถามใครๆ ก็พอทราบ เพราะวังเวียงเป็นเมืองเล็กๆ..  แต่หากตั้งหลัก ก็ในตัวเมือง ที่รถจอด แล้วก็เดินตรงดิ่งไปทางทิศที่ภูเขาตั้งตระหง่าน เพราะนั้นจะมีน้ำซองไหลผ่าน ... กะปุ๋มและเพื่อนๆ ก็ใช้วิธีการนี้ เดินหาที่พัก...

ทริปนี้...กะปุ๋มใช้เงินแค่สองพันห้าร้อยกว่าบาทเอง รวมทุกอย่าง...

 

พี่แอ๊ด...

บ้านเราจะเรียกว่านางสงกรานต์ค่ะ

นางสังขาน = นางสงกรานต์

ก่อนวันสงกรานต์ คือ วันที่ 12 เมษายน เขาจะมีการประกวดนางสังขานกัน ... ก็จะมีการส่งสาวงามเข้าประกวด มีคนหนึ่งแกขายน้ำปั่นผลไม้ให้กะปุ๋มและเพื่อน สักพักเดินกลับมาแกแต่งตัวทำผมเตรียมเข้าประกวดแล้วค่ะ... เสียดายว่าไม่มีภาพการประกวดมาให้ดู...

สำหรับการแห่นางสังขานนี่...เข่จะแห่กันในบ่ายวันที่ 13 เมษายนค่ะ...

งานนี้กัลยาเธอไม่ได้ไปด้วยค่ะ ...^__^ แต่เธอ plan ไว้ว่าจะชวนหวานใจ...ไปค่ะ เมื่อนั้นนิภาพร ก็จะแอบตามเธอไปค่ะ...อิอิ

 

..................

อ้อ ..กะปุ๋มลืมบอกป้าแดงไปว่า...ที่วังเวียงนี่จะมี "โรตี" ขายเยอะมาก นึกๆ ไปแล้วยังเข้าใจผิดคิดว่า...มาอินเดียเสียอีก...5555 ไปแล้วต้องลองชิมนะคะ...เดี๋ยวเขาว่าไปไม่ถึงวังเวียง หากไม่ได้ทานโรตี...

(^_____^)

  • ขอบคุณน้องกะปุ๋มค่ะ
  • จริงๆแล้วป้าแดง อยากไปแบบโฮมสเตย์ไปอยู่กับชาวบ้านเลยค่ะ
  • -----
  • แต่คนที่จะไปด้วย ชอบความสบาย กลัวร้อน อะไรประมาณนี้
  • งั้นเดินดูก่อน ตามที่น้องกะปุ๋มแนะนำละกันนะคะ แล้วจะเล่าให้ลูกชายฟังตามนี้
  • -----
  • พอดี รู้จักกับ หมอที่อยู่โรงบาลวังเวียงน่ะค่ะ เลยอยากอยู่ใกล้บ้านพักหมอ (ให้หมอจองให้)
  • ขอบคุณมากค่ะ

ป้าแดง..ขา..

พอดีเลย..อยู่หน้าจอ...อิอิ คุยกันผ่านที่นี่เลยนะคะ...

ที่พักแถวหน้าโรงพยาบาลก็ติดน้ำซองเหมือนกันค่ะ...หากไม่รีบไม่เหนื่อย ก็เดินตระเวณดูที่พักก่อนดีกว่า เพราะจะได้พักผ่อนจริงๆ...จริงๆ แล้วที่วังเวียงไม่ร้อนเลยค่ะ...

กะปุ๋มกับเพื่อนเปิดบ้านนอนทุกคืนเลยค่ะ ไม่เปิดพัดลม และไม่กางมุ้งด้วยค่ะ...ความปลอดภัย...ใช้ได้ในระดับหนึ่งเลยค่ะ คนลาวจิตใจซื่อบริสุทธิ์...

แต่ตามโรงแรมก็มีแอร์ค่ะ...ตรงนั้นก็จะสะดวกตามวิถีแห่งคนที่ชอบในอีกรูปแบบค่ะ...

...................................

ปากซอยเดินไปรีสอร์ทจำปาลาว มีร้านซ่อมรองเท้าและขายน้ำผลไม้ปั่น...เวลาเดินผ่าน "เอื้อย" เขาจะชวนทานข้าวแบบนั่งล้อมวงกัน..ปิ้งปลา - ข้าวเหนียว... อร่อยมากเลยค่ะ กะปุ๋มขอทานด้วยทุกครั้งที่เดินผ่านเลยค่ะ...555

หากเราเที่ยวแบบนักท่องเที่ยว เราก็จะเห็นมุมแบบนักท่องเที่ยว แต่หากเราเที่ยวในเชิงวัฒนธรรม...เราก็จะได้เห็นความแง่งามของ "ชีวิต"...มนุษย์ค่ะ...

(^____^)

เช้าวันที่ 13 เมษายน..เดินออกมาจากบ้านพักแต่เช้ามืด เตรียมใส่บาตร เดินจนทั่วเมืองวังเวียง เราก็ไม่เจอพระบิณฑบาตร กับข้าวที่ซื้อเตรียมไว้แล้ว ก็เลยนำไปถวายที่วัด...

แต่ตัวไม่สุภาพเลยค่ะ...ใส่ชุดกีฬา ไป... ทุกคนอยู่ ณ ศาลาสวมผ้าซิ่นกันทุกคนเลย ก็เลยยิ้มอย่างขอลุแก่โทษ... ได้รับการตอบรับด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น และคำแนะนำในการถวายอาหาร ซึ่งค่อนข้างจะคล้ายคลึงกับบ้านเรา... แต่อาจ slow down กว่า...

เดินตามเมือง...มาเจอร้านขายโอวัลติน จึงชวนติ๋ว...นั่งดื่ม ร้านนี้มีโอวัลตินอย่างเดียว และส้มตำ...เราจึงสั่งส้มตำมาทานกับโอวัลติน...โอ้..เข้ากันได้ดีมากเลยเพื่อนบอก...อิอิ...

คนส่วนใหญ่ที่นี่...ใช้จักรยานและเดิน

ใช้แม่น้ำเป็นที่อาบน้ำและดำเนินชีวิตประจำวัน...

วันที่ไป...ค่าเงิน 2700 - 2800 กีบ ต่อ 100 บาท...

คนลาวนิยมอยากได้เงินไทย...ยกเว้นเหรียญ...เขาจะไม่ชอบ

 

สวัสดีค่ะ

เส้นทางที่ไปสวยมากๆ เลยนะคะ

ติดตามอ่านค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีจ้ะน้องกะปุ๋ม

พี่ไปเวียงมาหลายครั้งมากแต่ยังไม่เคยไปวังเวียง ... ดูจากภาพและอ่านจากเรื่องที่น้องซูซานและกะปุ๋มเล่าแล้วอยากไปเที่ยวบ้าง

อ้อ...เห็นด้วยว่าลาวใต้ก็สวย พี่ไปจำปาสัก ธรรมชาติสวยมากโดยเฉพาะแถวๆปากซอง น้ำตกตาดฟาน...

ว้าว กลับมาแล้วเหรอครับ

ท่าทางจะสนุกนะเนี่ย

ภาพสวยมากครับ อยากไป

สวัสดีค่ะคุณ..P  jaewjingjing

.......

เพลินๆ ค่ะลืมเข้ามาดูว่ามีความเห็นเข้ามาเพิ่ม... ขอบอกเลยค่ะว่าทริปนี้ปลดปล่อยเต็มที่...เพราะไปอย่างตั้งใจว่าจะไม่ตั้งใจ...อิอิ งงไหมคะ...

สนุก เหนื่อย แต่มีความสุข...

มีเรื่องราวของชีวิตให้ได้เรียนรู้...มากมายอีกเยอะเลย

(^______^)

อ.แป๋วคะ..

วังเวียงสวย อากาศดี... เหมาะต่อการพักผ่อน...เที่ยวแบบนิ่งๆ หรือจะแบบผจญภัย... วันไหนเราไม่ได้ออกไปข้างนอก...เราก็ฝังตัวอ่านหนังสือ เอนก....สบายๆ ที่บ้านพักนั้นค่ะ...

บรรยากาศดี...ความเงียบภายนอก...ทำให้เรามองเห็นความวุ่นวายภายใน...แจ่มชัด...

คนลาวอัธยาศัยดีมากเลยค่ะ กะปุ๋มชอบอย่างหนึ่ง คือ ไปนั่งล้อมวงทานข้าวกับเขาค่ะ... อาหารแบบง่ายๆ...ปิ้งปลา แจ่ว ผักลวก ข้าวเหนียวไม่ขัดขาว...แซบอย่าบอกใครเลยค่ะ...

(^___^)

P ออต...ไปคุยที่นี่แล้วกันนะคะ...

สนุกดีนะครับประมาณเดือนกันยายน 2551 จะไปเบิ่งลาวบ้างล่ะ อ่านบทความแล้วตื่นเต้นดีจังเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท