52 แมลงวันคู่กัด


กำจัดแมลงวันที่เป็นพาหะนำโรคโดยไม่ใช้สารเคมี ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

 

ผู้เขียนรับผิดชอบจัด เวทีเรื่องเล่าเร้าพลัง ซึ่งจะจัดให้มีทุกวันพฤหัสบดีที่ 3 ของเดือน   ถ้าเดือนไหนไม่อยู่ก็จะมอบหมายคนอื่นๆช่วยและเดือนนี้ผู้เขียนก็ติดภารกิจต้องไปราชการเพื่อจัดทำมาตรฐานการพยาบาลกับเพื่อนๆพยาบาลชาวกรมอนามัยที่ จังหวัดอุบลราชธานี ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะมอบหมายให้คนอื่นช่วยเวทีแทน   แต่ก็รู้สึกเกรงใจ   จึงขอเลื่อนน้องๆคุณกิจที่ทำหน้าที่มาเล่าเรื่อง 1 วัน คือจากวันพฤหัสบดี เป็นวันศุกร์     เพื่อจะได้ทันกลับมาจัดกิจกรรมเอง    แล้วก็รู้สึกดีใจที่ได้เลื่อนวันจัด เพราะเวทีวันนี้  มี 4 เรื่องเล่าที่น่าสนใจมาก   เริ่มเรื่องแรก  “เครื่องดักแมลงวัน”  เล่าโดย .....นายปรมินทร์ อ่อนมณี   และ นายพีระ ศรีวิชัย   จากงานโภชนาการ

 

  ในภาพเป็นอ้ายพีระ และน้องฟอร์ด

    

เริ่มด้วยฟอร์ดเล่าว่า  งานโภชนาฯ กับแมงวันเป็นคู่กัดกัน    เพราะแมลงวันเป็นพาหะนำโรคที่เป็นอันตรายและก่อให้เกิดความรำคาญ   สามารถแพร่พันธุ์ได้ง่ายและมาก     แมลงวันที่พบเห็นบ่อยเป็นแมลงวันบ้าน  ซึ่งตัวเมียจะวางไข่ในมูลสัตว์หรือซากสัตว์     ที่เน่าเปื่อย โดยวางไข่      ครั้งละ 75-150 ฟอง และจะวางไข่ทุกๆ 3-4 วัน  ตลอดชั่วอายุจะวางไข่ประมาณ 6 ครั้ง  

 

 

โดยทั่วไปเรานิยมกำจัดแมลงวันโดยใช้สารเคมีซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อมนุษย์และสภาพแวดล้อม     และที่สำคัญยังสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย เพราะต้องนำเข้าสารเคมี จากต่างประเทศ ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้เกิดการตกค้างของสารเคมีในอาหารหรือสิ่งอุปโภคบริโภคได้    

 

ดังนั้นงานโภชนาการจึงมีการคิดค้นหาวิธีกำจัดแมลงวัน  โดยไม่ใช้สารเคมี   โดยมีการวางเป้าหมายในการผลิต  คือ

  • ต้องนำวัสดุและอุปกรณ์ที่เหลือใช้ มาประยุกต์ในงานให้เกิดประโยชน์

  • กำจัดแมลงวันที่เป็นพาหะนำโรคโดยไม่ใช้สารเคมี ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

  • สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามความเหมาะสม และเกิดประโยชน์

  • ลดค่าใช้จ่ายในการใช้สารเคมีกำจัดแมลง

 

 

แต่ก่อนจะมาเป็นเครื่องดักแมลงวัน  ต้องต้องศึกษาให้ “รู้เขารู้เรา” ก่อน   ตามสุภาษิตที่กล่าวไว้ว่า  ถ้าเรารู้จักศัตรูแล้ว รบ 100 ครั้งก็ชนะ  100  ครั้ง    ซึ่งก็พบว่า  วิถีชีวิตและพฤติกรรมแมลงวันนั้น  คือ

  • ชอบที่โล่งแล้วลงมาตอม      

  • เมื่อตกใจแล้วจะบินขึ้นสูง   

  • จะบินหาที่โล่ง หรือที่มีแสงสว่าง

  • แมลงวันจะบินลงไม่เป็น

 

วิธีดำเนินการ

คัดเลือกวัสดุและอุปกรณ์  เช่น ขวดพลาสติก   ที่มีอยู่ ทำการประกอบชิ้นส่วนต่างๆให้เป็นรูปทรงกระบอกโดยมีฐานด้านล่างยกสูง มีช่องว่างให้แมลงวันบินเข้าไปข้างใน    ดังรูป   

 

 

 

 

เมื่อประกอบอุปกรณ์เสร็จแล้วนำไปทดสอบการใช้งาน วางกับดักไว้บริเวณที่มีแมลงวันชุม โดยใส่เศษอาหารคาวเป็นเหยื่อล่อไว้ใต้ฐานกับดัก วางทิ้งไว้ประมาณ 4-6 ชั่วโมง แล้วเข้าไปตรวจสอบ         จะพบว่ามีแมลงวันบินเข้าไปติดอยู่ในกับดักจำนวนมากจำนวนของแมลงวันจะขึ้นอยู่กับช่วงที่มีแมลงวันชุกชุม   แต่ปรากฏว่า เมื่อแมลงวันเต็มแล้วต้องนำไปทิ้งทั้งขวดทำให้สิ้นเปลือง  เพราะไม่สามารถเปิดฝาทิ้งหรือฝังแมลงวันได้    

 

จึงปรับปรุงคิดรูปแบบใหม่ โดยดัดแปลงให้มีฝาเปิด ปิด อยู่ด้านบน เพื่อที่เมื่อดักจับแมลงวันได้เต็ม  สามารถเปิดฝาเทแมลงวันออกได้   ทำให้นำกลับมาใช้ได้ใหม่ด้วย

 

 

 

 

ทำไม.... ถึงต้องเป็นขวดน้ำพลาสติกใส

เพราะขวดน้ำพลาสติกไม่ว่าจะใสหรือขุ่นล้วนมีอันตรายทั้งนั้นถ้าเรานำกลับมาใช้ใหม่    และยิ่งอันตรายมากขึ้นเมื่อโดนความร้อนแม้เพียง ๖๐ องศาเซลเซียส   เพราะความร้อนจะทำให้สารเคมีในขบวนการผลิตละลายออกมาอยู่ในน้ำนั้น เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ และอนุพันธ์ปิโตเคมี เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นพิษต่อร่างกาย โดยเฉพาะเกือบทั้งหมดจะเป็น สารก่อเกิดมะเร็งหรือกระตุ้นให้เซลล์ร่างกายทำงานผิดปกติทั้งนั้น รวมทั้งทำลายสมอง  รังสีอัลตราไวโอเลต(แสงแดด) มีส่วนในการสลายโมเลกุลเหล่านั้นให้ละลายออกมาในน้ำได้  น้องฟอร์ดบอกว่า  บางคนชอบเอาขวดน้ำใส่ไว้ในรถยนต์  เมื่อจอดรถไว้ในที่แดดส่องทำให้รถร้อน  น้ำในขวดก็ร้อนไปด้วย  ให้สังเกตง่ายๆว่าน้ำจะมีกลิ่นและรสแปลกๆ  ถ้าเจอให้ทิ้งทันทีอย่าเสียดาย

 

 

แนวทางในการพัฒนาต่อ

จะสร้างกับดักแมลงวันที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบและรูปทรงได้ตามความเหมาะสมของสถานที่ และตามความต้องการของผู้ใช้ ปากกรวยที่ให้แมลงวันบินขึ้นมาอาจจะปรับให้ต่ำลง  และยกฐานของกับดักให้สูงขึ้นประมาณ 10 เซนติเมตร เพราะถ้าฐานยกสูงเกินไปจะทำให้แมลงวันบินออกนอกกับดัก     ท่านที่สนใจลองนำไปใช้ดู  หรือจะรอ  ver 3  ก็ได้นะคะ

ขอบคุณค่ะ

หมายเลขบันทึก: 482254เขียนเมื่อ 17 มีนาคม 2012 14:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 01:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ดีจัง บ้านไหนที่ทำปลาแดดเดียวขาย ควรทำไว้ใช้ให้รอบบ้านเลยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ นานๆมาแอ๋วก็ดีใจค่ะ หม่อนหวานหอมชื่นใจมาฝากค่ะ

 

สวัสดีครับ ...เจ๊ เหมือนได้มานั่งฟังด้วยตนเอง

ต้องแนะนำให้แม่ค้าปลาเค็มทำดูบ้างแล้ว

บ้านเราริมเล แมงวันจ้านจริง

สวัสดีค่ะ น่าสนใจมากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท