บางครั้งชีวิตก็ไม่มีคำตอบสำเร็จรูป .....


คำตอบที่ถูกในโลกนี้... มิได้มีเพียงคำตอบเดียว

บางครั้งชีวิตก็ไม่มีคำตอบสำเร็จรูป .....

 

 

ถ้าเข้าใจอย่างนี้ตั้งแต่เล็ก  ดิฉันคงไม่ต้องนั่งอยู่อย่างโดดเดี่ยวในห้องเรียน  เพียงเพื่อจะตั้งคำถามชีวิตสำเร็จรูปกับทุกสิ่งรอบข้าง  โดยไม่พบคำตอบชีวิตสำเร็จรูปที่ต้องการในหนังสือเรียนเล่มใดๆเลย......  แม้แต่เล่มเดียว

ดิฉันกลับพบคำตอบในหนังสืออ่านนอกเวลา... หนังสือนิยาย  โทรทัศน์ และภาพยนตร์ ตัวละครเหล่านั้นปลอบประโลมใจดิฉัน  และทำให้ดิฉันรู้ว่าเราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวในโลกนี้เสมอไป...

ดิฉันได้คำตอบว่าอย่าหาคำตอบสำเร็จรูปของชีวิตจากหนังสือเรียน   หนังสือเรียนอาจไม่ได้ช่วยตอบคำถามชีวิต   หรืออาจเป็นเพราะดิฉันคิดแคบๆตามประสาเด็กอยู่มิติเดียวว่า หนังสือเรียน พรากความเป็นมนุษย์ไป  ดิฉันมองไม่เห็นหัวใจอยู่ในนั้น  แต่ดิฉันบอกใครไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะอธิบายเขาอย่างไร.... 

วันหนึ่งเมื่อแก่แล้ว  ดิฉันได้อ่านหนังสือ ชีวิตกับความขัดแย้ง  : ปัญหาจริยธรรมในชีวิตประจำวัน  เขียนโดย  ผศ.ดร.สมภาร พรมทา (ปัจจุบันเป็น รศ.)   อ่านแล้วรู้สึกซาบซึ้งและเห็นจริง

บางเรื่องดิฉันมีคำตอบในใจ  และไม่เปลี่ยนคำตอบ  เพราะมีจุดตัดสินตามหลักคิดของตนเอง   บางเรื่องดิฉันพยายามหาคำตอบ  แต่ก็ยังคงเป็นคำตอบที่มีข้อแย้งได้ไม่สิ้นสุด

และเป็นข้อแย้งอันเป็นความเห็นตามธรรมดาของมนุษย์  ที่จะเอาผิดฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโดยเด็ดขาด ณ ขณะนั้นมิได้  เพราะมีเหตุปัจจัยเกี่ยวเนื่องเกื้อหนุนกันอย่างสมแก่เหตุและผล  ต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลมาสนับสนุนแนวคิดของตนอย่างกว้างขวาง  และลึกซึ้งแจ่มกระจ่าง 

.จนได้เห็นจริงว่า....บางครั้ง  คำตอบที่ถูกในโลกนี้  ก็มิได้มีเพียงคำตอบเดียว......

หนังสือเล่มนี้ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนังสือห้องสมุดโรงเรียน ประจำปี 2543 จากสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.)

ดิฉันฝัน(และตั้งใจ)ไปว่า หากยังมีโอกาสได้อยู่ในหลักสูตรนิเทศศาสตร์ ก็จะลองเสนอให้มีหนังสืออ่านประจำหลักสูตร  กำหนดไว้เป็นแกนสัก 40 เล่มตลอดหลักสูตร  และจะใส่ชื่อหนังสือเล่มนี้เข้าไปด้วย

ดิฉันคิดว่าเด็กๆนิเทศศาสตร์  ควรได้อ่านหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างยิ่ง  ในฐานะสื่อมวลชน  เขาควรถูกฝึกอย่างหนักให้มีหลักคิด  ก่อนจะมีหลักคิดได้  เขา ควร ถูกฝึกให้คิดอย่างหนัก เสียก่อน 

ดิฉันแอบเข้าข้างตัวเองว่า หากอ่านหนังสือเล่มนี้เข้าใจ  ดิฉันคงฝึกเขาเรื่อง การรู้เท่าทันการสื่อสาร ได้เร็วขึ้นอีกเยอะ 

ดิฉันชอบตอนท้ายของคำนำในการพิมพ์ครั้งที่หนึ่ง มากด้วย   แต่ขออนุญาตไม่ยกมาไว้ที่นี่  เพื่อมิให้ความเห็นนี้ยาวเกินไป

และขออภัยผู้อ่านหากทำให้ต้องลำบากเลื่อนสครอลบาร์ยาวๆนะคะ  ดิฉันกะว่าจะเขียนถึงหนังสือที่ชอบไปเรื่อยๆในบล็อกเดียวกันนี้  เผื่อมีผู้สนใจตรงกันก็จะได้คุยกันในคราวเดียวค่ะ :)

........................................................................

หมายเหตุ : ปรับเพิ่มเติมจาก มองโลกจากอีกมุมโลก  และยกมาไว้ในบันทึกใหม่ เพราะเพื่อนบ่นว่าทำไมไม่เขียนแยก  จะได้อ่านง่ายๆ

มีเพื่อนช่างบ่นเอ๊ยช่างแนะนำนี่ก็น่ารักดีน่ะค่ะ :)

คำสำคัญ (Tags): #หนังสือ
หมายเลขบันทึก: 88920เขียนเมื่อ 6 เมษายน 2007 21:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 08:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (35)
  • สวัสดีค่ะ คุณดอกไม้ทะเล
  • คำตอบที่ถูกในโลกนี้  ก็มิได้มีเพียงคำตอบเดียว 
  • ชอบนะคะ
  • บางครั้งหลายคนตอบคำตอบเดียวกัน แต่เหตุผลคนละเรื่องก็มีค่ะ
  • จะรออ่านบันทึกต่อไปนะคะ

เห็นด้วยเหมือนกันค่ะว่าหนังสือเรียนบ้านเราขโมยจิตวิญญาณของเราไปนะคะ ตัวเองก็เป็นคนที่สมัยเด็กๆจะอ่านหนังสือเรียนก่อนจนหมด แล้วก็จะไปอ่านหนังสืออื่นๆที่อยากอ่านทั้งหลายแหล่ เพื่อเป็นการเติมชีวิตจิตใจ ตอนนั้นทำไปโดยไม่รู้เลยว่า เรากำลังเติมชีวิตวิญญาณให้ตัวเองมาตลอด

สงสารเด็กทั้งหลายที่ไม่มีโอกาสได้เติมจิตวิญญาณให้ตัวเอง แล้วแถมคุณพ่อคุณแม่ก็ยังไม่พยายามช่วยเติมเต็ม (ซึ่งมีมากมาย) ทำให้เราได้เด็กเรียนเก่ง เรียนดีแต่ขาด "จิตใจและวิญญาณแห่งความรักเรียนรู้"ไปอย่างน่าเสียดายนะคะ ดีใจเสมอที่ได้เห็นคุณครูที่ยินดีจะเติมเต็มจิตวิญญาณให้เด็กๆด้วย ไม่ใช่เฉพาะวิชาการ เห็นได้เสมอว่านี่คือสิ่งที่เด็กของเราขาดในทุกๆสาขาวิชา

 

สิ่งหนึ่งที่มาขโมยจิตวิญญาณของเด็กในยุคปัจจุบันคืออินเตอร์เน็ตครับ เด็กจะชอบ chat ชอบแวะเพจโน่นนี่ จะไม่สามารถทนกับการอ่านอะไรได้นานๆ  ทำให้ห่างจากหนังสือดีๆ ที่กล่อมเกลาจิตวิญญาณเขาไปอย่างน่าเสียดายครับ

เรียน  ท่านอาจารย์

  • ติดตามบันทึกของอาจารย์อยู่ตลอดแต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็น
  • เลยเกิดความละอายแก่ใจที่มาเป็นฝ่าย  เก็บ  เกี่ยว  กอบ  โกย  เอาความรู้อยู่เพียงฝ่ายเดียว
  • ประทับใจกับ  บางครั้งชีวิตก็ไม่มีคำตอบสำเร็จรูป .....
  • ชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน  ชีวิตเราไม่เหมือนใคร  และก็ไม่มีชีวิตใครที่จะเหมือนเรา

ด้วยความขอบคุณ

 

สวัสดีค่ะ คุณBright Lily  .....แอบชอบชื่อคุณมานานแล้วค่ะ    ชื่อที่ดิฉันชอบมักเป็นชื่อดอกไม้ทุกที  :)

ดิฉันชอบมากที่คุณBright Lily บอกว่า  บางครั้งหลายคนตอบคำตอบเดียวกัน แต่เหตุผลคนละเรื่องก็มี

นี่คือเรื่องที่น่าสอนเด็กๆมากเลยค่ะ  ตอนเรียนคณิตศาสตร์สมัยเล็กๆ  ดิฉันกับเพื่อนๆได้คำตอบเดียวกัน แต่วิธีทำคนละวิธี  พอครูเฉลยในกระดาน เพื่อนบอกว่า "ของเธอผิด...ทำไม่เหมือนคู"  .......ดิฉันตกใจมาก...  คือตอนนั้นเป็นเด็กที่เถียงใครไม่เป็น  คิดก็ไม่เป็นด้วย จึงได้บอกครูว่า "คุณคูขา หนูยังทำการบ้านไม่เสร็จ"

คุณครูใจดีให้เขกโต๊ะสามที  ดิฉันอยากถามครูก็ไม่กล้าถาม  เมื่อได้เป็นครูจึงรู้สึกดีมากที่เด็กถาม  เพราะเชื่อเอาเองว่าเมื่อเด็กกล้าถามก็แปลว่าเด็กกล้าคิด

....เด็กที่กล้าคิด รู้จักถาม ก็น่าจะเป็นเด็กที่มีทักษะรู้เท่าทันการสื่อสารน่ะค่ะ 

 

คุณโอ๋คะ 

ดิฉันดีใจและมีความสุขไปล่วงหน้าแทนลูกๆทุกคนที่มีคุณพ่อคุณแม่ ที่มีใจเป็นครู  เพราะคนที่มีหัวใจเป็นเป็นครู จะกล้าบอกคนอื่นว่าสิ่งใดควรไม่ควร  โดยไม่ห่วงว่าตนเองจะเป็นที่ชื่นชอบหรือไม่  น่าดีใจที่หลายท่านใน GotoKnow มีหัวใจเป็นครูโดยมิได้มีอาชีพครูนะคะ 

บางทีดิฉันก็เคยถามตัวเองว่าควรเอาดีทางการสอนให้เด็กเขียนเก่งอย่างเดียว เพื่อให้อนาคตก้าวหน้าดูดีมีระดับกว่านี้  จะดีไหม  จะไม่ต้องบ่นๆดุๆจุกจิกไปให้เขาเบื่อหน้าเราอย่างนี้  แล้วก็จะได้ไปแต่งงานเสียที...

แต่ลูกศิษย์ที่จบไปแล้วสั่งเอ๊ยบอกต่อๆกันมาทุกรุ่นว่าให้ฝึกน้องๆต่อไป  ห้ามทิ้งน้องของเขาเด็ดขาด  ในฐานะครูที่ดีเชื่อฟังศิษย์ที่เคารพ ดิฉันก็เลยต้องปฏิบัติหน้าที่ฝึกสุดชีวิตและบ่นฉอดๆๆๆต่อไปอ่ะค่ะ 

 

โลกของอินเตอร์เน็ตนั้นน่าอัศจรรย์และน่าหวาดหวั่นไปพร้อมๆกันค่ะ  คุณหมอมาโนช  ในฐานะครูที่แก่ลงทุกวัน  ดิฉันขอสารภาพว่ารู้สึกว่ากำลังเกือบจะหมดทางสู้  เพราะดิฉันรู้ไอทีน้อยมาก และเข้าไม่ใคร่ถึงโลกของเขา    ได้แต่ฝากความหวังไว้กับท่านอาจารย์และคุณครูรุ่นใหม่ที่เข้าใจไอที ดิฉันเชื่อว่าทุกท่านจะมีวิธีคิดในการฝึกเด็กเรื่องการรู้เท่าทันการสื่อสารผ่านคอมพิวเตอร์ออนไลน์ได้ดีค่ะ :) 

เรียนคุณหมอมาโนชเพิ่มเติมว่าดิฉันมีคำถามหลายข้อเกี่ยวกับจิตวิทยาที่จะเรียนถามและเรียนขอคำแนะนำจากคุณหมอนะคะ   แต่ต้องเรียบเรียงให้ชัดเจนอีกสักนิด แล้วคงได้เข้าไปเรียนขอคำแนะนำในคราวต่อไปค่ะ

คุณน่านฟ้าทะเลลมคะ

ดิฉันยินดีเสมอค่ะ ขออย่าได้เป็นกังวลใดๆหากไม่ได้สื่อสาร  ดิฉันก็แวะไปเยี่ยมบันทึกของหลายต่อหลายท่านโดยไม่ได้ร่วมสนทนา ณ ขณะนั้น แต่รู้สึกเบิกบานใจที่ได้อ่านค่ะ  ชอบข้อคิดที่คุณฝากไว้ด้วยนะคะ

  • ชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน  ชีวิตเราไม่เหมือนใคร  และก็ไม่มีชีวิตใครที่จะเหมือนเรา
  • ขออนุญาตนำประโยคให้ข้อคิดนี้ ไปเป็นหัวข้อในการเขียนบทความ ของนักศึกษา  ในวันเปิดเทอมนี้นะคะ :)

    ปล.สงสัยอีกแล้วอ่ะค่ะ  นามแฝง น่านฟ้าทะเลลม มีที่มาจากอะไรคะ  ถ้าเคยอธิบายไว้แล้ว ขออภัยด้วยนะคะ :)

    • สวัสดีค่ะอาจารย์ดอกไม้ทะเล
    • ด้วยความยินดีมากๆเลยค่ะถ้าประโยคใดที่อาจารย์จะนำไปถ่ายทอดต่อได้ 
    • ขอบคุณสำหรับคำถามของที่มา  "น่านฟ้าทะเลลม"  แต่ยังไม่ขอตอบในที่นี้นะคะ 
    • ขอเรียนเชิญอาจารย์ไปพบกับคำตอบนามแฝง  "น่านฟ้าทะเลลม"  ได้ในสมุดบันทึก  น่านฟ้าทะเลลม  นะคะ  เพราะที่มาของ  น่านฟ้าทะเลลม  ยาวค่ะ
    • แต่เป็นนามแฝงที่มาจาก  "ตัวตนของตัวเอง"ค่ะ
    • ซึ่งในบันทึก  น่านฟ้าทะเลลม  อาจจะมีประโยคข้อคิดที่อาจารย์นำไปเขียนบทความได้ค่ะ

     

     

    ขอบคุณมากค่ะ     แวะเข้าไปที่บล็อกของคุณ น่านฟ้าทะเลลม  สีฟ้าเหมือนชื่อเลย    ได้หัดอ่านออกเสียง   แล้วลิ้นรัวพันกันอุตลุต...!  ...สนุกมากค่ะ....  :) 

    • สวัสดีค่ะ ขึ้นหัวข้อก็มีฮา นึกถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเลยค่ะ
    • ทุกอย่างอยู่ที่มุมมองของแต่ละคนค่ะ  ต่างคน..ต่างมอง (เอ๊ะ..คุ้น ๆ)
    • ในหนังสือนอกเวลา มีสาระอะไรอีกเยอะที่เราคาดไม่ถึง (ยิ่งอ่าน ยิ่งได้ โลกก็ยิ่งกว้าง แต่ก็แล้วแต่การตีความค่ะ)
    • ต่างที่ ต่างสถานการณ์ ต่างคน คำตอบเปลี่ยนได้ตลอดเวลา เปรียบเหมือนคนเราชอบกินไม่เหมือนกัน บางคนชอบเค็ม ชอบหวาน แต่ต่างเมนูกันไป หรือเมนูเดียวกัน ชอบคนละร้านอีก55555
    • ตอนเป็นเด็กคุณดอกไม้ทะเลก็เป็นเด็กช่างคิดนะคะ แต่อาจจะขาดความกล้าในการแสดงออก
    •  ผู้ใหญ่จะชอบนะคะ โดยคุณสมบัติแบบนี้ ดูเป็นเด็กผู้หญิงเรียบร้อย นุ่มนิ่ม น่ารัก
    • ในสมัยก่อน เด็กกล้าคิด กล้าถาม กล้าเถียง (แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ) จะถูกมองว่า เฮี้ยว แก่นแก้ว ปนดื้อนิดๆ ค่ะ
    • หากผู้ใหญ่ให้โอกาส และปลูกฝังความคิดที่ถูกต้องให้กับเด็ก จะช่วยให้เด็กๆ ต่อยอดความคิดและพัฒนาไปได้ไกลเชียวค่ะ
    • ขอบคุณค่ะ

    เรียนอาจารย์ดอกไม้ทะเล

    • บันทึกที่มาของนามแฝง  "น่านฟ้าทะเลลม"  บันทึกเรียบร้อยแล้วค่ะ  อยู่สมุด  "น่านฟ้าทะเลลม"  มีด้วยกันทั้งหมด  4  ตอนค่ะ
    • ขอบคุณค่ะ
    • อารมณ์ขันของอาจารย์ราณีสุดยอดเลยค่ะ  ดิฉันนั่งหัวเราะอยู่คนเดียว  เพราะเมื่อวานสอนเด็กกศ.บป.  เด็กบอกว่าเพิ่งเรียนเสร็จ ขอเวลาทานบะหมี่สำเร็จรูปแป๊บเดียวได้ไหมคะ
    • ดิฉันตอบเธออย่างไม่ทันคิดว่า  โอเค..ไวๆ  ควิกๆ...      ........นักศึกษาฮากันครืนเลยอ่ะค่ะ 

    .....(ใครจะไปรู้ง่ะว่าเธอกำลังจะทานยี่ห้อนี้พอดี)...... :)

    เมื่อเช้าอุตส่าห์เขียนตอบคุณ Bright Lily เสียยืดยาว พอดีเน็ตหลุด เสียดายจังค่ะ ....ดิฉันพยายามจะอธิบายว่าความเรียบร้อยจ๋อยๆจืดของดิฉันเป็นอย่างไร  ดูซิเน็ตมาหลุดเสียได้  สงสัยจะถูกบล็อกไว้ให้เขียนได้เฉพาะความจริงอ่ะค่ะ    :>      :)      :-)  

    ขอบคุณค่ะคุณน่านฟ้าทะเลลม ที่ฝากข้อคิดคมๆไว้ในบล็อก  ......ชื่อเดียวมีสามคำหลักเลยค่ะ

    สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะอาจารย์ มารดน้ำอาจารย์ผ่านบล็อกค่ะ มีความสุขมากๆ สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงนะค่ะ

    ขอบพระคุณมากค่ะอาจารย์แป๋ว ขอให้อาจารย์มีความสุขมากๆในวันครอบครัว และวันปีใหม่ไทยเช่นกันค่ะ   และขอให้อาจารย์มีความสุขกับการเขียนบันทึกทุกวันด้วยนะคะ :)

    ขอบคุณครับ ที่แวะไปทักทาย

    .ชีวิต ทุกชีวิต ไม่มีอะไรดีที่สุดของทุกชีวิต

    เห็นด้วยค่ะ คุณตาหยู   ......   บางครั้ง...สิ่งที่ดีที่สุดของแต่ละชีวิต ก็ดูเหมือนเป็นสิ่งเฉพาะตัวด้วย 

    ขอบคุณที่แวะมาค่ะ  :)

    แวะมาเยี่ยมครับ ผมเห็นด้วยสิ่งที่อาจารย์นำเสนอ ผมเองถกันเรื่องการอ่าน การฟัง การคิด กับเด็กรุ่นใหม่ ที่เห็นแล้วเป็นห่วงประเทศชาติจริงๆ (ไม่รู้เอามาแบกใส่บ่าตั้งเมื่อไหร่) ก็อย่างที่คุณโอ๋กล่าว คุณหมอมาโนชกล่าว และอีกหลายคนกล่าว สร้างคนเป็นงานใหญ่ และเป็นงานสำคัญ เลยแบกประเทศไทยต่อไปนี่แหละครับ แม้จะเป็นแต่เสี้ยวส่วนเล็กๆก็จะทำ ครับ
    • ขอบพระคุณมากค่ะ คุณบางทรายที่แวะมาเยี่ยม 
    • ดิฉันนึกๆแล้วก็ขำตัวเองที่สายตาแก่เร็วกว่าอายุ  เลยอ่านผ่านจอคอมไม่ค่อยได้นาน   ต้องพักสายตาบ่อยๆ .......... 
    • กว่าจะไล่ตามอ่านบันทึกดีๆที่เขียนจากใจของทุกท่านได้หมด  ดิฉันคงต้องเปลี่ยนแว่นใหม่อีกหลายอัน
    • อยากเรียนว่า  ดิฉันชื่นชมงานที่คุณบางทรายทำ  ดิฉันอยากมีโอกาสได้ รู้จัก  เข้าใจ  และ รัก  งานแบบที่คุณบางทรายทำบ้าง 
    • ดิฉันเป็นครูบ้านนอก  ที่ไม่ใคร่ได้ออกนอกบ้าน  เรียนตรงๆด้วยว่าไม่เคยทำงานกับชุมชน  เพราะนิสัยสันโดษจนกลายเป็นโดดเดี่ยวหนึ่ง  และความไม่รู้คู่กับความกลัวไปเองอีกหนึ่ง  
    • แต่ดิฉันตั้งใจ เต็มใจ และมุ่งมั่น  ที่จะทำหน้าที่ สอนลูกชาวบ้าน ให้ดีที่สุด (ลูกชาวบ้านในที่นี้ คือลูกของผู้อื่น ที่มิได้ถือกำเนิดจากตัวเรา)
    • ดิฉันคิดเองว่าดิฉันเข้าใจ  ความรู้สึกนี้  ของคุณบางทรายนะคะ
    • ความรู้สึก"เป็นห่วงประเทศชาติ"
    • และดิฉันคิดว่า  การแบกประเทศชาติไว้บนบ่า  เป็นหน้าที่ตามกฏหมาย โดยสัญชาติ  และเป็นหน้า  ตามจิตวิญญาณ  โดยเชื้อชาติ 
    • การแบก  แปลว่า ทุกคนต่างตั้งใจทำหน้าที่ของตน    ตามบทบาทของตน  ให้เต็มกำลัง  ทำอย่างดีที่สุด  และในที่สุด   ผลของความดี ก็จะสอดประสานเชื่อมโยงเป็นเนื้อเดียวกัน  กลายเป็นความสมานฉันท์และความมั่นคงของชาติ  คือใครอื่นเขาไม่สมานก็เรื่องของเขา   แต่เราก็มุ่งมั่นสมานของเราจนกลายเป็นปึกแผ่น  
    • ความรับผิดชอบที่จะแบกประเทศชาติไว้บนบ่า  นี้  น่าจะอยู่ในวิชาหน้าที่พลเมือง   พอไม่มีวิชาเจ้าภาพ  ก็ขาดคนรับผิดชอบที่จะมาพูดๆๆๆๆเรื่องนี้  ทั้งที่พูดให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปมั่งก็ยังดีกว่าไม่พูด
    • นึกถึงเพลงปลุกใจสมัยโน้น  พอไม่ได้ปลุกทุกเช้า  .....จิตสำนึกก็หายไป  ดิฉันยังจำเพลงนั้นได้  ที่ร้องว่า  วิญญาญปู่จะร้อง จุดจุดลูกหลานจุดจุดจุด  ที่จุดจุด คือละไว้ในฐานที่เข้าใจนะคะ
    • แล้วก็เพลงที่ว่า เราสู้ไม่ถอยจนก้าวเดียว  คือได้อารมณ์มาก  เพราะถ้าถอยอีกก้าวเดียวก็ตกทะเลพอดี  แต่แท้ๆแล้ว   เพลงแฝงนัยยะที่ลึกซึ้งมาก
    • คุณบางทรายเป็นต้นแบบที่ดีนะคะ   ดิฉันเข้ามาใน GotoKnow  เพราะต้องการสิ่งนี้เป็นสำคัญ   
    • ดิฉันต้องการปัญญา  ต้องการจิตวิญญาณ  ต้องการเห็นคนมีอุดมการณ์ วงเล็บ ของจริง 
    • ดิฉันต้องการเห็นต้นแบบที่ดี (คล้ายๆกับ ต้องการครู)    แบบที่จะทำให้เรามั่นใจได้  
    • เมื่อเห็นจริง  และมั่นใจแล้ว  เราจะได้ไปทำงานของเราต่ออย่างสบายใจ 
    • และดิฉันก็ได้เห็นจริงแล้วใน GotoKnow  คลังสมองของประเทศแห่งนี้     
    • ขอบคุณคุณบางทราย  และขอบคุณทุกคนนะคะ

    คิดถึงพี่แอมป์เช่นกันค่ะ

    วันนี้แวะมาบ้านพี่ไล่อ่านบันทึกเก่าๆ

    ชอบใจค่ะ : )

    อ่านแล้วนึกถึงข้อความที่ไปอ่านเจอมาเมื่อเร็วๆนี้เองค่ะ

    ได้ไอเดียไปเขียน blog อีกแล้ว ตามไปอ่านนะคะ : )

    สวัสดีด้วยความดีใจชะมัดเลยค่ะที่ อ.มัทแวะมาเยี่ยมบ้าน

    พี่แอมป์เลยได้โอกาสมาอ่านบันทึกนี้อีกครั้ง  แล้วนึกถึงบันทึกอื่น  แล้วก็นึกสนุกสนานอะไรไปอีกหลายเรื่อง  โดยเฉพาะเรื่อง "กฎทุกกฎ ย่อมมีข้อยกเว้น  ไม่เว้นแม้แต่กฎข้อนี้เอง"

    แปลว่า....สักวันหนึ่ง คำตอบที่ถูกในโลกนี้  อาจเหลือเพียงคำตอบเดียว.... 

    และจะจริงรึปล่าวก็ไม่รู้  เพราะ "I don't know".   : ) 

    ง่ายๆ  แต่จริงใจดีชะมัด จนต้องตามไปอ่านบันทึก อ.มัทอีกสองรอบ 

    ขอบคุณมากอีกที่ที่ อ.มัทแวะมา พร้อมกับของฝากน่ารักๆที่ "จริงจากใจ"  ของคุณหมอที่เข้าใจความจริงของชีวิต ท่านนั้นนะคะ : )

    มาเพราะคิดถึงค่ะ

    มาเพราะซึ้งกับคำตอบ

    มาเพราะชอบคำถาม

    มาเพราะความงาม

    มาเพราะอยากเอ่ย ...

    ....

    ชอบบันทึกนี้ของพี่จังค่ะ

    คำตอบที่ถูกในโลกนี้  ก็มิได้มีเพียงคำตอบเดียว......

    แต่หัวใจ ยังไง ก็มีเพียงดวงเดียวค่ะ :) คิดถึงบอกไม่ถูก

    • เผอิญชีวิตไม่ใช่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นี่เน๊อะ
    • อิอิ
    • คิดขึ้นมาได้ตอนอ่านบันทึกของอาจารย์นี่หล่ะค่ะ
    • ขอบคุณค่ะ
    • (^_^)

    หวัดดีด้วยความคิดถึงเช่นกันจ้าลูกปู 
     
    พี่แอมป์ฮงเลยที่ลูกปูแวะมาบันทึกที่เขียนไว้นานมากแล้วนี้  และปฏิเสธมิได้ว่าดีใจจนออกนอกหน้า  เพราะพี่ชอบประโยคที่ลูกปูยกมามาก    ตอนแรกพี่ก็รู้สึกว่าประโยคนี้ "อย่างเต้" แล้วเชียว   แต่เจอประโยคของลูกปูต่อท้าย  ยิ่ง "เต้"  หนักเข้าไปใหญ่  : )

                         คำตอบที่ถูกในโลกนี้  ก็มิได้มีเพียงคำตอบเดียว......

                            ...  แต่หัวใจ ยังไง ก็มีเพียงดวงเดียว ..


    ดีใจที่ลูกปูแวะมาบอกอย่างน่ารักว่า    "คิดถึงบอกไม่ถูก"  พี่เลยยิ้มชอบใจ เพราะคิดดีใจต่อไปอีกหน่อยว่า "แค่บอกถูก...ว่าคิดถึง" ก็ซึ้งมากแล้วอะค่ะ  : )   : )

    P   สวัสดีค่ะคุณแอ้ด  น่านฟ้าทะเลลม

     

    ไม่ได้พบกันนานเลยนะคะ  ไม่ได้เห็นบันทึกของคุณแอ้ดนานแล้วด้วย  คงจะติดด้วยภารกิจเหมือนกันนะคะ  

    ขอบพระคุณที่แวะมาทักทายในโอกาสตรุษจีนด้วยการ์ตูนอวยพรที่น่ารักสะดุดตามาก   ขอให้คุณแอ้ดมีสุขภาพแข็งแรงและความสุขมากๆเช่นกันค่ะ  : ) 

    สวัสดีค่ะครูปู  ~natadee t'ซู๊ด 
     

    • ดีใจและขอบคุณมากที่น้องปูแวะมานะคะ  คือพี่แอมป์ว่าเรามาข้ามขั้นตอนพิธีการกันเถอะ  : )
    • ดีใจที่บันทึกนี้ทำให้น้องปูนึกคิดอะไรไปสนุกสนานตามแบบฉบับของคนรื่นเริงและมีน้ำใจงาม  (เพราะมีอาหารเด็ดๆและขนมข้าวต้มมาฝากพี่ๆน้องๆอยู่เสมอ) 
    • วันก่อนพี่บังเอิญไปเห็น'เม้นต์ของน้องในบันทึกหนึ่ง   เห็นกับข้าวปุ๊บพี่ก็กระโดดไปทำข้าวไข่เจียวปั๊บเลยอ่า  แบบว่ากับข้าวที่อร่อยที่สุดในโลกนี้... พี่ทำเป็นอยู่อย่างเดียว คือไข่เจียวนี่แหละค่ะ  อิอิ

            ปล.ด้วยว่า G2K ของเรามีสาวสวยชื่อปูอยู่หลายคน  เพื่อป้องกันความสับสน(ของวัยคุณป้าอย่างพี่แอมป์) จึงขออนุญาตเรียกน้องปูข้างบนว่า "ลูกปู"  และเรียกครูปูว่า "น้องปู"นะคะ  : )  : ) 

    สวัสดีค่ะอาจารย์

    ถือเป็นเกียรติของน้องปูเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ เลยขออนุญาตนำมื้อเย็นมาฝากพี่แอมป์คนดี ในบัดดลนะคะ ^_^

    สวัสดีและยินดีทุกครั้งที่ได้พบกันค่ะครูคิม

    ขอบพระคุณมากค่ะที่นำลิงก์มาฝาก เป็นเรื่องจริงที่น่าประทับใจของการ"สร้าง"โรงเรียนให้เป็นครอบครัวที่น่ารักค่ะ 

    ขอให้ครูคิมมีความสุขในการทำงานมากๆทุกวันนะคะ : )

    P   ขอบคุณมากจ๊ะน้องปู : ) 

    อูย..  พี่แอมป์หิวข้าวอีกแล้วอะ  (เพิ่งกินไปหยกๆ)

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท