การเดินทาง : กระเทินทัวร์ สู่วังเวียง


เช้าวันที่ 12 เมษายน

ฉันตื่นตั้งแต่ตีสี่ พอลืมตาตื่นเราก็ส่งเสียงคุยกันอย่างต่อเนื่อง ยังกับไม่ได้หลับใหลกันเลยเมื่อคืนนี้  ฉันจัดการตัวเองเสร็จก่อนเพื่อน ตามด้วยติ๋ว พี่รุ่ง และพี่เอียด...สะพายเป้ออกจากบ้านพี่นาง เพื่อไป บขส. กะว่าจะไปขึ้นรถเที่ยวหกโมง ตามที่พี่เหน่งคนที่ด่าน แนะนำ ... และจะไปนั่งทานมื้อเช้ากัน

 

เมื่อไปถึง บขส. ปรากฏว่า มีป้ายติดไว้ว่า เปิดขายตั๋ว...เจ็ดโมงครึ่ง !!!

 

ทันทีทันใด พี่เอียดโทรตามรถคันที่มาส่งเรา ซึ่งเป็นพี่นางขับมา แต่ด้วยความที่พี่นางไม่ได้ถือโทรศัพท์มาด้วย เราจึงตัดสินใจว่า... เราจะหารถออกจากเมืองเพื่อไปที่สะพานมิตรภาพ ไทยลาว เพื่อที่จะได้ข้ามฝั่งแต่เช้า แล้วหารถไปต่อวังเวียง เราอยากไปถึงเวียงจันทร์เพื่อให้ทันรถคิวแรก... เวียงจันทร์ -----> วังเวียง

 

ได้รถสามล้อเครื่อง สี่สาว...ซึ่งตัดสินใจทิ้งจักรยานไว้ที่ฝั่งไทย แล้วไปหาเช่าจักรยาน ดาบหน้าแทน  สามล้อเครื่องจาก บขส. ไปด่านราคา 100 บาท ... เราไปทันด่านเปิดพอดี โดยลืมทานมื้อเช้า พอข้ามด่านได้ ได้ทันรถข้ามสะพาย จ่ายไปคนละ 20 บาท เมื่อไปถึงด่านฝั่งลาว เช้าๆ อย่างนี้คนไม่เยอะ จึงเสร็จอย่างรวดเร็ว จากนั้นเราไม่รอรถเลยค่ะ... ได้สามล้อเครื่องที่นั่งได้ประมาณข้างหลังแปดคน ข้างคนขับอีกสองคน... ตัดสินใจเหมาเข้าเวียงจันทร์... ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย ขึ้นไปนั่งรอบนรถ พี่เอียดหยิบพายที่เหลือติดกระเป๋าตั้งแต่เมื่อคืน มาทานรองท้องกัน...

 

ทานจนอิ่ม....คนขับก็ไม่มาออกรถเสียที สาวๆ เลยขู่เลยว่าจะเปลี่ยนรถ เท่านั้นแหละ อ้ายคนขับ รีบขึ้นนั่งประจำที่ แต่พระเจ้า...รถสตาร์ทไม่ติด เอาแล้วค่ะ..ทำไงดี ได้เปลี่ยนรถแน่ๆ..แต่พี่แกก็ไม่ยอมละความพยายามยังไงก็จะพาผู้โดยสารสาวไปถึงเวียงจันทร์ให้ได้... โดยแกตะโกนให้เพื่อนรถคันอื่นๆมาช่วยเข็ญ... เป็นว่าวิ่งได้ค่ะ แต่...

 

ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาด... เราตั้งใจเหมาแกไปถึงท่ารถไปภาคเหนือ ที่เวียงจันทร์ แต่ปรากฏว่าคุณพี่ท่าน แวะจอดรับผู้โดยสารไปจนเต็มคัน... ก็เลยกลายเป็นว่า เรามีเพื่อนเต็มคันรถเลยเจ้าค่ะ...

 

เมื่อไปถึงท่ารถไปภาคเหนือ...

โอ้โห...!!! คนเพียบค่ะ น้องๆ หมอชิตบ้านไทยเรา...

พี่เอียดเริ่มจัดแจง...ให้ติ๋วไปยืนรอคิวซื้อตั๋ว ... ฉันกับพี่รุ่งยืนเฝ้ากระเป๋า ส่วนพี่เอียดไปเดินหารถ หาตั๋วผีเผื่อฟรุ๊ค...ผ่านไปเป็นชั่วโมง พี่เอียดมาสะกิดฉัน... ว่าเราไปหารถข้างนอกดีกว่าอย่างนี้ไม่ได้การแน่ บ่ายเราก็ไม่ได้ไป เราก็เลยตกลงใจว่าจะเหมารถดีไหม แต่นั่น...ก็จะไม่ต่างจากการเดินทางครั้งก่อน เราต้องการสิ่งที่แปลกใหม่... ฉันนึกได้มีเบอร์โทรท้าวเรย์ จึงโทรไปหาเพื่อที่จะให้ท้าวเรย์หารถให้ แต่โทรศัพท์พี่เอียดดันเงินหมดไปเสียนี่...

 

เดินไป จนเจอรถเหมาคันหนึ่ง พี่แกเลยเสนอว่าเราควรจะไปรถกะบะ (ตอนนั้นก็นึกหน้าตาไม่ออกค่ะว่า กะบะที่อ้ายแกว่า...เป็นอย่างไร) แต่ก็ตัดสินใจลอง จึงวิ่งกลับไปตามติ๋วและพี่รุ่ง สะพายเป้ได้...มุ่งหน้าไปรถที่ว่านั้น ไปถึงรถกำลังออกพอดี กระโจนขึ้นรถเลยค่ะ คนเต็มรถจนไม่มีที่จะนั่ง แต่คนขับแกก็บอกขึ้นเลยๆ .. เราก็งงว่าขึ้นไปแล้วไปอยู่ตรงไหนกันเนี๊ยะ... ฉันนั้นตัวเล็กมุดเข้าไปนั่งด้านในใกล้แม่ลูกอ่อน พีรุ่งขอนั่งท้ายเพราะกลัวเมารถ  ติ๋ว..ขอโหนท้าย และพี่เอียดเสียสละนั่งเก้าอี้เล็กระหว่างกลาง... ผู้โดยสารเป็น ชาวลาว หมด อัธยาศัยดี ชวนเราพูดคุย... ไปตลอดสามชั่วโมงจากเวียงจันทร์ ----> วังเวียง โดยที่เราลืมเรื่องทานข้าวเช้าไปเลย...

 

เรานั่งกันอยู่ในรถ ก็พูดคุยสนุกสนาน พี่เอียดตั้งชื่อทริปนี้ว่า กระเทินทัวร์ (ภาษาอิสาน เมื่อแปลเป็นไทยว่า ลุ่มๆดอนๆ) และรถที่เรานั่งมา เรียกว่า อบอุ่นทัวร์ เพราะมีทั้งการพูดคุย แบ่งปันขนมผลไม้กันทาน ร้องเพลงขับกล่อมลูก ส่งสัญญาณบอกให้หลบน้ำ...  เส้นทางนี้เราใช้เวลาประมาณสามถึงสี่ชั่วโมง... พอเข้าเขตวังเวียง ลมเย็น โชยมาท่ามกลางแดดร้อน สองข้างทางสวยมาก มีนักท่องเที่ยวปั่นจักรยานตามรายทางเป็นระยะ ทั้งไปและเพิ่งกลับออกมาจากวังเวียง...

 

เมื่อถึงประมาณสะพานเหล็ก พี่คนขับจอดส่งผู้โดยสาร เราเลยได้โอกาสจอดถ่ายภาพและยืดเส้นยืดสาย... ฉันกับพี่เอียดสลับที่กันนั่ง... ไปได้ประมาณสามในสี่ส่วนของระยะทาง โนทักจากพี่คนหนึ่ง... พากันหน้าเหลืองเลยนะ... เราก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ ในใจนึก...หิวข้าว... ถึงตลาดแห่งหนึ่ง รถจอดเพื่อส่งสินค้าที่บรรทุกมาเต็มหลังคารถ พี่รุ่งวิ่งไปซื้อน้ำอ้อยมาแจกคนละถุง ... ถุงละ 5 บาท ทันทีเลยค่ะ จากหน้าเหลืองประมาณว่าเครื่องจะหมดแบต ต่างพากันสดชื่น คุยได้เสียงดัง พร้อมเสียงหัวเราะก้องรถอีกครั้ง ผู้โดยสารลาวท่านอื่นๆ ยิ้มออกเพราะเห็นเราเงียบไปช่วงหนึ่ง... บรรยากาศในรถก็เงียบไป

 

เราถึง...ปลายทางประมาณเที่ยงพอดี...

สวย...วังเวียงสวย...เมื่อไรก็สวย...

 

เรารีบลงจากรถ...อาการหิวกลับมาทันที... รีบขนกระเป๋าลง คนขับบอกให้เราไปรอในร่มก่อน ... เราก็มองหาร่มค่ะ แต่พี่ท่านเล่นจอดกลางที่โล่ง...ไม่มีร่ม ไม่มีต้นไม้... เลย... เฮ้อ!! การเดินทางนี้ก็ยังมีเรื่องให้เราได้หัวเราะจนถึงปลายทาง...จนได้

..........................................

Note: กระเทิน = ลุ่มๆ ดอนๆ

หมายเลขบันทึก: 178002เขียนเมื่อ 21 เมษายน 2008 20:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

นี่แหละชีวิต อิอิ สนุกปนเมื่อยๆล่ะซี แต่ก็เป็นการเดินทางที่มีชีวิต สัมผัสคนและอะไรมากมาย นะครับ เอามาเล่าให้หมดนะครับ

เป็นทริบที่น่าสนใจจริงๆ ครับ

กระเทินจริงๆๆ แต่ทำไมคนมากจังเลยครับน้อง Kapoom

กำลังนึกในใจดังๆ ว่าโชคดีจริงๆ ที่หนูไม่ว่างไปกับพี่ทริปนี้ 555 ไม่งั้นตายแน่ พี่กะปุ๋มก็จะรำคาญเด็กรักสบายไม่อดทนแบบหนูง่ะ - - " มีหวังบ่นงุบไปตลอดทางจนพี่เตะลงจากรถ

หน้าตาเหมื่อนพี่น้องลาวเทิงเลยเอื้อย อิอิ

อิอิ..สาวๆคงซาหนุกกันดิ - -ดวงไม่สมพงษ์เลยบ่ได้ไปด้วย

พี่เอียดผมทรงนี้แอ๊บเด็กมากเนอะ

สวัสดีค่ะ

เป็นทริปเดินทางที่ออกแนวมันส์นะคะเนี่ย น่าสนุกจังค่ะ

555...

ออต...พี่ขอหัวเราะก่อนนะคะ...เดี๋ยวจะกลับมาคุยใหม่..

ลาวเทิง...ลาวเทิง...555

  • ไปหาร่ม.....ทางเวียงวังเขาแปลว่า...ให้ไปซื้อร่มมากางกันแดด..อะเปล่า...5555
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท