อ่านวันละหน้า.....พัฒนาปัญญา


ขุมทรัพย์ทางปัญญา สร้างนิสัยรักการอ่าน

            หนังสือเป็นขุมทรัพย์ทางปัญญา  เป็นคำกล่าวที่มีมานาน  แต่ยังอยู่ในสมัยเสมอ

        จากการที่ สพฐ.....

                 ได้มีนโยบายให้ข้าราชการครู และบุคลากร ได้มีนิสัยรักการอ่าน  เพื่อที่จะได้ไปรณรงค์ให้เด็กไทย ได้มีนิสัยรักการอ่าน  ท่านผอ.โกศล  ปราคำ   ผอ.เชียงใหม่เขต 1  อดีตผอ.สพท.มส.เขต 1ได้รณรงค์ให้ข้าราชการครูและบุคลากรในสังกัดได้มีนิสัยรักการอ่าน เพื่อจะได้จัดกิจกรรมให้เด็กได้รักการอ่าน  จึงได้จัดทำโครงการ จัดสรรหนังสือให้ผู้บริหาร และคุณครู ได้อ่านหนังสือ โดยจะแจกหนังสือให้อ่านเดือนละเล่มในคราวประชุมประจำเดือน  อ่านแล้วต้องสรุปเนื้อหา สาระ   เน้นการนำไปประยุกต์ใช้ ในการบริหารงาน ซึ่งท่านจะตรวจประเมินด้วยตนเอง  ผู้บริหารท่านใดที่สรุปได้ดี ก็จะมีรางวัล เป็นหนังสือ หรือปากกามอบให้    ซึ่งจะส่งผลให้องค์กรเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ LEARNING   ORGANIZATION(L.O.)   ครู  บุคลากร และนักเรียน  เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้

                  โครงการนี้ขยายผลสู่ครูบรรจุใหม่ทุกคนด้วย และยังทำต่อเนื่องจนถึงวันนี้         เป็นช่วงที่รองสุรพันธ์  สืบฟัก  รักษาราชการแทน ผอ.สพท.มส.1  ก็สานต่อนโยบายดังกล่าว         สำหรับการจัดกิจกรรมสำหรับเด็กก็มีกิจกรรมแข่งขันการอ่านหนังสือ  แข่งขันการเขียนเรียงความ ประกวดห้องสมุดโรงเรียน     ซึ่งก็ได้ผลดี  สำหรับหนังสือที่ได้ให้ผู้บริหารอ่าน โดยใช้วิธีเวียนอ่านเป็นอำเภอ  ซึ่งมีประมาณ  25  เรื่อง    จำนวน  200 กว่าเล่ม  ตัวอย่างเช่น

        1. การจัดการความรู้   (K.M.)                         2.  Idea  Get  Rich  เทคนิคสะกิดสมอง

        3.When The  Future Catch You.                  4.ลายแทงนักคิด

           (เมื่ออนาคตไล่ล่า )                        5.Imagination is importance than knowledge

        6.EinsTein s Dream ความฝันของไอสไตน์      7.ก้าวพ้นกรอบไอสไตน์

        8.สร้างมิตรภาพด้วยหัวใจสำคัญที่สุด               9.บุคคลิกคลิ๊กความสำเร็จ                 

        10.ต้องแพ้เสียก่อนจึงจะชนะ                        11.ทักษิณตาดูดาวเท้าติดดิน                       

        12.เก่งได้ก็ล้มได้                                       13.บทเรียนล้ำค่าจากความล้มเหลว                

        14.แผนที่ยุทธศาสตร์                                  15.C E O   VISION      ฯลฯ

                    หนังสือทั้ง 15 เรื่อง  ดังกล่าว  ขณะนี้ผู้บริหารส่วนใหญ่ได้เวียนอ่านหนังสือ ครบ ถึงแม้ว่าบางท่านจะมอบให้ครูผู้สอนอ่าน  แล้วสรุป  แต่เวลา บันทึกการนำไปใช้จะต้องบันทึกเอง  แต่ส่วนใหญ่ก็จะอ่านด้วยตนเอง

                  จึงใคร่ขอความเห็นจากกัลยาณมิตร g2k ว่า ท่านอยากจะให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา  และนักเรียน        อ่านหนังสือ   ประเภทใด  ถ้าจะกรุณา  ระบุชื่อเรื่องได้ด้วย  ยิ่งดีค่ะ 

                                THANK  YOU  ยินหลีหนำหนำข้า   ขอบคุณ ค่ะ 

       

หมายเลขบันทึก: 168621เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2008 12:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 08:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

สวัสดีค่ะคุณพี่ที่รัก

ขอบคุณค่ะ

ผมชอบอ่านวรรณกรรม  หรืองานเขียนประเภทบันเทิงคดีในรูปของสารคดี, นิยาย  เรื่องสั้น บทกวี  ความเรียง.. ส่วนประเภทวิชาการนั้นไม่ถนัดเอาเสียเลยครับ..

แต่ก็เห็นด้วยกับวิถีที่เกิดขึ้นในบันทึกนี้ ...  ซึงผมก็พยายามวิเคราะห์เหมือนกันว่า  ในแต่ละวันเราสูญเสียเวลาไปกับการคุยโทรศัพท์และดูทีวีกี่มากน้อย  เพราะหากลดลงได้บ้าง แล้วนำเวลาเหล่านั้นมาอ่านหนังสือก็น่าจะดีมิใช่น้อยเลย..

ขอบคุณครับ

  • สวัสดีเจ้า อาจารย์..

ต้อมชอบอ่านหนังสือ เพราะหนังสือเปรียบเสมือนเพื่อน   ตั้งแต่เล็กจนโต.. 

ชอบอ่านวรรณกรรมและงานเขียน  ตลอดจนเรื่องสั้น  ความเรียง  บทกวี  การ์ตูน  และไม่ถนัดหนังสือที่เกี่ยวกับวิชาการเอาเสียเลย  << ไม่ได้ลอกคำตอบของคุณแผ่นดินมานะคะ  แฮ่ะๆๆ  ^^

ต้อมว่าเราจะมากำหนดหรือเจาะจงให้ใครต่อใครมาอ่านหนังสือแบบไหน  ประเภทใด นั้น คงจะไม่ได้หรอกกระมังคะ   เพราะสำหรับต้อม..หนังสือทุกเล่มล้วนแต่มีคุณสมบัติที่ดีในตัวของมันเอง ((หมายถึงเรื่องเล่าและเรื่องราว))    บางครั้งเราก็ได้อะไรจากสิ่งที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อนน่ะค่ะ

หนังสือที่อาจารย์ยกตัวอย่างมา  ต้อมเคยอ่านแค่สองเล่มเองค่ะ   10.ต้องแพ้เสียก่อนจึงจะชนะ                        11.ทักษิณตาดูดาวเท้าติดดิน    

http://gotoknow.org/blog/naepalee/110176

  • สวัสดีค่ะ  ครูอ้อย 
  • ครูอ้อยอ่านได้เกินกว่านั้นอยู่แล้ว  ถือว่าทะลุเป้า(ว่าที่ ดร.ต้องอ่านเยอะอยู่แล้ว  แชวหน่อยนะ ha! ha!)
  • ทราบว่าเด็กในเมืองโรงเรียน ดี  ดัง ฝึกอ่านภาษาอังกฤษวันละหน้า
  • ดีใจค่ะที่เราได้มีส่วนช่วยสร้างนิสัยให้เยาวชนไทยรักการอ่านนะ
  • ขอบคุณอาจารย์ค่ะ ที่แวะมาให้ข้อมูล
  • วรรณกรรม และความเรียง  ก็น่าจะเป็นที่สนใจของผู้บริหาร จะลองสืบค้น
  • เพราะบางครั้งถ้าเป็นวิชาการเกินไปก็เกรงว่าผู้บริหารจะเบื่อ
  • ขอบคุณค่ะ
  • หวัดดีจ๊ะสาวน้อย
  • ก็คงจะเลือกทั้งประเภทวรรณกรรม  สารคดี 
  • แต่เน้นวิชาการนิดหนึ่ง
  • นึกแล้วเชียวว่าน้องจะต้องเคยอ่านหนังสือ 1 ใน 15 เรื่อง
  • ทานข้าวมื้อเย็นด้วยนะ กลัวโรคกระเพาะจะมาเยือน 
  •  ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ อาจารย์ เอื้องแซะ

  • ต้องตั้งคำถามก่อนว่า "อ่านหนังสือไปเพื่ออะไร" ครับ
  • ถ้ามีคำตอบแล้ว จึงค่อยเลือกว่า "จะอ่านหนังสือประเภทใด"
  • แล้วต้องมีคำถามต่อไปว่า "เมื่อหนังสือเล่มนั้นจบแล้ว จะทำอย่างไรต่อไป" "จะเกิดประโยชน์ต่อองค์กร" หรือไม่ อย่างไร
  • ทำให้จึงไม่มีคำแนะนำให้อาจารย์เลยครับ :)

ขอบคุณครับ :)

  • สวัสดีค่ะ  อาจารย์วสะวัต
  • ขอบคุณที่แนะนำ
  • วัตถุประสงค์ของโครงการคือ
  • สร้างนิสัยรักการอ่านเป็นข้อแรก
  • อ่านแล้ว ให้รู้จักวิธีวิเคราห์ สังเคราะห์
  • แล้วนำไปประยุกต์ใช้ในงาน  และการดำรงชีวิต 
  • ผลที่ตามมาคือทำให้องค์กรเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
  • ผู้บริหาร  ครู และบุคลากรก็จะเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
  • ได้แจ้งไว้ในบันทึก แต่ไม่ละเอียด 
  • ขอบคุณอาจารย์อีกครั้งค่ะ 
  • ขออภัยที่ตอบให้ช้า  คอม.ที่บ้านมีปัญหาค่ะ
มิตรห้องสมุดน่าน

เข้ามาอ่าน เห็นว่า เป็นเรื่องราวและความคิดประสบการณ์ดี ขอขอบพระคุณ

 

  • ขอบคุณมิตรห้องสมุดน่าน
  • ที่เข้ามาช่วยกันสร้างนิสัยรักการอ่าน
  • ในห้องสมุดคงจะมีหนังสือน่าอ่านหลายเล่มนะคะ

ขอโทษนะค่ะที่เข้ามาอ่านบล็อกของอาจารย์เอื้องแซะช้าไปหน่อยนะค่ะ ปกติแล้วครูดอย.คอมชอบอ่านหนังสือเหมือนกันค่ะ แต่เป็นคนนิสัยไม่ดีค่ะถ้าอ่านแล้วมักจะไม่หยิบเล่มนั้นมาอ่านอีก อ่านได้ทุกประเภททุกชนิดของหนังสือค่ะ ถ้าอาจารย์มีหนังสือดีดีช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

เกิดอะไรขึ้นค่ะ โพสต์ข้อความแล้วกลายเป็นภาษา html

วันนี้คงนอนไม่หลับแน่ๆ มาทำบันทึกไม่สวย ลบบันทึกแล้วเขียนใหม่ เขียนไม่ได้แล้วค่ะ แง..

สวัสดีคะ คุณ ดาวลูกไก่ ใจเย็นๆ คะ เนื่องจากทางทีมงานมีการปรับรูปแบบเจ้าช่องใส่ comment ใหม่ เลยมีผลกระทบคะ เมื่อกี้ลองคุยกับทีมงาน คาดว่า ข้อความในความคิดเห็นด้านบนน่าจะเขียนใน Microsoft word แล้ว copy มาส่งไว้ใช่ไหมคะ

รบกวนลองให้คุณ เอื้องแซะ ลบความคิดเห็นออก แล้วลอง แสดงความคิดเห็นใหม่ก็ได้คะ

อย่าเพิ่งเครียดนะคะ

  • สวัสดีค่ะคุณดาวลูกไก่
  • ลบความเห็นที่แปลความไม่ออกแล้วนะคะ
  • ต้องขอโทษที่มาช้า วันนี้งานยุ่งมากๆๆๆๆๆๆๆ ไม่มีตัวช่วยเลยค่ะ
  • ขอบคุณมากๆๆๆๆ ที่เข้ามาแนะนำ post เฃ้ามาใหม่นะคะ
  •  จะคอยค่ะ ขอบคุณค่ะ
  • สวัสดีค่ะคุณมะปรางหวาน
  • ลบความเห็นของตุณดาวลูกไก่แล้วนะคะ
  • เมื่อวันก่อนเข้าไปทักทายบล็อกของครูอ้อยก็เป็นเหมือนกัน
  • รบกวนเข้าไปตรวจสอบดูนะคะ ขอบคุณค่ะ
  • สวัสดีจ๊ะ ครูมีนา ดีใจที่เจอกันอีกนะ
  • ที่ห้องยังมีหนังสือที่ครูมีนาจะนำไปเล่าให้กับเด็กๆได้ เป็นหนังสือที่ที่ได้รับรางวัลวรรณกรรมยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน        (ซีไรต์) ทั้งสองเล่มคือ นิทานก่อนนอน เจ้าหงิญ แต่งโดย คุณบินหลา สันการาคีรี ไดรับรางวัล ปี 2548
  • และเรื่องความสุขของกะทิ แต่งโดยคุณงามพรรณ เวชชาชีวะ ได้รับรางวัลปี 49 ค่ะ นอกจากนั้นก็ยังมีหนังสืออีกหลายเล่ม ว่างๆก็แวะเข้ามาสิคะ ขอบคุณค่ะ

คุณพี่คะ

อยากจะงอนคุณพี่แล้วนะคะ ไปเที่ยวกลับมาแล้ว ไม่เห็นแวะเยี่ยม เสพย์ความรู้ขม ไม่ต้องหลับตาปี๋ (แนะนำหนังสือ) กันเลย

อีเมลทันที่เขียนบันทึกเสร็จเลยนะคะ งอนจริงด้วย

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท