สุขคือวิถีชีวิต วิถีชีวิตคือสุข


ในช่วงอายุยี่สิบปลายๆ ดิฉันไม่เคยฝันถึงชีวิตที่ราบเรียบ ตรงข้าม กลับคิดว่ามีความสุขกับการทำงานที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น การพบปะผู้คน การท้าทายความสามารถ มีความสุขกับการได้ชื่นชมถ้วยรางวัลจากการแข่งขันในหมู่พนักงานของบริษัท ทั้งๆที่ต้องแลกมาด้วยการเป็นอยู่อย่างหวาดระแวงเพื่อนร่วมงานอันเป็นคู่แข่ง ปั้นยิ้มบนใบหน้า สรรหาเครื่องตกแต่งร่างกาย

ในช่วงเวลานั้น สิ่งหนึ่งที่ทำให้ดิฉันรู้สึกเป็นสุขอย่างแท้จริง คือเวลาที่พนักงานที่ดิฉันฝึกหัดขึ้นมาประสบความสำเร็จ ก้าวออกไปจากหน่วยของดิฉันอันเป็นหน่วยพื้นฐานไปสู่หน่วยอื่นที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น รายได้มากขึ้น สุขที่ในความสำเร็จของเขานั้น มีดิฉันเกี่ยวข้องอยู่ด้วย

มาถึงตอนนี้ เมื่อมองย้อนกลับไป สิ่งที่ทำให้ดิฉันรู้สึกว่ามีความสุขอย่างแท้จริง แท้ที่จริง ก็คือฉันทะที่ถูกตัณหามารับช่วงต่อ นั่นคือ เริ่มจากอยากฝึกพนักงานให้สามารถผ่านการประเมินผล มีอาชีพเลี้ยงตัวได้ แต่ต่อมา กลับกลายเป็นว่า เมื่อเขาทำได้ ดิฉันก็จะพลอยได้ประโยชน์จากการกระทำของเขาด้วย ซึ่งก็คือสรรเสริญ คือถ้วยรางวัลจากการแข่งขันของกลุ่มผู้จัดการหน่วย คือโบนัสปลายปี

สุขจากการทำที่เริ่มต้นจากผู้อื่น จึงกลายเป็นทำเพื่อตนเองไป

สาเหตุที่มองเหตุการณ์ในครั้งก่อนได้อย่างนี้ เพราะเทียบจากตำตรัสของพระสังฆราชที่ว่า ในขณะที่ฝึกสมาธิเมื่อเกิดปีติ สุข ขึ้นแล้ว ให้คอยระวังอย่าให้อะไรมาปรุงแต่งจิตในขณะนั้น กับข้อเขียนของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ที่ว่า ฉันทะมักถูกตัณหาแอบมารับช่วงต่อเสมอ ทำให้กุศลกรรมมักแปลเป็นอกุศลกรรม

แต่ปัจจุบัน ความราบเรียบ กลับทำให้ดิฉันมีความสุขมากกว่า เพราะเรียบจึงเสมอ เพราะเสมอ จึงไม่วุ่น เพราะไม่วุ่น จึงมีสมาธิอยู่กับการที่อยากทำ มีความสุขกับการทำงาน

กิจกรรมเรียบๆเหล่านี้ จึงที่ทำให้ชีวิตในแต่ละวันผ่านไปอย่างมีความสุขเป็นอย่างมากค่ะ

๑ การฝึกสมาธิ

๒ ทำอาหารใส่บาตร

๓ เดินออกกำลังกายในตอนเช้าในสวนสาธารณะกับสามี ขณะที่เดิน ก็มีการสากัจฉา (สนทนา ไต่ถามธรรมต่างๆ) กันไปด้วย เป็นการได้บริหารทั้งหัวใจ และ สมอง

๔ การศึกษาภาษาบาลี

๕ นอนกลางวัน

๖ อ่านหนังสือธรรมอื่นๆ

๗ ออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อที่ฟิตเนสในตอนค่ำ เพื่อนอกจากจะเป็นการบริหารกล้ามเนื้อแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน เพราะเมื่อร่างกายออกกำลังโดยใช้แรงต้าน ก็ต้องพัฒนากระดูกให้แข็งแรงตามสำหรับที่จะรับแรงต้าน

เพราะมีความสุข จึงทำให้พอใจในชีวิต ชีวิตที่ราบเรียบ แต่กลับเอื้อให้เกิดปีติ สุข เป็นอย่างมาก ความสุขและวิถีชีวิต จึงดูกับจะเป็นเหตุปัจจัยซึ่งกันและกัน

ขอบพระคุณ พระกรุณาคุณของพระพุทธองค์

ที่ทำให้ได้พบความสุขในชีวิต

หมายเลขบันทึก: 539776เขียนเมื่อ 19 มิถุนายน 2013 04:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 กันยายน 2013 21:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สุขในตัวตน เมื่อค้นพบสุขสร้างได้

ขอให้วันพุธสุขสันต์นะคะ

อยากปฏิบัติเช่นนี้เหมือนกันค่ะพี่ณัฐรดา ขอบคุณนะคะ

เข้ามาอ่านธรรมะ ของเช้าวันทำงาน

ขอบคุณครับ...


 

"สังฆราช" คำนี้น่าจะถูกต้องกว่านะครับ  ยินดีกับความสุขที่ได้รับนะครับ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

ขอบคุณ คุณ พี่หนาน ด้วยค่ะ ที่ช่วยเตือน (ตรวจทานไม่ทั่วถึง แก้ไขแล้วค่ะ)

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท