ถิ่นกำเนิดที่เพชรบูรณ์ไปโตที่ขอนแก่น อยู่เพชรบูรณ์เป็นลูกชาวนา พอ 3 ขวบไปขอนแก่นเป็นลูกพ่อค้า ขายไอติม แต่ก็ยังไม่รู้ถึงสาเหตุที่ต้องย้าย จนพอเรียนได้ ม.2 กลับ ที่เพชรบูรณ์ สำนวนศาลจึงรู้ นี่เราไม่มีปู่ เพราะครอบครัวเราโดน ปล้น และฆ่าเราจึงได้สอบถามพ่อได้ความว่า ปู่สมัยก่อนเป็นนายฮ้อย พอขายวัว ขายควาย ได้ก็จะเอาเงินไว้ใต้พรมเชิดเท้า เงิน สามหมื่นกว่าโจรเอาไปไม่ได้สักแดงเดียว แต่สิ่งที่หน้าเศร้า คือ ครอบครัวสูญเสีย ถึง 4 ศพ นั่งคือ ปู่ อาสาว ลูกน้องปู่ และ ลูกของอาสาว ซึ่งเป็นเด็ก อายุ 3 ขวบ โดนยิง นอนตายบนกับไหปลาล้า และพ่อเป็นคนเดียวที่เห็น คนกลุ่มนี้บาดเจ็บ ระหว่างทางที่จะมาหาปู่ ห่างหลาย 10 กิโล ดังนั้นพ่อ จึงโดน ตามเก็บเนื่องจากเป็นพยานปากสำคัญ และโดนรอบยิงอยู่บ่อยๆ ด้วยแกถือของนั่นคือ ทรายพระธาตุศรีสองรัก แกเลยรอด มาได้ กลัวลูกเมียไม่ปลอดภัยก็ต้องขยับมาขอนแก่น ขายไอติมแท่ง ไอติมตัก ไอติมตัด และขายน้ำแข็ง เช่าบ้าน เดือนละ 600 อยู่ สมัยเด็ก ตอนตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยมีนมกิน กินน้ำข้าว ผสมเกลือ ไปโรงเรียน โครงการนมโรงเรียนก็ไม่ได้กิน เพราะเราสูงเกินแล้ว จัได้กินนานๆครั้งตอนหลังเลิกเรียนตอนเขาเหลือ และตัวเราก็ทำเป็นกลับช้าเพราะอยากกินนม เพื่อมีเหลือบ้าง ตอนประถม งานโรงเรียนเราก็จะคอยหิ้วกระติกใส่หวานเย็น ขายในโรงเรียน ไม่เคยได้ไปเล่นอะไรกับไครเขา เช้าก็ต้องรีบตื่นตั้งแต่ตี 3 เพราะต้องขายน้ำแข็งที่บ้าน น้ำแข็งเขาเรียกเป็น ซอง 1 ซองมี 4 ลูก 1 ลูกมี 4 กั๊ก 1 กั๊ก ถ้าไม่ผอม มี 5 มือ หรือ4 มือ ขายน้ำแข็งรันทดมากๆ ตอนหน้าหนาว เพราะ เวลาที่ต้องล้างเกลบ ที่คอยรักษาความเย็นทำให้มือชา ตัวผมเองกีฬา เล่นไม่เป็น เลย เพราะไม่เคยได้ไปไหนนอกจากทำงานที่บ้าน โตขึ้นเรียนปวส ปิดเทอมก็ต้องไปขายไอติม ตามป่าอ้อย เพื่อ หาตังค่ากินค่ารถเพราะค่าเทอมกู้ กยศ ปัจจุบันที่บ้าน ก็ไม่ได้ทำไอติมแล้ว ต้นทุนสูง มากทำให้ต้องเลิกกิจการ ผมลืมบอก ผมมีพี่น้อง 3 คน ผมเป็นคนกลาง ปัจจุบันทำงานอยูบริษัทเอกชน ในตำแหน่งช่างเทคนิค เงินเดือน หมื่นกว่าๆ ทำงานมา เข้า 10 ปีละ แต่ด้วยความโชคดีที่หัวหน้า อนุญาติให้เรียนต่อได้