11...ถึง “แก้งคร้อ” เมืองคึกคักครึ้นเครงครบ
เงียบสงบไม่พบเจอเพราะเมืองใหญ่
ผู้คนมากรถราหลายสัญจรไป
ยิ้มสดใสน้ำใจใสสราญ
12....แต่เหมือนกลั่นแกล้งพี่ให้คิดถึง
ถึงคะนึงอิ่มเอมเปรมขับขาน
ขานแว่วแว่วข้างหูอยู่เนาว์นาน
นานเนิ่นผ่านหวานกรุ่นอบอุ่นใจ
13....ใจคนเราบางเบาเทียบสิ่งไหน
ไหนเฉลยบอกใบ้เทียบใดได้
ได้ใคร่รู้ว่าใจลอยจากแดนไกล
ไกลแต่ใยกลับใกล้ไม่ห่างกัน
14. ...ถึง “หนองคัน” ตำบลหนองน้ำใส
เพียงมองไปชื่นสุขแสนแดนสวรรค์
แดดกระพริบแสงสว่างส่องน้ำพลัน
มหัศจรรย์ธรรมชาติสร้างสรรค์มา
15....นึกถึงวันสงกรานต์ที่หวานฉ่ำ
วันคืนค่ำประทับใจหาใดหนา
ได้ทำบุญสุนทานภาวนา
แม้ชาติหน้าอยู่หนใดให้คู่กัน
16.... ถึง “บ้านแข้” แขไขเห็นไม้ดัด
สารพัดดัดได้สร้างเสกสรร
งามเลิศล้ำตะโกข่อยร้อยรัดกัน
อัศจรรย์ยิ่งนักประจักษ์จริง
หมายเหตุ คำอธิบายนิราศในแต่ละบท
- กลอนบทที่ 12-13 ผมใช้ กลบท “วัวพันหลัก” มาใช้ในกลอนแปด
โดยคำสุดท้ายของวรรคสดับซ้ำกับคำที่หนึ่งของวรรครับ คำสุดท้ายของวรรครับซ้ำกับคำที่หนึ่งของวรรครอง คำสุดท้ายของวรรครองซ้ำกับคำที่หนึ่งของวรรคส่ง ดังนี้
000 00 00๑ ๑00 00 00๒
๒00 00 00๓ ๓00 00 00๔
คมกวีวันนี้เป็นนิราศ
บรรจงวาดคำกวีเพิ่มสีสรรพ์
บันทึกถ้อยริมทางระหว่างวัน
เดินทางนั้นดูดีมีร่องรอย