สวัสดีครับทุกท่าน
น้องชายจากเมืองไทย ส่งบทความมาให้อ่าน ลองอ่านกันดูนะครับ ว่าด้วย เรื่องคอมพ์ๆ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่อง เกมส์ๆ คอมพ์ๆ ผมเคยเขียนไว้หนึ่งตอนลองไปอ่านดูครับ แลกเปลี่ยนกันเมามันส์ เปลี่ยนจาก ติดเกมส์ เป็น ผลิตเกมส์
หรือใครจะเปลี่ยนจาก ติดเกมส์ เป็นเก่งคอมพ์ ก็ได้ครับ แต่เด็กเล่นเกมส์เก่ง ไม่ได้หมายถึงว่าเก่งคอมพ์ อันนี้ต้องทำความเข้าใจด้วยนะครับ
ปัญหาเด็กติดเกมหรือหมกมุ่นอยู่กับการ chat ผ่านทางอินเทอร์เน็ตเริ่มสร้างปัญหาให้กับครอบครัวและสังคมไทยมากขึ้น เรื่อยๆ เห็นได้จากโรงเรียน คลินิกเด็กของโรงพยาบาลหลายๆ แห่ง ที่เต็มไปด้วยผู้ปกครองมายื่นรอเข้าคิวเพื่อขอคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาเหล่า นี้ไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งปัญหาที่พบก็มีมากบ้างน้อยมากตามระยะเวลาที่เล่น แต่ล้วนเป็นปัญหาที่น่าขบคิดเป็นอย่างยิ่ง
ปัญหาอยู่ตรงไหนแน่
สาเหตุหนึ่งก็คือ ความต้องการที่จะพัฒนาความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศ ให้กับเด็กๆ ที่เป็นอนาคตของชาติซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ผิดก็คือ เราเกิดไปเข้าใจแบบผิดๆ ว่าการส่งเสริมให้เด็กได้ “เล่น” กับคอมพิวเตอร์ คือ วิธีพัฒนาเรื่องนี้
ความเข้าใจผิดตรงนี้ก็ทำให้ครูและพ่อแม่ส่วนหนึ่งพยายามให้ลูกได้ “เล่น” คอมพิวเตอร์ผ่านเกม ผ่านการท่องอินเทอร์เน็ตโดยผู้ใหญ่ไม่สนใจรายละเอียดของสิ่งที่ลูก “เล่น” ต่างคิดว่านี่คือการเรียนรู้ที่สำคัญ คือทักษะที่จำเป็น เมื่อเด็กๆ มีทักษะเหล่านี้และมักจะส่งผลให้พวกเขามีความสามารถ มีความเก่งทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถที่จะแข่งขันกับใครๆ ก็ได้
ความเข้าใจผิดเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะว่าการได้เล่นหรือได้สัมผัสกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป แม้จะเก่งกาจแค่ไหนเราก็เป็นได้แค่ผู้ใช้หรือผู้บริโภคโปรแกรมที่เขาผลิตมา ขายให้เราแค่นั้นเอง เราไม่สามารถที่จะก้าวไปสู่การเป็นผู้ผลิตที่สามารถแข่งขันกับคนอื่นๆ ได้ด้วยพื้นฐานเพียงแค่การเป็นผู้ใช้หรือผู้บริโภคโปรแกรมที่ชำนาญเท่านั้น เพราะการที่จะเป็นคนเก่งเรื่องคอมพิวเตอร์หรือเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างแท้จริงนั้นพื้นฐานที่สำคัญอยู่ที่ความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์
อยากให้ผู้อ่านศึกษากรณีของประเทศอินเดียดูสักนิด หลายปีก่อนมีการสำรวจความสามารถทางคณิตศาสตร์ของคนอินเดียพบว่า ผู้คนทางแถบภาคใต้ของอินเดียมีคนที่เก่งคณิตศาสตร์ในสัดส่วนที่สูงกว่าคนในแถบอื่นๆ ขอวงประเทศ
แน่นอนครับ Srinivasa Ramanujan สุดยอดอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ของโลกก็มีพื้นเพอยู่ทางภาคใต้ของอินเดียนี่เอง นี่คือคำตอบว่าทำไมเขาถึงเลือกเมืองบังกาลอร์ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ อินเดียให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของเขา จากพื้นฐานความสามารถของคนในแถบนี้ อินเดียใช้เวลาเพียงไม่ถึง 20 ปี พัฒนาบังกาลอร์จนกลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของโลกไป เรียบร้อยแล้ว
และไม่กี่ปีมานี้เอง Bill Gates เจ้าพ่อแห่ง Microsoft ได้บริจาคเงินจำนวนกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับรัฐบาลอินเดียเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ จนองค์การอนามัยโลกสำนักงานประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งตั้งอยู่ที่ กรุงนิวเดลีต้องถามว่าทำไมจึงต้องบริจาคมากมายถึงปานนั้น
สิ่งที่ Bill Gates ตอบก็คือ ไมโครซอฟท์จะไม่มีวันนี้เลยหากไม่มีวิศวกรคอมพิวเตอร์และโปรแกรมเมอร์ผู้ เก่งกาจจากอินเดียเรียกได้ว่าไมโครซอฟท์เป็นหนี้บุญคุณของคนเก่งชาวอินเดีย
และก็ไม่ต้องตกใจนะครับถ้าพบว่าพนักงานไมโครซอฟท์เกินครึ่งเป็นคนอินเดีย ประเทศอินเดียพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้คนของเขาจากพื้นฐาน ทางคณิตศาสตร์ครับ ไม่ใช่ส่งเสริมให้คนของเขาเล่นเกมคอมพิวเตอร์
เกมคอมพิวเตอร์ให้โทษมากกว่าคุณ
เมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยสหรัฐฯ กลุ่มหนึ่งได้ทำการศึกษาเด็กชั้นประถมและมัธยมของเขาที่เล่นเกมคอมพิวเตอร์ พบว่าเกมทุกเกมที่ผลิตออกมาขายจะมีการออกแบบเกมให้มีความท้าทาย น่าสนใจ น่าติดตาม และสุดท้ายเด็กที่ชอบเล่นเกมส่วนใหญ่ก็จะติดเกมไม่ว่าจะเป็นเกมที่บอกว่า เป็นเกมสร้างสรรค์หรือเกมประเภทที่เต็มไปด้วยความรุนแรง สรุปได้ว่า ไม่ว่าเด็กจะเล่นเกมแบบไหนก็มีโอกาสติดได้ทั้งนั้น
และ เมื่อศึกษาลึกลงไปอีกเขาก็พบว่า ทั้งเกมสร้างสรรค์และเกมรุนแรงต่างก็ทำให้การเรียนของเด็กที่ติดเกมแย่ลง ทำให้เด็กมีสังคมแคบลง แยกตัว ไม่มีเพื่อน แต่เกมที่เต็มไปด้วยความรุนแรงจะน่ากลัวกว่าตรงที่มันทำให้เด็กมีพฤติกรรม ก้าวร้าวมากขึ้นชอบเถียงครู ชอบใช้กำลัง มีความคิดว่าการใช้ความรุนแรงคือความถูกต้องชอบธัรรมและเป็นทางออกของการ แก้ไขปัญหา
สำหรับบ้านเรายังไม่มีการศึกษาที่ลึกแบบนี้ มีแค่การศึกษาถึงความชุกของปัญหา ซึ่งพบว่าบ้านเราก็กำลังเผชิญกับปัญหานี้ไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเด็กติดเกม เด็กที่มีปัญหาการเรียนจากปัญหาติดเกม รวมทั้งการหนีเรียนไปเล่นเกม ถึงแม้จะยังไม่มีข้อมูลผลกระทบต่างๆ แบบของสหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้แปลว่าบ้านเราจะไม่มีปัญหาแบบของเขา เพราะไม่ว่าเกมประเภทฆ่าฟันกันอย่างไร้กฎเกณฑ์ ไร้ศีลธรรม เกมลามกทุกรูปแบบที่เด็กอเมริกันได้สัมผัส ลูกหลานของเราก็สามารถที่จะสัมผัสได้ไม่ต่างกัน จะไปซื้อแผ่นเกมมาเล่น ไปเล่นตามร้าน หรือเล่นออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ตลูกหลานของเราทำได้ทั้งนั้น
พ่อแม่ ครู ผู้ปกครอง ต้องตื่นตัวและมีมุมมองใหม่
การที่เราอยากจะพัฒนาความสามารถของลูกหลานในเรื่องคอมพิวเตอร์หรือ เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่เราต้องมีวิธีที่ถูกต้อง การให้เด็กเล่นเกมแล้วคิดว่ามันจะช่วยให้ลูกหลานเราเก่งเป็นความเข้าใจผิด ภายในเกมคอมพิวเตอร์ ภายในเว็บไซต์ต่างๆ ที่เด็กของเราท่องไป มันมีหลุมพรางมากมายที่จะดักล่อให้ลูกหลานของเราไปติดกับ
เพราะ ฉะนั้น เราต้องทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ใหม่ ต้องคอยดูแลลูกหลานของเราอย่างใกล้ชิด หากเราใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการค้นคว้าและเพื่อการเรียนรู้ นั่นคือ สิ่งที่เราต้องสนับสนุน แต่หากเขาใช้เพื่อเล่นเกมหรือเพื่อการเข้าไปข้องแวะกับเว็บไซต์ที่อาจจะ เป็นอันตรายกับเขา เราต้องพูดคุยและตักเตือน
นอกจากนี้ การดูแลและควบคุมเวลาการใช้คอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมก็จำเป็นเพื่อป้องกันการติด เพราะเมื่อไรพวกเขาติดเกมหรือติดคอมพิวเตอร์แล้ว การแก้ไขมันยากมากทีเดียว
ศึกษาและเรียนรู้การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างถูกวิธีได้ที่
ขอบคุณมากครับ
เม้ง
สวัสดีครับอาจารย์
ผมเคยนำเสนอแนวทางการส่งเสริมเด็กติดเกมส์ให้ กลายมาเป็นเด็กสร้างเกมส์ ไปเสียเลยครับ หากเด็กติดหนักๆ เพื่อให้เค้าเข้าถึงการสร้าง โดยไปดึงจินตนาการของเค้าออกมาให้ทำงานกันเป็นทีมให้ได้
ผมเคยนำเสนอ แนวคิดในงานประชุมหนึ่งผ่านผู้ใหญ่ในกระทรวงวิทย์นะครับ เป็นแนวทางหนึ่งผมว่าหากจัดทีมให้ดีทำได้นะครับ อาจจะคัดเด็กออกมาเป็นสามส่วนเ่ช่น
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับอาจารย์
สำหรับเรื่องบล็อก สำหรับเด็ก น่าสนใจนะครับ หากเด็กสนใจจะมาอ่าน ไว้จะหาโอกาสเปิดบล็อก คุยกับลุงเม้ง เรื่องคอมพ์ๆ ดีไหมครับ อิๆๆๆ
เดี๋ยวลุงเม้ง ไม่จ๊าบ ไม่แบ๊ว ต้องกลับไปทำความรู้จักกับเด็กๆ ก่อนนะครับ
ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับพีสะมะฯ
ดีมากที่คนไม่ติดเกม