Article 25.
(1) Everyone has the right to a standard of living adequate for the health and well-being of himself and of his family, including food, clothing, housing and medical care and necessary social services, and the right to security in the event of unemployment, sickness, disability, widowhood, old age or other lack of livelihood in circumstances beyond his control.
ข้อ 25.
(1) คนทุกคนมีสิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพอันเพียงพอต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของตนเองและครอบครัว รวมไปถึงการได้รับอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย การดูแลรักษาพยาบาล และการบริการทางสังคมที่จำเป็น นอกจากนี้ คนทุกคนยังมีสิทธิที่จะได้รับความมั่นคงแม้ในช่วงว่างงาน เจ็บป่วย พิการ เป็นหม้าย วัยชรา หรือขาดปัจจัยดำรงชีวิตอื่นๆ ในพฤติการณ์ที่นอกเหนืออำนาจของตน
REMARKS:
คำถามแบบซื่อบื้อมาก ก็คือ มาตรานี้ พูดถึงสิทธิในหลักประกันสุขภาพไหมล่ะ ?
ในทีมวิจัยของเรา คงต้องนิยามและจำแนก Right and Health ให้ชัด
ในประการแรก อ.แหววคิดว่า น่าจะเป็นเรื่องของ Right to health access ซึ่งแปลว่า แม้จะไร้รัฐ เมื่อป่วย โรงพยาบาลจะโยนออกมา และปฏิเสธการรักษาพยาบาลไม่ได้ค่ะ
ในประการที่สอง อ.แหววเรียกว่า Right to health garantie ซึ่งก็แปลว่า รัฐย่อมจะต้องทำให้คนทุกคนมี "หลักประกัน" ที่จะได้รับสุขภาพที่ดี ซึ่งจะไม่น่าจะประกันความสามารถที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลอย่างเดียว ความไร้เงินที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลมิใช่ "ความเสี่ยง" อย่างเดียวของคนป่วยค่ะ แต่ยอมรับว่า เงินค่ารักษาพยาบาลเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งในวันนี้ หมอไทยเก่งค่ะ เมื่อรัฐไทยสิ้นท่าในการให้ "หลักประกันสุขภาพ" แก่คนไร้รัฐ หลายโรงพยาบาล ก็คิดเรื่อง "หลักประกันสุขภาพทางเลือก" ขึ้นมาได้ ทีมวิจัยของเธอจึงต้อง "ถอดประสบการณ์" ของความพยายามที่จะอุดช่องว่างนี้ของเหล่านักวิชาชีพสาธารณสุข
ในประการที่สาม อ.แหววเรียกว่า Right to health fulfilment ซึ่งก็คือ การรับรองสิทธิที่จะได้การรักษาพยาบาลจนหายดีค่ะ จะรักษาเท่าที่มีเงินไม่ได้ค่ะ
ในประการที่สี่ อ.แหววเข้าใจว่า มัน ก็คือ Right to health utility ใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษแบบแปลกๆ อีกแล้วเรา ก็พยายามจะอธิบายถึง "สิทธิในการใช้ประโยชน์จากความมีสุขภาพดี" เปรียบเทียบกับคนเรียน ก็น่าจะทำงานได้จากเรื่องที่เรียน จึงต้องออกใบรับรองวุฒิการศึกษาให้เด็กไร้รัฐที่เรียนจบในประเทศไทย ในขณะที่ต้องออกใบรับรองแพทย์ใหแก่คนไร้รัฐที่ปรากฏตัวในสังคมไทย
อันนี้ ก็คือ การตอบในเชิงการวิเคระห์สิทธิในชีวิตจริงของมนุษย์ ลองตรวจสอบซิคะ ว่ามนุษย์ทุกคนบรรลุถึงสิทธิในสุขภาพดีครบทุกระดับไหม และประชาคมระหว่างประเทศคาดหวังให้รัฐไทยทำแค่ไหน ?