สากลศึกษา


                               

                                                   

 

        ดิฉันสอนวิชาเกี่ยวกับการเขียนให้กับนักศึกษา กศบป.หลายกลุ่ม เรื่องน่าหนักใจ ก็คือการใช้คำผิด และการเขียนที่ขาดความต่อเนื่อง ทำให้การตรวจแก้เป็นไปอย่างยากลำบาก   หลายครั้งที่นึกอยากจะ บิด ดีด หยิก พวกขี้เกียจอ่าน ขี้เกียจเขียนเสียให้หนำใจ   ค่าที่ทำให้ดิฉันต้องตรวจแก้งานจนหัวปั่นหัวเวียน ส่วนพวกเขาก็รำคาญความจุกจิกจู้จี้ของดิฉันเสียเป็นนักหนา

        ดิฉันคิดว่านักศึกษาน่าจะเรียนสนุกขึ้น ถ้ามีอะไรสนุกๆให้อ่าน จึงเอานิตยสารสรรสาระ ภาคภาษาไทยไปให้และบอกพวกเขาว่า  นิตยสารฉบับนี้น่าสนใจมาก (นั่นหมายความว่าอ่านสนุกมากด้วย)

        ดิฉันให้พวกเขาอ่านคอลัมน์เรื่องขำขันจากผู้อ่านที่ส่งมาจากอีกมุมโลก ตั้งคำถามว่าคุณชอบเรื่องขำขันเรื่องใดมากที่สุด แอบแน่ใจว่าบรรยากาศการเรียนรู้วันนี้ จะเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

       นักศึกษาจำนวนมาก เปิดอ่านด้วยสีหน้าเฉยเมย  บางคนอ่านแล้วส่ายหน้า บอกเพื่อนข้างๆว่า  ไม่เห็นขำ

        ดิฉันรีบกลับลำตั้งโจทย์ใหม่ งั้นไหนบอกครูซิ  เรื่องไหนไม่ตลกที่สุด เขียนบอกเหตุผลมาด้วย  
        พวกเขาเขียนบอกดิฉันดังนี้

        เรื่องที่หนึ่ง เมื่อลูกชายของเรากลับจากมหาวิทยาลัยในช่วงฤดูร้อน ผมถามเขาว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม  "ดีครับ" ลูกตอบ "อาหารล่ะ"  ผมถาม "ดีครับ"  "หอพักล่ะ"  "ดีครับ"   "วิทยาลัยนี้มีทีมฟุตบอลที่เก่งมากนะ" ผมพูด  พยายามกระตุ้นให้ลูกพูดมากกว่านั้น "ลูกคิดว่าปีนี้ทีมฟุตบอลจะเป็นอย่างไรบ้างล่ะ"   "ดีครับ" เขาตอบ "การเรียนของลูกล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง"   "ดีครับ" "ลูกตัดสินใจเลือกวิชาเอกหรือยัง"   "ตัดสินใจแล้วครับ"  "วิชาอะไรล่ะ"   ผมถาม  "การสื่อสารครับ"

เหตุผล : ที่ไม่ขำเพราะเป็นคำง่ายๆ  ไม่แสดงความรู้สึก คำพูดก็เฉย  ไม่เห็นขำ

        เรื่องที่สองบิล นั่งอยู่ในร้านเหล้าแถวบ้าน คุยโวถึงพละกำลังของตนเองจนใครต่อใครในร้านไม่กล้าประลองกำลังด้วย จู่ๆชายแปลกหน้าคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมาท้า

        "มาพนันกันดีกว่า เอา 50 เหรียญก็พอ รับรองได้เลยว่าถ้าฉันเอาของอะไรอย่างหนึ่งแล้วใส่รถเข็นไปถึงแยกหน้า นายไม่มีทางเข็นรถคันเดิมกลับมาถึงที่เก่าได้หรอก"

       บิลสำรวจดูรูปร่างผอมแห้งของชายแปลกหน้า  "นี่มันเรื่องหมูๆ ตกลง  ฉันรับพนัน"


        ทั้งสองกับลูกค้าในร้านเหล้า ต่างกุลีกุจอไปยืมรถเข็นมาได้คันหนึ่ง "เอ้า มาดูกันซิว่านายจะแน่แค่ไหน "บิลพูดเยาะ

       "ได้เลย" ชายแปลกหน้าว่า "นายขึ้นไปนั่งบนรถเข็น"

เหตุผล : ไม่ขำ เพราะเป็นเรื่องการพนัน ไม่ใช่เรื่องตลก

          ......ดิฉันอ่านเหตุผลของนักศึกษา แล้วมองนิตยสารในมือ.....

 

        .....ดิฉันนี่แหละที่จะต้องถูกหยิกเป็นคนแรก...!..... 

 ------------------------------------------------

 หมายเหตุ

1. เนื่องจาก File เดิมไม่ได้บันทึกที่มาของเรื่องตลกใน สรรสาระไว้ จึงไม่มีอ้างอิงที่มา  ดิฉันกำลังพยายามหา แต่คงใช้เวลาสักพัก 

2. ดิฉันพยายามลดขนาดตัวอักษรให้เล็กลง แต่ยังออกมาตัวเท่าหม้อแกง  อ่านแล้วเหมือนคนตะโกนอย่างไรไม่ทราบ    

ต้องขออภัยท่านผู้อ่านด้วยนะคะ :)


 

      

คำสำคัญ (Tags): #สิ่งเล็กๆน้อย
หมายเลขบันทึก: 94408เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2007 21:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

สวัสดีค่ะพี่แอมป์

    อิอิ อ่านแล้วต้องขำลึก ๆค่ะ   แค่เรื่องแรกก็รู้แล้วการเรียนเป็นอย่างไร  Dครับ แต่เรียนการสื่อสาร อิ อิ ถึงได้ D ไง ก็เป็นซะยังง้าน ฮ่า ๆๆๆๆ

สวัสดีค่ะ อ.ราณี

      โอ้โฮ...มาเร็วมากเลยค่ะ  .....คือว่าน้องราณีคะ ตอนนี้นึกแล้วพี่แอมป์ก็ขำ  แต่ตอนสอนพี่ขำไม่ออก
       นึกฉุนตัวเองว่าทำไมเราไม่วิเคราะห์ผู้รับสารให้ดีก่อน   และได้ข้อคิดว่าอย่าเอาความรู้สึกเราไปตัดสินความรู้สึกคนอื่น   โดยเฉพาะเรื่องอารมณ์ขัน 
       ตั้งแต่นั้นเลยให้เด็กห้องนึงเลือกก่อน  พอเห็นแล้วว่าเขาชอบแบบไหน  ก็ค่อยเอาเรื่องแนวที่เขาชอบ  ไปใช้กับห้องอื่น   ค่อยยังชั่วขึ้นเยอะอะค่ะ   : ) 

  • ผมว่าก็ขำดีนะ แต่มันไม่ก๊ากเท่านั้นเอง
  • เอ...เด็กสมัยนี้ต่อมขำเขาหายไปไหนหมดนะ
  • หรือไปอยู่ที่ครูหมด  555555
  • อ้าว... คุณธรรมาวุธ   ไหงมาโยนกันเฉยเลยอะ
  • ต่อมใครเก๊าะต่อมคนนั้นซิคะ .... อิอิ
  • แต่งานนี้ดิฉันเห็นใจเด็กเหมือนกันค่ะ   บางทีอารมณ์ขันก็เป็นเรื่องของวัฒนธรรม   ประสบการณ์ และปริบทเฉพาะบุคคลด้วยเหมือนกัน    ......หรือดิฉันชอบตลกแบบคนแก่ก็ไม่รู้ (ตลกช้า)  : ) 
  • ขำค่ะ ... ขำที่นักศึกษาไม่ขำ เพราะ อ.ดอกไม้ทะเล เอาเรื่องที่เขาไม่ขำไปให้อ่านไง อิ อิ
  • ดิฉันก็เคยกับลูกชาย นะคะ ส่งขำขันของฝรั่งไปให้อ่านทาง e-mail ลูกชายทำงานแล้ว อยู่ต่างจังหวัดค่ะ
  • เขาตอบกลับมาว่า แม่ มันขำตรงไหนอ่ะ
  • แป่ว ว ว ว

อ่านบันทึกนี้ได้ทั้ง ขำ และ ยิ้มๆ ค่ะอาจารย์

อ่านบันทึกนี้หมด จนถึงท่าน ลปรร.สุดท้ายแล้วขำครับ

สวัสดีค่ะคุณหมอนนทลี

  • เห็นcomment คุณหมอ ดิฉันงงอยู่พักหนึ่ง  เพราะสงสัยว่า...เอ๊.... เราเข้ามา comment ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่   เอ...ทำไมของเราไม่เป็นพื้นสีฟ้า.....  อิอิ
  •  ตลกที่เราตั้งใจทำให้ขำแล้วไม่ขำ  แถวบ้านดิฉันเขาเรียกขำๆว่า  "หล็อกแห้ง"  (ตลกแห้ง) อะค่ะ   อันนี้ดิฉันชำนาญมาก ....  
  • เล่าเรื่องจบปุ๊บ  เพื่อนเงียบ  
  • ...บอกเพื่อนว่า  เรื่องตลกนะนั่นน่ะ  เพื่อนก็เงียบ....   
  • ....ถามเพื่อนว่าเราเล่าไม่ตลกเหรอ.......    เพื่อนถอนใจเฮือก....   แล้วก็เงียบ... 
  • ประสบความสำเร็จสูงสุดอะค่ะ....  : )

สวัสดีค่ะอาจารย์รศ.พญ. ปารมี ทองสุกใส

  • ดิฉันเคยเข้าไปอ่านบันทึกที่อาจารย์เขียนถึงละครเรื่อง  แดจังกึม ค่ะ   อาจารย์วิเคราะห์ไว้ละเอียดดีจังค่ะ    อ่านแล้วคิดตาม  แล้วก็ได้เห็นว่ามีเรื่องที่เราคิดไม่ถึงอีกหลายเรื่อง 
  • คุณพระเอกเรื่องนี้เขามาดนุ่มและ นิ่ง ลึก  ดิฉันรอ รอ รอ  ด้วยความกระวนกระวายใจ  เพราะพระเอกไม่กอดนางเอกสักที  ไม่แม้แต่จะแตะปลายนิ้ว  ทำให้ดิฉันงุนงงมาก เพราะผิดขนบมาตรฐานโลกาภิวัตน์ฮอลลีวู้ด
  •  จึงได้ตามดูต่อไป   และดูต่อไปจนได้เห็นว่า การหน่วงอารมณ์คนดู  ให้เห็น "ค่า" ของการรู้จักยั้งคิด  และการรู้การควรไม่ควร นั้น  ทำให้ตัวละครนั้นดูมีคุณค่าแก่การเป็นแบบอย่าง  และทำให้ละครมีค่าเหลือเกิน 
  • รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่อาจารย์แวะมานะคะ  : )

 

เรียนท่านอาจารย์ดอกไม้ทะเลครับ

  • ผมก็ขำครับ ขำท่านอาจารย์ เรียกว่า มุกแป๊ก ฮาฮา แต่นั่นแหละครับ ก็สงสารท่านอาจารย์จริงๆเลยครับ ยิ่งเอาใจใส่มากยิ่งหนักมาก
  • เอาใจช่วยนะครับท่านอาจารย์ครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์ชาญวิทย์

  • ขอบพระคุณที่อาจารย์แวะมาค่ะ   : )
  • ดิฉันคิดว่าน่าจะเคยได้พบอาจารย์ที่นครศรีฯอยู่บ้างนะคะ   เหมือนกับที่เคยเห็นครูนงและอีกหลายท่าน รู้สึกดีที่เมืองนครฯมีผู้ขับเคลื่อนหลักๆในวงการพัฒนาจำนวนมาก 
  • ดิฉันโชคดีที่เข้า GotoKnow และได้เห็นกระบวนการขับเคลื่อนและพัฒนาที่หลายท่านถ่ายทอดไว้ให้ศึกษาในบันทึก  บันทึกของท่านทำให้ได้เรียนรู้สิ่งที่ไม่มีในตำรา  แต่มีจริงในวิชาชีวิตค่ะ
  • ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ

สวัสดีค่ะ อาจารย์นมินทร์ (นม.)

  • ยินดีที่อาจารย์แวะมาค่ะ 
  • อาจารย์เข้า GotoKnow นานแล้วใช่ไหมคะ  เสียดายจัง  ดิฉันพลาดบันทึกอาจารย์ไปหลายบันทึก  แต่เห็น comment ของอาจารย์อยู่บ้างประปราย  ดิฉันต้องค่อยๆตามอ่านไปทุกวันค่ะ  สังคมนี้มีสมาชิกมากขึ้นทุกวัน  และมีบันทึกเพิ่มทวีคูณแบบตามอ่านไม่ทันจริงๆ
  • ขอบพระคุณอาจารย์สำหรับกำลังใจค่ะ  ดิฉันก็รู้สึกว่าคนป็นครูนั้น ที่เราอยู่ได้โดยไม่โมโหเดือดร้อยองศาในแต่ละครั้ง  ก็เพราะกำลังใจเป็นสำคัญทีเดียว : )
  • ปล.เรียนถามนิดนะคะ ไม่ทราบเพราะเหตุใดอาจารย์จึงใช้คำหลักว่า  ชีวิตคือดอกไม้ คะ?
  • อ่านแล้วทำให้รู้สึกว่า อาจารย์มองชีวิตเป็นสิ่งสวยงามนะคะ รู้สึกดีค่ะ : )

ดีจังคะ  ...สอนหลายๆแบบ....เจอหลายๆแบบ

..................สงสัย ต้องให้ นักศึกษา เขียนเล่าเรื่องตลกขึ้นเอง.... 

ครูพี่แอมป์ไหวพริบฉับไวมากเลยค่ะ เป็นมัทอาจจะกลับลำไม่ทัน : )

นร. เค้าให้เหตุผลแบบวิชาการมากเลยอ่ะค่ะ ยังกะว่าเค้าคิดว่าพี่สอนเรื่ององค์ประกอบของ"มุข" ไปซะนั่น ไม่มีใครตอบว่าไม่ขำเพราะ "ไม่เก็ท" หรือ "ก็หนูไม่เห็นว่ามันขำอ่ะค่ะ" หาเหตุผลมาซะฟังดูดีเชียว : )

พูดถึงเรื่ององค์ประกอบของ"มุข" มีคนทำวิจัยเรื่องนี่ด้วยค่ะ ว่าอะไรขำ อะไรไม่ขำ เพราะอะไร คนเรามีปฎิิกริยากับอะไรถึงขำ  มัทเคยได้ดูสารคดีทางทีวี น่าสนใจมากค่ะ เพราะเป็นคนชอบขำ ไม่ว่าจะขำลึกๆแบบหัวเราะหึๆ หรือก๊ากๆ พวกขำเจ็บๆแบบฟังแล้วมีเสียงในคอหึเดียวก็ชอบค่ะ  

เรื่องที่พี่แอมป์นำมาสอนนร.มัทก็ชอบค่ะ ขำแบบหึๆ (สองครั้ง)  : D

 

สวัสดีค่ะพี่หน่อย

  • มุกพี่หน่อยดีจัง ขออนุญาตนำไปใช้ตอนเปิดเทอมนะคะ......  
  • ให้เด็กเขียนเล่าเรื่องตลกขึ้นเอง  โอชอบมาก  แอมแปร์ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย 
  • เขาอาจได้ข้อมูลจากประสบการณ์ขำๆที่เขาเจอมาในชีวิตจริง  ได้จากการอ่านการ์ตูน  หนังสือ  อินเตอร์เน็ต  ได้จากการฟัง  การดู จากประสบการณ์รอบทิศทางของเขา  แล้วมาเขียนเล่าด้วยอารมณ์ขัน     เขาจะได้คิดตั้ง 3 ชั้น เป็นอย่างน้อย  
  • แอมแปร์อยากบอกเด็กๆว่าให้เขียนเองได้ไหม  อย่าลอกมาส่งครูเลย .....เขาจะฟังเรารึปล่าวน้อ  : ) 
  • ขอบคุณมากนะคะพี่หน่อยที่เอามุกหนุกๆมาฝาก  ...... อย่าลืมหาเวลาพักผ่อนบ้างเด้อ 

สวัสดีค่ะ อ.มัทนา

  • พี่แอมป์ก็คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยอ่านงานวิจัยเกี่ยวกับอารมณ์ขัน เป็นภาษาไทยอยู่สองสามเล่ม  สนุกดีค่ะ  ผุ้วิจัยถอดกระบวนการสร้างอารมณ์ขันได้เป็นขั้นเป็นตอนสุดยอดมาก
  • อ่านแล้วเข้าใจ....และหายตลกไปเลย...... ha.!....
  • เด็กทำให้เราได้ข้อคิดอย่างสำคัญว่า  "อย่าเอาตัวเองไปตัดสินคนอื่น"   แล้วเราก็เผลอทำยังงี้ทุกที 
  • พี่แอมป์ชอบเพลงฝรั่ง หนังฝรั่ง   ประมาณว่า "สากล" (อิอิ)  และอะไรก็ตามที่เป็น Bangkok Style  ในช่วงชีวิตหนึ่งเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมอย่างนั้น 
  • พอมาเจอเด็กที่นครฯ    เราจะโยงเขาเข้าหาสิ่งที่เรา(คิดว่า)ชอบ    อย่างเดียวไม่ได้   พี่แอมป์ต้องตั้งสติคิดใหม่  พร้อมกับถามหารากของตนเอง    และมองให้เข้าใจรากของเด็กๆด้วย   คือเรื่องนี้ครูที่ไม่เก่งอย่างพี่ต้องนั่งคิดอีกสามเดือน 
  • หรือไม่ก็รอให้คุณน้องเบิร์ดเธอเปิดบันทึกป่วนเอ๊ยประเทืองวงการกันอีกรอบ  จะได้เข้าไปตอบให้หมดชากันเป็นหม้อๆ   เผื่อพี่จะคิดออกมั่งอะค่ะ   ; )

ขำ "การพยายามตีความเรื่องขำเพื่อให้คนฟังเข้าใจและขำ"

ถ้าเป็นนักศึกษาอาจนั่งขำที่ตัวเองไม่ขำในเรื่องที่ฝรั่งขำ  

อารมณ์ขำเป็นสากลเน๊อะอาจารย์แต่เรื่องขำให้เกิดอารมณ์ืขำนี่ไม่สากลเลย..ฮ่าๆ 

 

สวัสดีค่ะอาจารย์จันทรรัตน์

.....อารมณ์ขันเป็นอารมณ์สากลจริงๆค่ะอาจารย์..... คนที่จะทำให้เกิดอารมณ์ขันก็สำคัญอยู่ 

ดิฉันเคยนั่งขำแม่เป็นวรรคเป็นเวร  เพราะแม่ชอบพยายามเล่าเรื่องขำที่โต๊ะกินข้าว   แต่พอเริ่มเล่า  แม่ก็จะหัวเราะขำเองเสียก่อน  แล้วก็หัวเราะอยู่นั่น  .....คือเรามองกันแล้วก็ขำกลิ้ง     ...ขำแม่........ที่ขำซะเอง  จนไม่เป็นอันเล่าเรื่องขำๆ ...  

 และอยากบอกว่า  ขนาดอาจารย์เข้ามาแซวขำๆ     ก็ยัง   "....คม....."    เลยอะค่ะ     : )

แวะมาเล่าอีกรอบ(คงไม่คม)

คือเพื่อนในกลุ่มจะมีคนจีนอยู่คน ที่จะฟังชาวไทยคุยกันไม่รู้เรื่อง แล้วเราก็ชอบเล่าเรื่องขำกัน เล่ากันหัวเราะกัน คนจีนก็ทำหน้าเหรอหราไม่รูู้่้เรื่องอยากหัวเราะด้วยแต่ก็ไม่รู้จะหัวเราะด้วยได้อย่างไรเพราะไม่รู้เรื่อง

ดิฉันเลยบอกเขาว่า

"โอเค เราเล่าเรื่องขำในภาษาไทย แต่เราหัวเราะเป็นภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นยูหัวเราะกับเราได้" 

ตั้งแต่นั้นมา ทุกครั้งที่เราหัวเราะ เธอหัวเราะด้วยแล้วเธอก็บอกว่า

เธอหัวเราะเป็นภาษาอังกฤษ ...อิอิ

อาจารย์จันทรรัตน์คะ  .....  เปลี่ยนจากคมเป็นฮาในพริบตา......  (หัวเราะเป็นภาษาอังกฤษ  ha ha !.....) : )

สวัสดีครับ 

P
ท่านมีอะไรๆ พิเศษ เลยเข้ามาเยี่ยมเยียนครับ

สวัสดีค่ะ คุณสิทธิรักษ์

                ยินดีและขอบพระคุณมากค่ะที่คุณสิทธิรักษ์แวะมาทักทาย  ดิฉันรู้สึกว่าการได้มีโอกาสสนทนากับผู้ที่สนใจตรงกัน     ถือเป็นโอกาส "พิเศษ"ของชีวิต  ดิฉันจึงสื่อสารอย่างตั้งใจ
               และทำให้เผลอใจ.....เขียนยาว "เป็นพิเศษ" ไปทุกทีเลยอะค่ะ    : )

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท