"หากความตายใกล้เข้ามา เราควรทำอะไรก่อน"
เป็นความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวของฉัน
ขณะที่นั่งรถตู้โดยสาร สายสระบุรี-กรุงเทพฯ พาบีบีลูกสาวคนโตไปเรียนพิเศษ
ใกล้ยูเทิร์นแถววังน้อย อยุธยา อยู่ๆ มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็วิ่งมาตัดหน้ารถตู้ที่เรานั่ง
เสียงคนขับอุทานด้วยความตกใจ "อ้าวจะมาจริงเหรอนั่น ตรงนี้ทุกที"
ยังไม่ทันขาดคำเสียงรถทั้งสองคันชนกันดังสนั่น
เสียงคนในรถบอก สงสัยขาหรือแขนขาดสักอย่าง
ฉันรึบก้มหน้าหลับตา ไม่อยากเห็นอะไรทั้งนั้น
คิดถึงหนังสือกลยุทธ์แห่งความสุข
ที่พี่น้ำชาให้ไว้เมื่อตอนที่นอนพักฟื้นในโรงพยาบาล
ท่านเสถียรพงษ์ วรรณปก เขียนไว้
พระพุทธเจ้าได้ตรัสกับพระภิกษุสงฆ์ไว้ว่า
" ภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกเธอนั่งฝึกสมาธิภาวนาอยู่ตามป่าตามเขา
ถ้าเกิดความกลัว ความขนลุกพองสยองเกล้า ความหวาดหวั่นเมื่อใด
ให้มองดูยอดธงของตถาคต"
ยอดธง ก็คือ บทสวดอิติปิโส นั่นเอง
ฉันก็นั่งหลับตาสวดมนต์บทอิติปิโสในใจ
บางขณะ ใจก็นึกผวา ส่งข้อความไปบอกสามีที่เพิ่งมาส่งขึ้นรถ
เขาตอบกลับมา "ไม่เป็นไรนะ ขอให้พระคุ้มครอง"
หวนคิดถึงเมื่อเย็นวานที่เขาถือพระหลวงปู่ทวดมาให้
แล้วบอกให้ใส่สร้อยห้อยคอไว้
ตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุใหญ่สองครั้งในรอบปีที่ผ่านมา
ขวัญเริ่มผวา หากมองในแง่บวก น่าจะถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์
ไม่เป็นอะไรมากขนาดพิกลพิการไปก็ดีแล้ว
แต่หากมองในอึกมุมหนึ่ง
ฉันรู้สึกว่าอาจจะมีเหตุการณ์อะไรบางอย่าง
มาคอยเตือนให้ระลึกเสมอถึงความตายเบื้องหน้า
ชีวิตที่ยังมีอยู่ จะหาเสบียงใดติดตัวไป
จนถึงตอนนี้ ฉันคิดว่า ฉันควรเตรียมตัวเตรียมใจสู่ความตายได้แล้ว
ด้วยการนำ "หลักธรรมนำใจ"
ค่อยๆเตรียมค่อยๆ สะสมเสบียง สะสมบุญทีละเล็กทีละน้อย
หากมีบุญพอ คงได้รับการยืดเวลาให้สะสมบุญเพิ่มขึ้น
ฉันตั้งใจไว้ว่าต่อไปนี้ ฉันมุ่งศึกษาธรรมมะให้มากขึ้น
และจะฝึกปฏิบัติไปด้วยตามโอกาสอันอำนวย
โดยรักษาสมดุลย์แห่งชีวิตตนเองและครอบครัว
ระลึกถึงหลักธรรมของพระพุทธองค์
"ให้ปฏิบัติต่อกันด้วยจิตเมตตา
ให้พูดต่อกันด้วยจิตเมตตา
ให้คิดถึงกันด้วยจิตเมตตา
ให้แบ่งปันความรัก ความอิ่มด้วยจิตเมตตา
ให้สร้างทัศนคติที่เป็นบวกต่อกัน
ให้ตนมีศีลธรรมมากกว่าพยายามให้คนอื่นมีศีลธรรม"
ฉันขออาราธนาคุณพระช่วยคุ้มครอง
และน้อมนำพาฉันไปสู่ความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ด้วยเถิด
อุบัติเหตเกิดขึ้นกับผมบ่อยมากจนแม่ผมพาไปทำบุญทำทานหลายที่
แต่อุบัติเหตแต่ละครั้งผมไม่เป็นอะไรเลย ผมเลยเชื่อว่าผมยังมีบุญที่จะมีชีวิตอยู่ต่อได้
ทุกวันนี้เลยพยายามทำบุญอยุ่ตลอด
สวัสดีค่ะ อ่านไปลุ้นไปค่ะ แต่ก็ปลอดภัยจนได้เหมือนครูบันเทิงเลยค่ะ ชีวิตเคยอยู่ในช่วงแห่งความหวาดเสียวมาแล้ว (หลายครั้งน่ะ) เอ้า..เล่าให้ฟังเรื่องนึงน่ะ ตอนท้องน้องไอซ์ได้ 5 เดือน นั่งรถกับแฟนไปทำงาน ถ้าใครได้มาแถวระนองจะทราบว่าทางมันคดเคี้ยวมาก พอดีถึงโค้งอันตราย แฟนก็ชะลอ ไปปกติอยู่แล้ว แต่ทางข้างหน้ามีน้ำที่ปล่อยจากรถบรรทุกปลาไหลนองพื้นไปหมด ขับแค่ 30 ก็ไม่อยู่ค่ะ...กำลังฟังเพลงพี่เบิร์ดไปเพลินๆ รถก็เกิดหมุนกระทันหัน แบบว่าเลี้ยวกลับไปทางเดิมเลย แฟนมีสติค่ะ ไม่เบรค เลี้ยงพวงมาลัยให้ไม่ชนหลักกิโล เท่านั้น เคราะห์ดีที่ไม่มีรถสวนมาเลย พอรถหยุด เหมือนใจหยุดตื้นเลยค่ะ มือจับท้องทันที ลูก...ไม่เป็นไรค่ะ..หวาดเสียวค่ะ..
หมายเหตุ
มีเข็มขัดนิรภัยรุ่นใหม่มาฝากๆ เพื่อนๆ ที่แวะเยี่ยมบันทึกนี้
เพื่อลดอุบัติเหตุทางรถยนต์ค่ะ
แอ่น แอ๊นนนนนนนนน
วิจัยแล้วว่าทำให้อุบัติเหตุลดลงถึง 45%
สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะจ๊ะ
คุณพี่เตรียม CD ของพระอาจารย์ไว้ให้คุณน้องตั้งแต่ตอนนอนป่วย จนบัดนี้ยังอยู่กับคุณพี่เลย เดี๋ยวจะนำไปฝากนะ
พระคุ้มครองนะ ขอให้สมปรารถนาในสิ่งที่ตั้งใจ
คิดฮอดหลายเด้อ
สวัสดีครับน้อง jaja
ตามน้องน้าชามา ฝึกจิตคิดใฝ่ธรรม นำชีวิต
มาฝึกใจให้ใฝ่ธรรม นำความคิด
มาฝึก กาย ฝึกใจ ฝักใฝ่ธรรมสู่การทำงาน
รู้ธรรม คือรู้หน้าที่ครับ
ดีแล้วที่ไม่เป็นอะไรมาก ขอให้มีความสุขกับการทำงาน ถ้าหลานน้อยอยากเป็นอะไร ต้องสนับสนุนวิชาที่สำคัญกับอาชีพนั้นๆๆครับ (จากครูแนะแนว เก่าฮ่าๆๆ)
สวัสดีครับ
ความกลัวตายของเรา และ ของคนที่เรารักตายนั้นมาเยี่ยมเยือนเราบ่อยนะครับ
ผมก็แวบคิดบ่อยเหมือนกันแต่ก็พยายามระลึกรู้ถึงความกลัวนั้นๆครับจะได้สั่งสมสติ
การจากไปของคนอื่นทำให้เราเห็นว่าชีวิตนั้นเปราะบางยิ่งนัก
แต่ความคิดเหล่านั้นก็ช่วยให้เราฝึกเจริญมรณานุสติได้ดีเหมือนกัน
ความไม่ประมาทช่วยให้เราปฏิบัติในสิ่งที่ถูกที่ควร
ธรรมรักษานะครับ
สวัสดีคะพี่จ๊ะ...
ขอบคุณที่ไปเยี่ยม พอลล่านะคะ
เป็นห่วงพี่เสมอค่ะ
คิดถึงค่ะ บุญรักษาค่ะ
คิดถึงก่อนนอน