นายแพทย์อภิสิทธิ์ ธำรงวรางกูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ถามพวกเราผู้เข้าประชุมร้อยกว่าคนจากทั่วประเทศ ส่วนใหญ่เขตอีสาน
ในวันที่สองของการประชุม ๒๔ เมษายน ๒๕๕๗ ซึ่งเดินทางไปอำเภออุบลรัตน์
เพื่อศึกษาดูงาน พัฒนาแนวคิด พัฒนาศักยภาพบุคลากรชาวสาธารณสุข ในการทำงานทันตสาธารณสุขชุมชน
แดดร้อนเปรี้ยงไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้แต่อย่างใด
^_,^
*
ข้อ ง. มาแรง ทุกคนอยากได้ อยู่ที่ว่าจะยึดถือแนวคิดแบบใดในการปฏิบัติจริง
ข้อ ๒ เข้าทางนะเนี่ย ท่าทางดูงานวันนี้จะมีความสุขน่าดู
คุณหมอเล่าบริบทเดิมอำเภออุบลรัตน์ ตั้งแต่เกือบสามสิบปีที่แล้ว
ที่รัฐส่งเสริมภาคอุตสาหกรรม เกษตรเชิงเดี่ยว เช่น อ้อยป้อนโรงงาน
มีการเคลื่อนย้ายแรงงาน ผลกระทบต่อครอบครัว พ่อไปทางแม่ไปทาง โรคเอดส์ ครอบครัวล่มสลาย
ชาวบ้าน ทำงานหนัก รายได้ผันผวนตามตลาดโลก สุขภาพคนในชุมชนอ่อนแอ รับสารตกค้าง โรคเรื้อรัง
^_,^
**
ปี ๒๕๓๔ ทีมสุขภาพอำเภออุบลรัตน์ทำวิจัยในหมู่บ้าน พบว่าสามารถแบ่งคนไข้เป็น ๔ กลุ่ม
ภาระของระบบสุขภาพแบบโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล ราว ๑ ใน ๔ เท่านั้น
ข้อค้นพบที่น่าสังเกต คือ สาเหตุโรคภัยไข้เจ็บจากวิกฤติชีวิตในชุมชน เอาเงินเป็นตัวตั้ง
อยากรวย แต่ผล คือ รายจ่ายเพิ่ม ไม่มีเงินออม หนี้สินเพิ่ม ทุกข์ตามมา โรคภัยไข้เจ็บถามหา
^_,^
***
ทางออก
คิดไป ทำไป พัฒนาด้วยการวิจัยไปด้วย
คุณหมอและทีมงานโรงพยาบาลอุบลรัตน์ยังอยู่ในระบบราชการ
ส่วนคู่ชีวิต แพทย์หญิงทานทิพย์ ธำรงวรางกูร ตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ เป็นเลขาธิการ
ดำเนินการมูลนิธิพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนเพื่อคุณภาพชีวิตดีจังหวัดขอนแก่น
แล้วลาออกจากราชการในปี ๒๕๔๐ เพื่อให้มีแพทย์มาทดแทนที่โรงพยาบาลอุบลรัตน์
โดย พญ.ทานทิพย์ ยังทำหน้าที่แพทย์อาสาตรวจและรักษาในวันที่ขาดอัตรากำลัง
...
ผลงานร่วมกันออกแบบและพัฒนาระบบสุขภาพของชาวอำเภออุบลรัตน์
โดยคนอุบลรัตน์และพหุภาคี เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านอำเภออื่นของขอนแก่น และจังหวัดอื่นในอีสานอีก ๕ จังหวัด
จัดให้มีการรวมกลุ่มของปราชญ์ชาวบ้านสม่ำเสมอ
แสวงหาความรู้อย่างเป็นระบบ จนตกผลึก เช่น การทำเกษตรผสมผสานในแบบ “เกษตรประณีต ๑ ไร่”
ใช้หลักธรรมนำวิธีคิดในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะ “พอเพียง”
...
พบปะ สร้างเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ใจแลกใจ
แลกเปลี่ยน แบ่งปันความรู้ วิธีการ สิ่งของ พันธุไม้ และอื่นๆ ช่วยเหลือกันและกัน
สร้างพยาบาลชุมชน ให้ทุนเรียน เพื่อมาทำงานให้ชุมชนตัวเองและสลับมาทำงานที่โรงพยาบาล
มีเงื่อนไขการให้ทุน เช่น ต้องปลูกต้นไม้ให้ได้ตามจำนวนที่กำหนด เป็นต้น
เพื่อให้ชุมชนสามารถดูแลตัวเอง พึ่งตนเองโดยคนในชุมชนให้มากที่สุด
...
ผลการเปลี่ยนแปลง อัตราการมาใช้บริการที่โรงพยาบาลน้อยลง สูบบุหรี่ ติดเหล้าน้อยลง สุขภาพแข็งแรงขึ้น
หนี้สินน้อยลง จากหมู่บ้านยากจน ๗๐ หมู่บ้าน สัดส่วนหมู่บ้านที่พึ่งตนเองได้ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น (ปี ๒๕๕๐ จำนวน ๒๕ หมู่บ้าน)
^_,^
****
ถามตัวเอง
สำคัญ จึงไม่เร่ง ค่อย ๆ คิดไป
ราตรีสวัสดิ์ก่อนนะคะ
^_,^
*****
ชีวิตที่เหลือนี้จะขอยึดหลักปรัชญาพอเพียงของในหลวงครับ
ขอบคุณแนวคิดดีๆ เพื่อชีวีเป็นสุขเช่นนี้ค่ะ...
ชอบใจหัวข้อข้างบนมากครับคุณหมอ
ขอบคุณมากๆครับ
รวย และเป็นสุข ได้แต่ อย่าไป .อยาก. ........ในอีกมุมโม้ oops ในอีกมุมมองครับ 5555 // เยี่ยมมาก ให้ไปเลย 2 ซีก
ดีใจจังมีแนวร่วม เยี่ยมมาก ๆ ค่ะ คุณrojfitness
แนวคิดดีก่อน ชีวีจึงจะเป็นสุขนะคะ ขอบพระคุณคุณป้าใหญ่ นงนาท สนธิสุวรรณ มากค่ะ
สรุปคมมากค่ะ คุณสามสัก(samsuk)
ดังนั้น เราจึงเป็นคน "รวย" แบบพอเพียงกันอย่างมีความสุขนะคะ อ.กามนิตหนุ่มขจิต ฝอยทอง
พอแล้วก่อน จึงไม่อยาก (ส่วนใหญ่) ส่วนน้อยยังแพลม ๆ "อยาก" บ้าง ยังต้องพยายามทำใจ เป็นครั้งคราวค่ะ
ว่าแต่ .๙๙ จะให้อะไร ๒ ซีก ถั่วต้มเหรอ ๕ ๕ ๕ ๕
...ประมาณตน ประมาณใจ รู้จักตนเอง สบายๆ นะคะ
อาจารย์ดร. พจนา แย้มนัยนา สรุปได้โดนใจมาก ขอบคุณมากนะคะ
Wow !!!! พี่อุ้มช่างเก็บภาพนะคะ ขอบคุณค่ะ
-สวัสดีครับพี่หมอ
-ตามมาให้กำลังใจครับ
-ชอบภาพนี้..ของฝากเยอะมาก ๆ ฮ่า ๆ
พอดีช่วงนั้นกล้องเสียค่ะ ขอบคุณที่พี่อุ้มนำภาพคุณหมออภิสิทธิ์มาฝากค่ะคุณเพชรฯ
ไม่ได้เห็นคุณหมออภิสิทธิ์นานมาก
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆครับ
ยินดีค่ะ อ.ขจิต
ขอบคุณค่ะ และขอบคุณที่แวะมาส่งข้าวแช่ หอม ๆ อร่อย ๆ นะคะพี่เปิ้น
คำถามนี้คงไม่สามารถตอบแทนกันได้
แต่สำหรับตัวเองแล้ว
แม้ว่าจะไม่รวยทรัพย์ไม่มีสมบัติอะไรมากมายนัก
แต่ที่มีอยู่ทุกวันนี้ก็น่าจะพอแล้ว
เพราะมีมากกว่าตอนที่เกิดมาตั้งมากมาย
สุดยอดคุณลุงทีเดียวเชียวค่ะ ตอนเราเกิดมาเราก็ไม่ได้หอบอะไรมาด้วยแม้แต่น้อยนะคะคุณลุง ^_,^