เวลาเดินผ่านใคร เคยมองจนเหลียวหลังแล้วสงสัยไหมคะ ว่า…
เอ … คนคนนี้
ผมก็สี Silver แบบคนสูงวัย
รอยเท้ากาบนหน้าก็ชัดจนมองเห็นได้
แต่ทำไม…
หุ่นเหมือนคนวัยทำงาน
แถมเดินเหินก็คล่องปานนั้น
แล้วนี่ …
เค้าอายุเท่าไหร่กันนะ ?
ถ้าเคยสงสัยแบบนี้ คงต้องคุยกันเรื่องของ “อายุ” กับคำว่า “สูงวัย” แล้วค่ะ เพราะอายุตามปฏิทินนั้นอาจไม่สามารถบอกอายุของตัวเราอย่างแท้จริงได้ เพราะรูปแบบของ Aging หรือ การมีอายุสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ลักษณะ นั่นก็คือ
1.Chronological Age อายุตามปฏิทิน หรือก็คืออายุที่นับจากวันที่เราเกิดมานถึงปัจจุบัน
2.Biological Age อายุร่างกาย ซึ่งอาจจะอ่อนกว่าหรือแก่กว่าอายุตามปฏิทินก็ได้ ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของเราเอง และอายุร่างกายนี้ อาจอ่อนกว่าอายุตามปฏิินได้ถึง 30 ปี
3.Psychological Age อายุในแง่จิตวิทยา โดยพิจารณาจากความสามารถในการรู้อารม์ตนเอง การเห็นคุณค่าและความสามารถของตนเอง โดยปกติผู้ที่มีอายุตามปฏิทินสูงจะมีอายุในรุปแบบนี้มากกว่าผู้อ่อนวัยกว่า
และอายุในรุ^แบบนี้มีความสำคัญต่อการเป็น Successful Aging เพราะอายุนี้เป็นส่วนสำคัญของการมีสุขภาพจิตดี
4.Social Age อายุทางสังคม ซึ่งมักเป็นความเห็นของคนในสังคมเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้คนในแต่ละวัย เช่น เด็กๆมักเล่นซน ผู้สูงวัยมักตัดสินใจช้า เคลื่อนไหวช้า ไม่คล่องแคล่ว หรือ วัยรุ่นมักใจร้อน อย่างนี้เป็นต้น
จากรูปแบบการมีอายุทั้ง 4 คงเห็นแล้วนะคะ ว่าอายุเยอะไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องดูแก่หรือเป็นคนแก่เสมอไป เพราะหากเราดูแลสุขภาพมาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้เราจะมีอายุจริงตามปฏิทิน 60 ปี เราก็สามารถดำเนินชีวิตเหมือนคนอายุ 30 ปีได้
อยากให้ดูการเป็นผู้สูงวัยอีกเรื่องหนึ่งค่ะ ผู้สูงวัยตามความหมายในแง่ Fitness นั้น ต่างจากที่เรารับรู้กันทั่วไป
เพราะองค์การสหประชาชาติได้ให้คำนิยามของคำ “ผู้สูงวัย” ว่าหมายถึงประชากรทั้งเพศหญิงและชายที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปนับจากวันที่เกิด
ประเทศไทย พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ.2546 กำหนดให้ผู้มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ และมีสัญชาติไทยเป็นผู้สูงอายุหรือที่เรียกกันว่า ผู้สูงวัย โดยแบ่งกลุ่มผู้สูงอายุเป็น 3 กลุ่มคือ
-ผู้สูงอายุวัยต้น (อายุ 60-69 ปี)
-ผู้สูงอายุวัยกลาง ( อายุ 70-79 ปี)
-ผู้สูงอายุวัยปลาย (อายุ 80 ปีขึ้นไป)
***แต่ในทาง Fitness ผู้มีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ก็จัดเป็นผู้สูงวัยแล้ว***
เนื่องจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ปัจจุบัน คนเราสามารถมีอายุอยู่ได้ถึง 100 ปี ถ้านับอายุแบบฟิต หากตอนนี้เราอายุ 55 ก็จัดว่าเป้นผู้สูงวัยแล้ว หากเราสุขภาพไม่ดี เราจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไรในอีก 45 ปีที่เหลือ
นี่คือคำถามที่อยากให้ลองถามตัวเองค่ะ และถ้าคุณไม่ชอบออกกำลังกายก็อยากชวนให้ถามต่อว่า คุ้มค่าไหม ที่เราจะลุกขึ้นมาดูแลร่างกายและจิตใจตั้งแต่วันนี้
เริ่มตั้งแต่ดูแลเรื่องอาหาร การหลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศ การไม่นั่งนาน การแทรกการออกกำลังกายเข้าไปในอิริยาบถ การออกกำลังกายจริงๆ การพักผ่อนให้เพียงพอ การดูแลใจให้ผ่องใส
อนาคตเราจะเป็นอย่างไร ก็อยู่ที่วันนี้ของตัวเรานะคะ
ต้องขออขอบพระคุณอาจารย์จันทวันมากๆค่ะ ที่สนับสนุนและช่วยเหลือ จนสามารถกลับมาเพิ่มบันทึกใน G2K นี้ได้ใหม่
หลังจากที่ห่างหายไปหลายปีเลยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ คุณแก้ว❤️