ยุทธศาสตร์การจัดการความรู้ในองค์การผ่านเว็บบล็อก


                                        ยุทธศาสตร์การจัดการความรู้ในองค์การผ่านเว็บบล็อก

                               * ดร.ดิศกุล เกษมสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดสมุทรสาคร ​   

                                          _________________________

 

                  องค์การไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชนก็ตามหากจะพัฒนาเพื่อความอยู่รอด อย่างยิ่งจะต้องปรับตัวสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ โดยใช้การจัดการความรู้ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนองค์การไปสู่องค์การแห่งการเรียนรู้ ซึ่งปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือ คนในองค์การ หากสามารถพัฒนาคนและจัดบรรยากาศการเรียนรู้ในองค์การให้เอื้อต่อการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาบุคคลให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ นำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาองค์การให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ก็คือ ความสำเร็จอย่างยิ่งยวดในการบริหารองค์การ ​​​ในกรณีที่สำนักงาน กศน. ผู้เขียนในบทบาทของผู้บริหาร ได้เห็นความสำคัญของการเตรียมองค์การสู่องค์การแห่งการเรียนรู้ โดยใช้การจัดการความรู้เป็นฐานโดยดำเนินการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานและเตรียมความพร้อมบุคลากร ผสมผสานกับการจูงใจให้ใช้ช่องทางเว็บบล็อก เป็นเครื่องมือในการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อย่างรวดเร็ว ฉับไว สื่อสารกันได้ตลอดเวลา มีคุณค่าในการให้เรียนรู้ร่วมกัน (Learn) การแสดงความห่วงใยเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน (Care) มีการแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน(Share) และมีการแสวงความชื่นชมยินดีให้กำลังใจ ซึ่งกันและกัน (Shine) โดยผู้เขียนบันทึกลงบล็อกเกือบทุกวันโดยมีสาระที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหาร การพัฒนาวิชาการการสร้างความตระหนัก และสร้างพลังร่วมในการทำงานโดยสื่อสารโดยตรงจากผู้บริหารสู่ทีมงานในทุกระดับสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้บริหารได้อย่างเป็นกันเองไร้ขอบเขตจำกัด และเพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นจะนำเสนอ ตามยุทธศาสตร์ที่ใช้ในการจัดการความรู้ผ่านเว็บบล็อก 4 ยุทธศาสตร์ คือ ​1. เตรียมโครงสร้างพื้นฐานไอซีที ​2. มีนโยบายห้อง KM (Knowledge Management) ​3. เติมเต็มศักยภาพบุคคล ​4. ใช้ชุมชนเว็บบล็อกออกแบบแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ​1. เตรียมโครงสร้างพื้นฐานไอซีที ​​​ การบันทึกเว็บบล็อก ใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในหน่วยงาน/สถานศึกษาและนอกหน่วยงาน/สถานศึกษา โดยเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการความรู้ซึ่ง ได้ดำเนินการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้มีความพร้อมในการรองรับการจัดการความรู้ผ่านการบันทึกเว็บบล็อก ​2. มีนโยบายห้อง KM​ ​​​ ผู้เขียนได้ประกาศจัดตั้งห้อง KM โดยมีวัตถุประสงค์การใช้ห้อง KM ดังนี้ ​​2.1. ประชุมเพื่อเพาะบ่มปัญญา ​​2.2. เสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ​​2.3. ดู Best Practice ให้รู้เขารู้เรา ​​2.4. ขัดเกลาความคิด มองพิศอย่างผู้รู้ ​​2.5. ฝึกคนสู่ Knowledge Worker ​​2.6. นำเสนอผลงานที่ผ่านมา ​​2.7. นำองค์การก้าวหน้าสู่ Learning Organization ​​​2.1. ประชุมเพื่อเพาะบ่มปัญญา ​ จากหลักธรรมในการทำงานที่จัดประชุมกันเป็นเนื่องนิตย์ พร้อมเพรียงกันมาประชุม ให้เกียรติเคารพซึ่งกันและกัน และยึดมั่นในกติกา นั้นการประชุมในห้อง KM ถือเป็นกติกาว่าให้พูดกันในเรื่องสร้างสรรค์ให้เกิดปัญญาในการทำงาน ​​​2.2. เสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ​ มีการใช้ห้องKM ในการเสวนาเรื่องต่างๆเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ​​​2.3. ดู Best Practice ให้รู้เขารู้เรา ​ ในส่วนนี้ได้มีการรวบรวมตัวอย่างการจัดกิจกรรม กศน. ที่ประสบความสำเร็จเป็นตัวอย่างที่ดีจากที่ต่างๆ มาจัดแสดงเปรียบเทียบ และดำเนินการเทียบเคียง (Benchmarking) ตัวอย่างเช่น เพื่อหาแนวทางจะพัฒนาห้องสมุดประชาชนจังหวัด ให้เป็นห้องสมุดระดับแนวหน้า สำนักงาน กศน. จังหวัดได้ไปศึกษาดูงานจากห้องสมุดประชาชนระดับแนวหน้าหลายจังหวัด นำมาเป็นข้อมูลเปรียบเทียบกันและกำหนดเป็นแนวทางพัฒนาห้องสมุดประชาชนในจังหวัด ให้มาเป็นอันดับแนวหน้าจนมีผู้สนใจมาศึกษาดูงานมากมาย ​​​2.4. ขัดเกลาความคิด มองพิศอย่างผู้รู้ ​ เป็นผลจากการที่บุคคลได้รับการฝึกให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้อยู่จนเป็นปกติวิสัย ทำให้มีความคิด และมุมมองต่อข้อเท็จจริงต่างๆอย่างผู้รู้ ​​​2.5. ฝึกคนสู่ Knowledge Worker ​ การจัดการความรู้นั้นจุดมุ่งหมายสำคัญให้คนเป็นคนทำงานใช้ความรู้ ซึ่งต้องสั่งสมความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่านำมาใช้ในการทำงาน มิใช่ทำตามที่เคยทำโดยไม่มีการพัฒนา 2.6. นำเสนอผลงานที่ผ่านมา ​ ห้อง KM นี้จะมีการแสดงผลงานที่ผ่านมาของ สำนักงาน กศน. จังหวัด และศูนย์ กศน.อำเภอ ในจังหวัด ในรูปเอกสารและสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เพื่อให้สามารถเรียนรู้การทำงานในอดีตสู่ปัจจุบันสร้างสรรค์สู่อนาคต ​​​2.7. นำองค์การก้าวหน้าสู่ Learning Organization ​ องค์การแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) เป็นองค์การที่ประกอบด้วยบุคคลแห่งการเรียนรู้อยู่ภายใต้ระบบการบริหารจัดการที่เอื้อต่อการเรียนรู้ สามารถพัฒนาและปรับตัวให้สามารถสร้างผลิตภาพได้ในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง ​​3. เติมเต็มศักยภาพบุคคล ​​​ การเติมเต็มศักยภาพบุคลากรเพื่อรองรับการใช้เว็บบล็อกนั้นผู้เขียนได้จัดทำคู่มือการใช้เว็บบล็อก Gotoknow และจัดการอบรมให้แก่บุคลากรใน สำนักงาน กศน. จังหวัด และศูนย์ กศน.อำเภอ โดยจัดทำคู่มือการใช้งานประกอบสามารถศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองตามคู่มือได้ และผู้ผ่านการอบรมสามารถเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำแก่ผู้สนใจในแต่ละสถานศึกษาได้เป็นอย่างดี ​ ​ นอกจากนี้ในการเติมเต็มศักยภาพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารการจัดการอบรมในหลายๆหลักสูตรและได้เสริมความเข้มแข็งของ สำนักงาน กศน. จังหวัด และศูนย์ กศน.อำเภอทุกแห่งในจังหวัด ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโดยแต่งตั้ง CIO (Chief Information officer) ของสถานศึกษาต่างๆ และจัดการฝึกอบรมจนมีสมรรถนะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อเป็นบุคคลหลักของสถานศึกษาแต่ละแห่งในการถ่ายทอดความรู้ในองค์การอย่างมีประสิทธิภาพ 4. ใช้ชุมชนเว็บบล็อกออกแบบแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ​ ในการใช้ชุมชนเว็บบล็อกออกแบบแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายใต้เว็บบล็อก “กศน. เพื่อนเรียนรู้ โดย ดร.ดิศกุล “ ผ่านทางบล็อก Gotoknow เข้าถึงได้ที่ เป็นช่องทางที่สมาชิกหรือทีมงานแต่ละคนสามารถเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์ สามารถใช้ร่วมกันกับ Social Media อื่นๆ อาทิ Facebook และ Line เป็นต้น ด้วยยุทธศาสตร์และการปฏิบัติการจัดการความรู้ในองค์การผ่านเว็บบล็อกนี้ ผู้เขียนได้เพาะบ่มประสบการณ์อย่างต่อเนื่องมากว่าแปดปี คุณค่าของความรู้เพื่อการพัฒนางานนี้ได้สั่งสมไว้ในเว็บบล็อกหลายพันเรื่องทั้งที่ผู้เขียนบันทึกเองและสมาชิกหรือทีมงานบันทึกแล้วมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน นั่นคือเรากำลังก้าวสู่องค์การแห่งการเรียนรู้ เพื่อไปช่วยกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้คู่สังคมไทยกันต่อไป.....

 

 

คำสำคัญ (Tags): #km
หมายเลขบันทึก: 555016เขียนเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2013 12:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2013 14:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ขอบคุณองค์ความรู้ดีๆ ะนคะ

คงใช้ tango กับskypt ได้อีกครับ

เยี่ยมเลยครับ ผอ.

ตัวอักษรมันติดกันและตัวเล็กมากครับ

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท