เราอยู่กันที่นี่...บ้านหลังเดียวกัน11 : ทอฟฟี่ไม่ใช่หมาตัวเมีย


  

                                                      ภาพแอบถ่ายระหว่างหลับของทอฟฟี่กับคุณแม่บ้าน.......

   หน้าฝนของปีที่แล้ว...

   พ่อพาผมไปตัดขนที่คลีนิครักษาสัตว์แถวบางบ่อบ้านเก่าของพ่อ ซึ่งไม่เคยเข้ารับบริการเลย

   หลังส่งผมไปอาบน้ำ ตัดขน ระหว่างที่นั่งรอ พ่อได้เห็นอะไรหลายอย่างในคลีนิค วันนั้น...

........

   มีคนนำเจ้าเหมียวมาให้หมอทำหมัน ด้วยเหตุที่มันออกจากบ้านไปไม่ยอมกลับ มันเป็นเหตุผลที่ถูกหรือผิด ก็ไม่ใช่ความผิดของเจ้าเหมี่ยว ที่นอนเหยียดยาวหลังโดนยาสลบ เพื่อทำการผ่าตัดทำหมัน

   พ่อเล่าให้แม่ฟังภายหลังว่าน่าสงสารเจ้าเหมียว ที่นอนอยู่อย่างไม่รู้ตัวว่าโดนทำอะไรกับตัวเอง

   แต่พ่อครับ...ไม่สงสารผมบ้างเหรอ ที่ส่งผมให้ใครก็ไม่รู้ พูดจาไม่เข้าใจภาษา อยู่หลังร้าน...

........

   หลังจากนั้นพ่อก็ได้เห็นคนพาหมามารักษาอีก คราวนี้เป็นหมาแก่แล้ว เจ้าของอุ้มลงจากรถด้วยท่าทางลำบากเพราะตัวใหญ่มาก ชายคนที่อุ้มเนื้อตัวเปียกปอนเพราะฝนตกหนักมาก แม้จะเพียงแค่อุ้มข้ามถนนมาถึงคลีนิค ตัวก็เปียกทั้งหมาทั้งคน มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งเดินตามมาติดๆ

   พออุ้มเข้ามาในคลีนิค ที่ดูคับแคบนั้น กลิ่นเหม็นของหมาป่วยตัวนั้นก็เตะจมูก ทั้งกลิ่น ทั้งความสกปรกของหมาแก่ตัวนั้น ทั้งน้ำฝนที่หยดย้อยลงรดพื้นทำให้จนแม่ต้องขอตัวออกไปรอข้างนอก

   พ่อครับ... แม่จะรังเกียจผมไหม หากวันหนึ่งผมไม่สบายและแก่ตัวขึ้นมาอย่างหมาแก่ตัวนั้น...

..........

   พ่อเล่าให้พี่ปอฟังในวันหนึ่งว่า เฉาก๊วย คือชื่อหมาตัวนั้น คงตั้งตามขนสีดำ ส่วนเด็กผู้หญิงคนที่ตามชายคนนั้นมานั้นเป็นลูกสาวเขา เฉาก๊วย อายุ 15 ปี ดูแล้วน่าจะอายุไล่เลี่ยกันกับเด็กผู้หญิงคนนั้น และหากเป็นเช่นนั้น ทั้งสองคงจะถูกเลี่ยงมาพร้อมๆกัน

   ทั้งคนเป็นพ่อและลูกสาว ต่างอุ้มเฉาก๊วยด้วยสายตาที่ห่วงใยและดูกังวล

   พ่อครับ...พ่อกับพี่ปอจะเป็นห่วงผมอย่างนั้นไหม ขณะที่ผมกำลังโดนตัดขน อาบน้ำอยู่โดดเดี่ยว หลังร้านนั้น...

...........

   พ่อเล่าให้แม่ฟังอีกว่า  หลังเฉาก๊วยได้รับการรักษาเสร็จสิ้นและถูกอุ้มกลับไป เจ้าเหมียวยังนอนสลบอยู่ และฝนก็ได้หยุดตกหนักเหลือเพียงโปรยปรอยเป็นฝอยๆเท่านั้น แต่ตัวผมเองก็ยังตัดขนอาบน้ำไม่เสร็จอีก

   หลังจากนั้นสักพัก ผมก็ถูกอุ้มตัวออกมา พ่อบอกว่าพ่อขำเกือบตกเก้าอี้ เพราะว่า ภาพที่เห็นทอฟฟี่ตอนนั้น ถูกคนงานพม่าผูกโบว์สีแดงเหนือหูทั้ง 2 ข้าง ด้วยเข้าใจว่าผมเป็นหมาตัวเมีย

      พ่อครับ...มันไม่ใช่เรื่องตลกนะครับ ที่พ่อปล่อยให้ผมอยู่กับคนที่พูดภาษาแปลกๆ ตามลำพังตั้งนมนาน และออกมาด้วยสภาพเป็นหมาตลกในสายตาพ่อ

   แต่ผมก็ต้องขอขอบคุณพ่อที่รีบเอาโบว์ที่ดูทุเรศๆนั้นออกให้ผม หลังถึงบ้าน แม้พ่อจะยังพูดอยู่อีกว่าเสียดายไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้

   พ่อครับ...มันไม่ใช่เรื่องตลกนะครับ

   ........................

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านบันทึกนี้

08 มกราคม 2557

พ.แจ่มจำรัส 

หมายเลขบันทึก: 561236เขียนเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2014 15:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2014 15:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ขอบคุณบันทึกนี้ ที่เขียนได้น่าอ่าน นะคะ

สงสัยจัง หากเจ้าทอฟฟี่เขียนเองได้ จะเขียนแบบนี้ไหมหนอ :)

เขียนหลาย ๆ ตอนแล้วรวมเล่มได้เลยจ้าาาา

หลายคนก็คิดอย่างพี่หนูรี นี่ล่ะครับ 555

ถ้าทอฟฟี่เขียนได้ อาจจะเขียนดีกว่านี้หลายเท่าก็ได้นะครับ

หนูรีเขียนเมื่อ ประมาณ 6 ชั่วโมงที่แล้ว

ขอบคุณครับครูคุณมะเดื่อ

มีสำนักพิมพ์ไหนสนใจบ้างครับ 555

"โมชิ" สุนัขเพศผู้ของลูกสาว (ภาพหลังหม่ามี้ของเขาอาบน้ำให้ใหม่ๆ ตอนหนีภัยน้ำท่วม กทม.ไปอยู่ที่บ้านยายไอดินฯ ที่อุบลฯ) ใครๆ ก็บอกว่า "สวยจังเลย" ไม่มีใครบอกว่า "หล่อจัง"

ขอบคุณครับท่านอาจารย์

ไอดิน-กลิ่นไม้

ทอฟฟี่เองก็มักจะถูกทักบ่อยๆว่าเป็นตัวเมียครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท