ธรรมหรรษา
รศ.ดร. พระมหา หรรษา นิธิบุณยากร

ความตายไม่ใช่ "จุดจบ" หากแต่เป็น "จุดเริ่มต้น" ของชีวิต!!!!


ณ วินาทีนี้ แม้ว่าร่างกายของพระพุทธเจ้า และสตีฟ จ๊อบจะกลับคืนสู่สามัญเป็นดิน น้ำ ลม และไฟ ถึงกระนั้น ความตายได้ทำให้สรุปแล้ว ความตายได้กลายเป็นพลังทยานแห่งชีวิต ที่ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะได้ใช้เป็นหนึ่งในเครื่องมือค้นพบความเป็น "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" และทำให้สตีฟ จ๊อบได้ค้นพบสินค้านาม "Apple" จะเห็นว่า "ความตายไม่ใช่จุดจบ แต่คือจุดที่นำไปสู่การค้นพบที่ยิ่งใหญ่" ส่วนการที่เราจะค้นพบหรือไม่ การใส่ใจต่อความตายอาจจะเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่รอการค้นหาของพวกเราอยู่!!!


      ในขณะที่มนุษย์จำนวนมากที่กำลังเผชิญหน้ากับความตายเพียรพยายามจะดำเนินการก่อนสิ้นลมหายใจ คือ "การแบ่งมรดกซึ่งเป็นทรัพย์สินเงินทองให้แก่บุตรหลาน" เพื่อให้บุตรหลานได้ใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินชีวิตต่อไป แต่พระพุทธเจ้ากลับแสดงออกในทิศทางที่แตกต่าง เพราะมรดกที่พระองค์ทรงมอบให้แก่ชาวโลกซึ่งกำลังมีลมหายใจนั้น คือ "มรดกธรรม" ที่ย้ำเตือนว่า "สังขารมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลาย จงดำเนินชีวิตด้วยความประมาทเถิด!!!"


      "มรดกธรรม" ที่พระองค์นำเสนอนั้นเป็นการตรัสเตือนโดยการชี้ให้ทุกคนเพ่งพินิจด้วยความใส่ใจต่อ "สังขาร" ของบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็น "มหาบุรุษ" ของโลกว่า "สุดท้ายแล้วก็ต้องเดินทางไปสู่ความตายอย่างไร้เงื่อนไข และไร้การต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น" ในห้วงเวลาของการดำเนินชีวิตนั้น อาจจะมีกษัตริย์ และผู้คนจำนวนมากสยบยอม และหมอบแทบพระบาทของพระองค์ แต่ในช่วงสุดท้ายในชีวิตนั้น พระองค์ได้ชี้ให้ทุกคนได้เห็นว่า "สังขารที่พระองค์ได้อาศัยกำลังสยบยอมต่อความตายอย่างนิ่งสงบ"

      ผู้คนจำนวนมากอาจะเข้าใจว่า ความตายเป็นจุดจบของพระองค์ แต่พระองค์ได้ให้สติว่า ความตายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทรงคุณค่าของชาวโลกโดยการย้ำเตือนให้ผู้ใดก็ตามที่ยังมีลมหายใจอยู่ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท จะเห็นว่า "ลมหายใจของหนุ่มสาวอาจจะมีราคาถูก แต่ลมหายใจของผู้ที่กำลังเดินไปสู่ความตายราคากลับแพงยิ่ง" จุดต่างอยู่ตรงที่ "คุณค่าของลมหายใจ" เพราะอีกคนไม่ค่อยรู้จักมักคุ้นกับใบหน้าของ "ความตาย" แต่อีกคนเริ่มคุ้นเคยมากยิ่งขึ้น เพราะความคุ้นเคยจึงนำไปสู่การกำหนดท่าทีเชิงบวกว่า "ความตายอยู่กับเราทุกลมหายใจ" และคอยเตือนใจมิให้เราประมาทประดุจกัลยาณมิตร

      ตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ เด็กหนุ่มคนหนึ่งนาม "สตีฟ จ๊อบ" ผู้มีความแตกต่างจากคนหนุ่มสาวทั่วไป เพราะพากเพียรเรียนรู้และเข้าใจ "กลไกของความตาย" และนั่นถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญเพราะเขาได้แปรเปลี่ยน และพัฒนา "กลไกของความตายไปสู่การสร้างกลไกในโลกวิทยาศาสตร์" ในขณะที่พุทธพจน์บทที่ว่า "ควรรีบทำสิ่งที่เราควรจะทำเสียแต่วันนี้ เพราะใครเล่าจะทราบว่า ความตายจะมีแก่เราในวันพรุ่งนี้" ได้รับการ "แปรรูป" ไปสู่วลีสำคัญที่สตีฟย้ำเตือนตัวเองในขณะที่ส่องกระจกก่อนออกจากบ้านไปทำงานว่า "จงดำเนินชีวิตให้เปรียบประดุจว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่คุณจะมีชีวิตอยู่" ประโยคทองดังกล่าวได้กลายเป็น "แรงบันดานใจ" ต่อการเปลี่ยนโลกทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างน่าจดจำ และตรึงใจชาวโลกไปอีกแสนนาน

      ณ วินาทีนี้ แม้ว่าร่างกายของพระพุทธเจ้า และสตีฟ จ๊อบจะกลับคืนสู่สามัญเป็นดิน น้ำ ลม และไฟ ถึงกระนั้น ความตายได้ทำให้สรุปแล้ว ความตายได้กลายเป็นพลังทยานแห่งชีวิต ที่ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะได้ใช้เป็นหนึ่งในเครื่องมือค้นพบความเป็น "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า" และทำให้สตีฟ จ๊อบได้ค้นพบสินค้านาม "Apple" จะเห็นว่า "ความตายไม่ใช่จุดจบ แต่คือจุดที่นำไปสู่การค้นพบที่ยิ่งใหญ่" ส่วนการที่เราจะค้นพบหรือไม่ การใส่ใจต่อความตายอาจจะเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่รอการค้นหาของพวกเราอยู่!!!

 

หมายเลขบันทึก: 486223เขียนเมื่อ 27 เมษายน 2012 01:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 03:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

"ความตายไม่ใช่จุดจบ แต่คือจุดที่นำไปสู่การค้นพบที่ยิ่งใหญ่" ก่อนจะถึงจุดนี้ได้ จะต้องฝึกฝนอย่างไรดีหนอ...

โยมพี่แก้ว....

การนำแง่มุมของความตายในลักษณะ "จริยศาสตร์ ในประเด็นตายก่อนตาย สิทธิที่จะตาย และการตายอย่างสงบ นั้น มีคนเขียนเอาไว้ค่อนข้างมาก และสามารถหาอ่านได้อย่างแพร่หลาย...

หนังสือเล่มนี้ พยายามนำเสนอความตายในมิติของ "จิตวิทยา" โดยการนำความตายมาสร้างฝันและแรงบันดานใจแก่ผู้ที่ยังมีลมหายใจอยู่ได้ตระหนักว่า "ลมหายใจในทุกอณูนั้น มีคุณค่าและความสำคัญต่อการดำรงอยู่อย่างไร" และเราจะนำความตายมาแปรรูปเป็นพลังทยานแห่งชีวิตอย่างไร โดยไม่ทำให้เราเมื่อนึกถึงความตายแล้วพากันอ่อนอกอ่อนใจ หง่อยเปรี้ยเสียขา ยอมแพ้ต่อโชคชะตาต่อชีวิต

ขอบคุณพี่แก้วมาก... ขอให้พี่แก้วมีความสุข และสร้างบารมีในชีวิตที่เหลืออยู่

เจริญพร

อยากได้หนังสือ ต้องทำยังไงครับ

อยากได้หนังสือ ต้องทำยังไงครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท