ในระยะนี้ผมบังเอิญโชคดีที่ได้มีโอกาสไปบุก "รังใหญ่" หลายแห่ง
และในขณะเดียวกันก็มี "สายเดินพระ" ช่วยสนับสนุน การค้นหาพระสมเด็จ
มาเรื่อยๆ
ทำให้ผมได้พระสมเด็จวัดต่างๆ มาเพิ่มเรื่อยๆ
- ทั้งที่เป็นกลุ่ม ๓ วัด
ของท่านพุฒาจารย์ โต พรหมรังษี
- รุ่นพระอาจารย์ของท่าน
- กลุ่มรุ่นลูกศิษย์ของท่าน
และ
- พระร่วมสมัย
- จนกระทั่งพระเนื้อผงรุ่นหลังๆ อายุ ประมาณ
๕๐ ปี ขึ้นไป
เพื่อการศึกษาการวิวัฒนาการของผิวพระเนื้อผง
โดยเริ่มพิจารณาจาก
- ตามอายุของเนื้อ
- สภาพการกร่อน การงอก
- รูน้ำตา คราบเหงื่อปูน
และธารน้ำตา
- ความนุ่ม
และนวลแป้งของผิว
- โดยไล่เลียงตามอายุ
และวิวัฒนาการของปูนเปลือกหอย
แล้วจึงหันมาพิจารณา
- พิมพ์ทรง
ความอ่อนช้อยของศิลปะ
- ความสอดคล้อง หรือเหมือนกัน ทั้ง ด้านหน้า ด้านหลัง
และด้านข้าง
- ที่ช่างโรงงานทำพระส่วนใหญ่
ยังทำให้ "เนียน" ได้ไม่หมด
จึงได้พระกลุ่มเนื้อผง
เพื่อการศึกษาและตัวอย่างในการสอน มาพอสมควร
ในระหว่างนี้
ระบบการหาพระของผมก็จะถูกรบกวนแบบ "มารผจญ" ด้วยพระโรงงานฝีมือจัด
"เนื้อผง" ที่พบบ่อยในตลาดพระ
เรื่มตั้งแต่
-
พระเก๊โบราณ
- จะมีผิวและเนื้อสวยมาก
- มีผิวครบทุกแบบ
หลายชั้น
- ทั้งบ่อน้ำตา
ผิวหินอ่อนครบหมดแบบพระแท้
- ที่ไปไม่ได้เลย ก็คือ
"ผิดพิมพ์"
- จะมีพิมพ์ที่
ทั้งผิดสัดส่วน ปะปนกันของแต่ละบล็อก หรือแม้กระทั่งข้ามกลุ่มของ
"พิมพ์"
- อย่างน้อยก็เพี้ยนจากพิมพ์มาตรฐาน
ที่พวกเชียนนิยมใช้คำว่า "ผิดพิมพ์"
- ต่างจาก "เก๊ใหม่"
ที่พิมพ์ถูกต้องหมด แต่เนื้อไปไม่ได้
-
พระเคลือบเรซิน
- จะพบบ่อยในกลุ่มวัดระฆัง
และอาจมีในรุ่นลูกศิษย์บ้างเล็กน้อย
- ผิวจะออกมัน
ที่คนขายจะหลอกให้เราหลงทางว่า "พระล้าง"
- มีการผสมเรซินกับมวลสารคล้ายพระสมเด็จ
- อาจมีการฉาบแป้ง
ให้ดูผิวนวล
- หรือใช้เรซินสีขาวนวลโปะเป็นแถบๆ
- ที่จะมีผิวกระด้าง
ไม่นุ่มตา
- อาจมีรอยแยกแบบขอบเป็นเหลี่มมุมคมชัด
- มักไม่พบบ่อน้ำตา
หรือธารน้ำตา
- อย่างมากก็มีจุดดำๆ
ที่ไม่เป็นรูโพรง ข้างๆโปะด้วยเรซินสีนวลกว่า แบบสีเดียวทั้งแถบ
ไม่มีการไล่ระดับสี
-
พระเรซินแต่งผิว
- ฝีมือจะหยาบกว่าพระเคลือบเรซิน
- เนื้อและผิวจะดูแข็งกระด้างไปทั้งหมด
- อาจแต่งผิวให้ดูขาวนวล
- หรือขัดให้ดูสีก
- อาจมีการทาสีดำคล้ายรักบางส่วน
- ผิวจะแข็งกระด้างแบบพลาสติด
ไม่มีนวลแป้ง
- สารต่างๆที่ทาจะติดผิวแนบแน่น
ไม่เกาะหลวมๆ ไม่มีช่องว่าง
-
พระเรซินทารักปิดทอง
- พบมากในกลุ่มวัดระฆัง
- ลักษณะแบบพลาติกทาสี
แล้วปิดด้วยทอง
- ผิวพระจะเรียบมัน
ไม่มีบ่อน้ำตา ไม่มีคราบเหงื่อปูน
- สีที่ทาจะติดแน่นสนิทแกะยาก
- ทองที่ทาจะดูใหม่ๆ
-
พระเรซิน
ชุบกาวทอด ฝ้งดิน
- พบมากในกลุ่มพระเลียนแบบ
"บางขุนพรหม"
- จะเป็นพระเรซิน ที่ทำให้มีผิวขรุขระ
แบบคล้ายๆ "ผิวงอก"
- แล้วนำไปชุบสารเหนียวๆแบบกาว
ทอดน้ำมันให้เกือบไหม้ เป็นสีน้ำตาล
คล้ายสีน้ำมันตังอิ๊ว
- นำไปฝังดินให้มีลักษณะคล้ายคราบกรุ
- นำมาขัดผิวนอกให้ดคล้ายๆกับมี
"ผิวงอก" ขาวๆ
พระโรงงานฝีมือจัดเหล่านี้จะพบบ่อยมาก
ที่ทำให้เราหยิบผิดได้ง่ายๆ
แต่ก็จะพบน้อยกว่าพระฝีมือหยาบ เพราะหายากกว่า ต้นทุนมาแพงกว่า
ราคาต้นทุนเท่าที่ทราบอยู่ที่องค์ละ
๕๐-๑๐๐ บาท แล้วแต่ระดับของตลาด
ทางแผงจะนำมาขายองค์ละ
๒๐๐๐- ๕๐๐๐ บาท ต่อรองได้
แต่ถ้าบังเอิญ เห็น
"หมูสนาม" เดินมา จะโก่งเป็น หลักหมื่น
หลักแสนทันที
ถ้าแลกกันเองจะว่ากันที่ ๓๐๐-๕๐๐ บาท
แล้วแต่ระดับความใกล้เคียงกับของจริง
จึงขอเตือนท่านที่กำลังศึกษา อย่าไปหลงหยิบให้ช้ำใจ
ถ้าอยากลองวัดสายตา ก็ต้องตกลงล่วงหน้าว่าขายคืนได้ราคาเท่าเดิม
ถ้าคิดหักลดอย่าเสี่ยง
แต่ อย่าลองเลยครับ
เสียเวลา เสียเงิน และเสียความรู้สึกเปล่าๆ
ดูผิวแป้งนวลเหงื่อปูน
รูน้ำตา ธารน้ำตา ผิวปูนงอก คราบกรุ ให้ครบ ดูพิมพ์ใหถูกต้อง
และสุดท้าย ความเหมือนกันทั้งหน้า ข้าง และหลัง
แล้วค่อยต่อรองแล้วหยิบดีกว่าครับ
ขอให้โชคดีครับ