ดอกไม้


นรากร พิสิษพุฒิธาดา
เขียนเมื่อ

27/06/2555 ตื่นแต่เช้า 7.00 น. เพื่อจะไปเรียน calculus 3 รู้สึกเจ็บคอแต่เช้าเลย ไปนั่งเรียนก็ปวดหัวจังเลยวันนี้ พอรอบบ่ายก็รอเรียนวิชาLab(วิชาปฎิขัติการคอมพิวเตอร์)  แต่อาจารย์ติดธุระเพราะที่คณะประกวดเฟรชชี่
พอได้ยินว่ามีการประกวดเฟรชชี่ก็ลงไปดูรุ่นน้องแสดง จนรอฟังผล สรุปว่ารุ่นน้องวิศวกรรมเครือข่ายได้เป็นเฟรชชี่คณะ นั้นคือรุ่นน้องผมเอง ด้วยการแสดงมายากล อยากบอกว่าน้องเขาแสดงได้น่าตื่นเต้นมาก สมแล้วที่ได้รับรางวัล พองานเลิกกลับห้องว่าจะทำการบ้านแต่ไม่ไหว จึงไปนอนพักผ่อน คิดว่าจะนอน 10 นาทีเอาแรงแล้วค่อยมาทำการบ้าน แต่ก็ใช้เวลานอนไป 3 ชั่วโมงตื่นมาเป็นไข้ทำอะไรไม่สบายตัวเลยวันนี้เลย กินยาแล้วก็นอนต่อ ณ เวลา 21.30 น. (ฝันดี)

6
2
04 ยุพาภัทร ป้องภัย
เขียนเมื่อ

เรื่อง หนีสุนัขดันเจอคนโรคจิต

วันพุธที่ 13 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555 หลังฉันเรียนเสร็จวิชาการรักษาพยาบาลเบื้องต้น 1 เวลาประมาณ 12.00 น. ฉันกับเพื่อนก็ขับรถไปกินข้าวแถว ซอยสุขาอุปถัมถ์ 1 ซึ่งฉันเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ส่วนเพื่อนเป็นคนนั่งซ้อนท้ายฉันก็ขับรถมาเรื่อยๆๆมาจนถึงทางเลี้ยวเข้าซอยซึ่งมันจะเป็นทางผ่านแต่ข้างหน้านั้นมีสุนัขพันธุ์ร็อกไวเลอร์สีดำ-น้ำตาลตัวใหญ่มากวิ่งไล่รถที่ขับผ่านฉันจึงชะลอรถและได้ขับรถผ่านผู้ชายคนนึงรูปร่างสูง ผิวคล้ำ  ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวยืนอยู่กับรถจักรยานยนต์ฝั่งตรงกันข้ามกับฉันตอนแรกก็ไม่มีอะไรผิดปกติพอฉันขับรถผ่านไปประมาณ 20 เมตร ฉันก็ต้องเลี้ยวรถกลับเพราะกลัวสุนัขตัวนั้นมากๆมันยืนจ้องหน้าเหมือนรอจะกัด พอขับรถใกล้จะถึงผู้ชายคนนั้นที่ยืนอยู่นั้นเขาได้หันหน้ามาทางฉันกับเพื่อนแล้วโบกมือเรียกเหมือนจะถามอะไรแล้วฉันก็หันไปมองดูซึ่งเขาก็หันหน้ามาเปิดโชว์อวัยวะเพศพร้อมกับทำหน้าหัวเราะพอใจในสิ่งที่ตนเองทำอยู่ พอฉันเห็นฉันตกใจมากรีบสะบัดหน้าหนีแล้วบึงรถไปพร้อมส่งเสียงกรีดร้องตกใจ เพื่อนที่นั่งรถมาด้วยถามด้วยความงงว่าอยู่ดีๆฉันร้องทำไมแล้วก็ถามว่าฉันเห็นอะไรเพราะเพื่อนของฉันมองเห็นแค่เขายิ้มหัวเราะฉันก็เลยบอกเหตุผลเขาไปเพื่อนฉันก็ตกใจเพราะเรามาเรียนอยู่ที่นี่เราก็อยู่ปี 3 เราก็ไม่เคยเจอเรื่องอะไรแบบนี้ หลังจากเหตุการณ์ที่ไม่อยากจะคิดผ่านไปแล้ว ฉันก็ต้องระวังเรื่องไปไหนมาไหนซะแล้วเพราะคนโรคจิตอาจจะยังวนเวียนอยู่บริเวณนั้นอีกก็ได้ เรื่องนี้ทำให้เรารู้ว่าหนีเสือปะจระเข้ชัดๆเลย หนีสุนัขแต่กลับต้องตลึงกลัวคนโรคจิตซะ.............T_T 

8
6
ศิริพรรณ ภัทรสิริวรกุล
เขียนเมื่อ

ลานเล่านิทาน ร้องเล่น เต้นกับน้อง ปีที่ 2

 ทุก ๆ วันเสาร์ เวลา 5 โมงเย็น เด็ก ๆ ที่ชุมชนศรีโลหะฯ จะมารวมตัวกันที่ลานเล่านิทาน ร้องเล่น เต้นกับน้อง  เพื่อมาทำกิจกรรมกับพี่ ๆ ชมรมนมแม่ฯ ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นจากการประชาคมความต้องการของเด็ก ๆ  ที่อยากจะทำกิจกรรมอะไรบ้าง จึงเป็นที่มาของกิจกรรมลานเล่า ฯ นี้ เด็ก ๆ ลงมติกันว่าต้องการให้พี่ ๆ เล่าและสอนเทคนิคการเล่านิทาน สอนการร้องเพลง สอนการเต้นประกอบเพลง และจัดการแข่งขันกีฬา ในปีที่ผ่านมา เด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมเล่านิทาน และทำฉากละครโรงเล็ก  สอนเทคนิคการเล่านิทาน และสอนเล่นละครเวที ซึ่งจะมีผู้ปกครองมาร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ด้วย ตามด้วยกิจกรรมสอนนวดคลายเครียด เติมเต็มด้วยสาระด้านสาธารณสุขทุกสัปดาห์ และเรายังมีการเรียนรู้นอกห้องเรียนกับผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง พี่ ๆ ชมรมนมแม่ พาเด็ก ๆ ไปเรียนรู้การประดิษฐ์หุ่นยนต์จากตอไม้ และทุก ๆ ครั้งที่ทำกิจกรรมเสร็จ เด็ก ๆ จะต้องเข้าวัดเพื่อทำวัตรเย็นก่อนกลับบ้าน

     และเมื่อถึงวันขึ้นปีใหม่ ที่ลานเล่านี้ มีกิจกรรมสำหรับเด็ก ๆ โดยคนในชุมชนมีส่วนร่วมบางคนก็อาสาทำอาหารมาเลี้ยงเด็ก ๆ บางคนอาสารับผิดชอบเรื่องน้ำ ทุกคนอยากเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมดี ๆส่วนเด็ก ๆ ก็ได้เตรียมการแสดงร้องเพลงวันปีใหม่ และเต้นประกอบเพลง ซึ่งพวกเขาได้คิดการแสดงเองทั้งหมด เด็ก ๆ มีความสุข คนดูมีความสุข ทุกคนมีความสุข

     จากการที่ชมรมนมแม่ฯ ได้จัดกิจกรรมให้กับเด็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ พอใกล้วันเสาร์มากขึ้นเท่าใด เด็ก ๆ จะนับวันรออยากให้ถึงวันเสาร์เร็ว ๆ ไม่น่าเชื่อว่าทุก ๆ ครั้ง จะมีเด็ก ๆ เพิ่มมากขึ้น จากวันแรกเริ่มต้นที่ 15 คน ประชาสัมพันธ์จากหอกระจายข่าวชุมชน พี่ ๆ ชมรมฯขับรถไปรับถึงบ้าน ซึ่งชมรมฯก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่ขอให้ค่อย ๆ โต และเข้มแข็ง เพราะเราเริ่มจากเล็ก ๆปัจจุบันนี้ มีเด็ก ๆ เกือบ 60 คน ชมรมฯเราโชคดี ที่มีผู้ใหญ่ใจดีให้การสนับสนุน และทาง รพ.ท่าม่วงร่วมกับเทศบาลได้ช่วยเหลือให้งบประมาณสนับสนุนมาทำกิจกรรมมาโดยตลอด

  มาร่วมกันทำกิจกรรมดี ๆ กับเด็ก ๆ ที่ลานเล่าชุมชนศรีโลหะฯ ได้ทุกวันเสาร์ 5 โมงเย็นนะค่ะ

 

2
0
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท