คุณหมอสุพัฒน์ (kmsabai) ถามมาว่า
ผมอยากเป็นวิศวกรมาตั้งแต่เรียนมัธยมครับ และเรียนวิศวกรรมมาเป็นพื้นฐาน แล้วไปเรียนบริหารด้วยเหตุผลที่ขณะนั้น (นานมากแล้ว) กำลังสนุกกับงาน ไม่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็เลยหาเหตุเรียน MBA; ตอนที่เรียนจบ ก็มั่นใจมากเลยครับ ว่าถ้าให้บริหารกิจการใด เจ๊งแน่ๆ ไม่มีข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น; สมัยที่เรียน ก็เรียนเหมือนเป็นงานอดิเรก แต่ทำงานเป็นเรื่องจริงจัง แต่ได้วิชามาเยอะเหมือนกันครับ (ได้เพื่อนดีๆ มาหลายคน ได้ความมั่นใจ+ความรู้สึกดีมาด้วย)
พูดอย่างนี้เดี๋ยวครูบาอาจารย์จะมาว่าเอาว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ประเด็นคืออย่างนี้ครับ
คำถามแรกว่า "เรื่องการบริหารจำเป็นต้องเรียนหรือไม่" ผมคิดว่าไม่จำเป็นครับ แต่ถ้าเรียนมา ก็น่าจะช่วยให้เราเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้เร็วขึ้น มีความรู้ที่ถูกย่อย-ถูกกลั่นกรอง-ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าเคยใช้ได้
ในความหมายของผม การบริหารคือการจัดสรรทรัพยากร(คน เงิน เวลา/โอกาส)อย่างเหมาะสม เพื่อให้องค์กรบรรลุเป้าประสงค์ การจัดการหมายถึง การเอาชนะข้อจำกัดต่างๆ เพื่อให้องค์กรบรรลุเป้าประสงค์ นิยามเหล่านี้ไม่ตรงกับที่ผู้รู้หลายท่านให้คำจำกัดความไว้ (แต่ผมเฉยๆครับ ตราบใดที่มันยังใช้ได้)
เราไม่ได้ไปเรียนการบริหารเพื่อเอาสูตร มาจัดสรรทรัพยากร เราไม่ได้ไปเรียนการบริหารเพื่อเอารายการวิธีการ ที่จะเอาชนะข้อจำกัดมาใช้; ทั้งทรัพยากร ทั้งข้อจำกัด เป็นเรื่องเฉพาะตัวขององค์กร แต่ละองค์กรก็แตกต่างกันไป และแตกต่างกับที่อยู่ในตำรา-กรณีศึกษาอย่างแน่นอนครับ
เราใช้สามัญสำนึก+ความคิด+ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในองค์ประกอบต่างๆ ขององค์กร+ความเข้าใจในพลวัตของสิ่งที่อยู่รอบๆ มาจัดทัพเพื่อนำองค์กรให้บรรลุเป้าหมายครับ
สำหรับคำถามที่สองเรื่อง "ขอคำแนะนำเพื่อช่วยให้เรียนรู้ เข้าใจ และเชื่อมโยงความคิดได้อย่างถูกต้อง"
อันนี้ต้องตีความคำว่า "ถูกต้อง" เสียก่อนครับ ถ้าถูกต้องแปลว่าตรงตามตำรา ผมแนะให้ไปเรียนครับ; ถ้า "ถูกต้อง" แปลเหมือนที่ผมป้ายสีเหลืองไว้ท้ายคำตอบแรก ลองใช้วิธีการ/หลักการต่อไปนี้ได้ครับ
สำหรับการเรียนรู้
สวัสดีครับ
Conductor........
เห็นด้วยในประเด็นว่า...
การบริหารไม่จำเป็นต้องเรียน.....แต่ถ้าได้เรียน..........
เจริญพร
หัวหน้าทั้งสองท่าน คงยินดีกับคุณ kapook เป็นที่สุดครับ เพราะว่าสำหรับคนเป็นนาย ลูกน้องที่เก่งขึ้น มีความสามารถมากขึ้น ก็จะเป็นกำลังสำคัญที่จะผลักดันองค์กรไปสู่ความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไป
แต่นั่นเป็นเรื่องในอุดมคติ ;-) ... ไม่เชิงหรอกครับ-ดูลายมือแล้ว ผมน่าจะรู้จักหัวหน้าของคุณ kapook ทั้งสองท่านและคิดว่าอ่านไม่ผิด
ในสถานการณ์จริง มีอีกสามสถานการณ์ที่พบเห็นกันบ่อยครับ
สวัสดีครับ
น่าจะมีอีกอย่างนะครับ คือ
นายงี่เง่า ไม่ยอมรับรู้อะไรทั้งนั้น (อาจจะมีเสียงเล็ก ๆ "แล้วไปอยู่กับมันทำไม") ขอโทษทีครับ จริง ๆ อาจจะไม่ร้ายแรงขนาดงี่เง่าหรอก แต่เป็นประมาณว่า นายมีวิสัยทัศน์ แต่ลูกน้องมองไม่เห็น เช่น นายเห็นดาวอังคารแต่ลูก้องเห็นแค่ ดาวเทียม(หนักไปหน่อย) ดวงจันทร์แล้วกัน ปัญหาอาจจะอยู่ที่การสื่อสารอีกนั่นแหละครับ(ทำให้เลอะซะแล้ว)
ขอบคุณคุณอุทัยครับ แหมเป็นลูกค้านี่ ทำให้เถียงไม่ได้ถนัด ;-)
เราจัดนายงี่เง่าเป็นนายหัวกลวงตามข้อ 1 แล้วจัดอาการที่คนในบริษัทไม่สามารถจะพูดจากันจนรู้เรื่องเข้าใจกันเป็นกรณีข้อ 2 ได้ไหมครับ
สวัสดีอาจารย์ตอนดึกๆครับ
ขอบคุณอาจารย์ที่ให้แง่คิดดีๆอีกแล้ว อยากให้ใครบางคนมาอ่านบันทึกอาจารย์จัง อิอิ
ขอบคุณครับ
ตามมาอ่านอย่างละเอียดแล้วครับ .. ลงมติว่า ชอบด้วยเหมือนกัน เห็นด้วยทุกรายการ ทั้งๆพยายามจะหาสิ่งที่เห็นต่าง แต่ก็หาไม่เจอครับ