ทำงาน Part time เพื่อการเรียนรู้


จะได้รับรู้ว่าพวกเราทำงานหนักแค่ไหน จะได้เรียนรู้ว่าการทำงานในระบบของโรงงาน คลังสินค้าเป็นอย่างไร แตกต่างจากงานตามห้างฯ แตกต่างจากการเรียนหนังสือ ต้องปรับตัวกับเพื่อนร่วมงาน ต้องพูดคุยประสานงาน สอบถามเพื่อว่าจะสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

    น้องปอ ลูกสาวของผู้เขียนและเพื่อนชื่อ น้องเกด ได้มาสมัครทำงานที่บริษัทด้วย หลังจากไปเดินสมัครร้านอาหารดังๆตามห้างใหญ่ๆ ที่พวกเขาคุ้นชินกับการเดินเที่ยวคราวเป็นนักเรียน

    น้องเกดไปฝึกงานไม่ถึงสองสัปดาห์ก็ทำถ้วยชามแตกไปหลายใบ อาหารแพ็คใส่กล่องเสียหายจนต้องทำให้ลูกค้าใหม่ ผู้เขียนจึงถามว่าสนใจงานโรงงานไหม ถ้าสนใจก็จะฝากสมัครให้

   น้องปอ บอกว่าลุงคนที่สัมภาษณ์เข้างานเย้าเล่นว่า "ถ้าเกเรงานจะฟ้องพ่อนะ..." ซึ่งผู้เขียนได้บอกเพื่อนไปว่าให้ปฏิบัติเสมือนพนักงานทั่วไปเลย เพื่อจะได้รับรู้ว่าพวกเราทำงานหนักแค่ไหน จะได้เรียนรู้ว่าการทำงานในระบบของโรงงาน คลังสินค้าเป็นอย่างไร แตกต่างจากงานตามห้างฯ แตกต่างจากการเรียนหนังสือ ต้องปรับตัวกับเพื่อนร่วมงาน ต้องพูดคุยประสานงาน สอบถามเพื่อว่าจะสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ อย่างไร

    การฝึกงานของน้องปอ และเพื่อนจะสิ้นสุดลงเมื่อ มหาวิทยาลัยเปิดซึ่งน่าจะประมาณปลายเดือนมิถุนายนเพราะวันมอบตัวคือวันที่ 4 มิถุนายน 2556  น้องปอ ติดคณะเกษตรศาสตร์ สาขาวิชาสัตวศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์กำแพงแสน ส่วนน้องเกด ติดคณะมนุษย์ศาสตร์ ดนตรีไทย เกษตรศาสตร์บางเขน

   12 มีนาคม 2556 คือวันแรกของการทำงาน น้องปอสบายหน่อยนั่งรถมากลับผู้เขียน ส่วนเพื่อนนั่งรถรับส่งพนักงานซึ่งการมารอตรงจุดรับส่งต้องตรงเวลา ไม่งั้นอาจทำให้มาไม่ทันเวลาทำงานได้

   วันจันทร์-ศุกร์ น้องปอทำงานเต็มเวลาและทำ OT วันละ 2 ชั่วโมง รวม 10 ชั่วโมงทำงาน

   วันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้เขียนต้องหยุดพักฟื้นจากการฉีดยาเป็นประจำ จึงให้น้องปอนั่งรถรับส่งพนักงานไปเอง โดยผู้เขียนไปส่งตรงจุดที่เขากำหนดให้รอ พอถึงก็เห็นพนักงาน(ใส่ชุดฟอร์มทำงานเหมือนกัน)ยืนรออยู่ ผู้เขียนบอกนั่นไงพวกเขายืนรอกันอยู่

   พอเจ็ดโมงครึ่งน้องปอโทรมาบอกด้วยน้ำเสียงงอนๆว่า รถไปส่งอีกโรงงานหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกันแต่ต่างแผนกกัน ทำให้ผู้เขียนรู้สึกผิดที่ลืมบอกไปว่าบริษัทมีคลังสินค้าอื่นๆอีกซึ่งอยู่ห่างจากกันสองซอย จึงบอกให้เดินออกมาแล้วนั่งมอเตอร์ไซค์วินเข้าไปคลังที่ทำงาน

   สักพักใหญ่ผู้เขียนโทรไปถามอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง น้องปอตอบกลับมาด้วยอารมณ์เสียนิดๆ ว่า... "มอเตอร์ไซค์วินอะไรของพ่อน่ะไม่มีหรอก จึงขึ้นรถเมล์ โดนกระเป่ารถเมล์บ่นอีกเพราะให้แบงค์ร้อย พอดีถึงปากซอยเจอพี่ที่ทำอยู้ด้วยกันชวนซ้อนมอเตอร์ไซค์มาด้วย" ซึ่งผมฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มๆ

   อย่างน้อยน้องปอก็เอาตัวรอดในการไปทำงานเองในวันแรกแม้จะนั่งรถผิดและตะกุกตะกักอยู่บ้าง

   ตกเย็นระหว่างที่ผู้เขียนกับภรรยาไปซื้อกับข้าวเย็นรอน้องปอกลับจากทำงาน ห้าโมงเกือบครึ่งก็โทรมาด้วยน้ำเสียงอารมณ์ไม่ค่อยดีว่า

  "อยู่ไหนกัน หนูไม่ได้เอากุญแจบ้านมา"

   "อ้อ..กำลังจะกลับลูกรอแป็บนะ"

  พอถึงบ้าน ผู้เขียนเห็นน้องปอนั่งหน้างออยู่หน้าบ้าน "นี่พ่อรู้ไหมรถรับส่งพ่อน่ะ คนขับไม่สุภาพเลย มีคนแค่สามคนก็จะออกแล้ว ดีนะที่ รปภ. เขาห้ามไว้รอคนอื่น"

   "สงสัยรถคงเยอะมั้งลูก วันเสาร์มีเฉพาะพนักงานรายวันเท่านั้นนี่เลยไม่ต้องรอให้เต็ม"

   "ไม่หรอกพ่อ ตอนเหลือหนูอยู่กับน้าอีกคน คนขับไม่รู้จะมองหนูทำไม มองอยู่นั่นแล่ะ"

    "อืม..เขาคงมองว่าหนูจะลงป้ายไหนมั้งลูก เขาไม่เคยเห็นหนูนี่"

   "แต่หนูไม่ชอบ ฟ้องพ่อเลยให้ไปบอกรถคันนี้ด้วย ไม่น่าไว้วางใจเลย"

   "โอเค เดี๋ยวพ่อจะไปบอกเจ้าของเขาให้"

    "วันหลังขึ้นคันที่คนเยอะๆสิลูกจะได้มีเพื่อน"

    ผุู้เขียนเห็นว่าน้องปอพูดก็จริงหากคนขับทำตัวไม่น่าไว้วางใจ ก็ควรจะร้องเรียนได้ แต่ตั้งแต่มีรถรับส่งพนักงานมาไม่เคยมีการร้องเรียนกรณีแบบ ส่วนมากจะร้องเรียนว่าคนขับขับรถเร็ว ไม่จอดให้ลงตรงจุด หรือรถเสียระหว่างทาง ต้องนั่งรถเมล์นั่งแท็กซี่ต่อ ประมาณนี้

    สัปดาห์แรกผ่านไปด้วยการคาดหวังว่า น้องปอและเพื่อนจะได้เรียนรู้อะไรๆหลายอย่าง แม้กระทั่งการไปทัศนศึกษาของชมรมดนตรีไทย ร.ร. ราชวินิต บางแก้ว ก็บอกให้เขียนใบลายื่นต่อหัวหน้าเช่นกัน

    ผู้เขียนหวังว่าการฝึกงานหรือทำงานครั้งนี้จะทำให้ได้เรียนรู้การทำงานตั้งแต่การรับผิดชอบตื่นแต่เช้า ไปทำงานให้ทันเวลา การร่วมมือกับเพื่อนร่วมงาน การแข่งขันกับเวลา การเบรคพัก การลางาน และอื่นๆอีกมากมายที่ชีวิตจะต้องฟันฝ่าต่อไปในอนาคต

   อย่างน้อยผู้เขียนก็ยิ้มอยู่ในใจลึกๆว่า น้องปอคงเอาตัวรอดได้ แม้ในวันที่เราไม่ได้อยู่กับน้องเขาอีกต่อไปในอนาคต......

..........................

 

  

   น้องปอกับแม่เมื่อหลายปีก่อน

  

หมายเลขบันทึก: 530773เขียนเมื่อ 20 มีนาคม 2013 14:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มีนาคม 2013 14:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

เป็นกำลังใจให้น้องปอด้วยคนค่ะ

เชียร์เด็กๆที่รักการเรียนรู้ สั่งสมประสบการณ์ขณะเรียน

หลานสาว ก็เข้ากรุงไปอีกวันก่อนนี้เองค่ะ

เก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านอาหารตามฝัน

น้องปอ จะได้เรียนภาษากับอ.ขจิตหรือเปล่าคะเนี่ย?

เป็นประสบการณ์ที่ดีควรนำมาเขียนเล่าสู่กันฟังให้ลูกได้รับรุ้และเอาตัวรอดในสังคมปัจจุบัน

ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะบันทึกนี้ได้รับรางวัล 

ช่วงวันแรกๆการฝึกงานก็มีปัญหาทำให้หงุดหงิด ฯ น้องปอจะเก่งขึ้นในหลายๆเรื่อง เป็นการฝึกความพร้อมเมื่ออยู่นอกบ้านทำอะไรด้วยตัวเองไปด้วยในขณะที่พักอยู่ที่บ้านมีปัญหายังมีคุณพ่อคุณแม่ให้คุย งอนให้เห็น ก่อนไปอยู่ ที่นครปฐม สถานที่ใหม่ เพื่อนใหม่ อาจารย์ใหม่ ฯ ได้อย่างดีด้วยนะคะ ให้กำลังใจน้องปอมากๆค่ะ

ท่าน พ.แจ่มจำรัส คะ  ยินดีด้วยค่ะ   

รบกวนช่วยแจ้งเลขที่บัญชีให้ทีมงานด้วยนะคะ http://www.gotoknow.org/posts/533200 ส่งมาที่  support (@) gotoknow.org นะคะ

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท