วันลอยกระทงกับการสูญเสีย!!!
จริงๆ แล้วดูเหมือนว่าเมื่อเอ่ยถึงวันลอยกระทงทุกๆ คนดูเหมือนจะยิ้มร่ารอคอยให้ถึงวันนี้กันถ้วนทั่ว... เพราะมันหมายถึงวันที่เราจะร่วมกันทำกระทงด้วยกันในครอบครัวของเราอย่างสนุกสนาน ช่วยกันตกแต่งและประดับประดากระทงน้อยๆ นั้นอย่างสวยงามเป็นอย่างดีด้วยดอกไม้หลากหลายสีสัน ปักธูป ปักเทียน แล้วก็ตัดเล็บ, ตัดผมของใครๆ ในครอบครัวแล้วก็พร่ำบ่นขณะใส่เศษเล็บและผมลงไปในกระทงด้วยภาษาใต้บ้านเราว่า “โชคดีเอาว้าย โชคร้ายไปเสีย (โชคดีเอาไว้ โชคร้ายไปเสีย)” แล้วก็รอคอยที่จะไปลอยเจ้ากระทงใบน้อยนั้นลงในคลองที่ท่าวัด พร้อมกับการขอขมาพระแม่คงคาและขอให้สิ่งโชคร้ายลอยออกไป เหลือไว้แต่สิ่งดีๆ โชคดีกับตัวเท่านั้น
ไม่ไกลจากวัดนัก....เป็นที่ดินว่างเปล่าสาธารณประโยชน์ของหมู่บ้าน แต่เป็นอีกฝั่งคลองของท่าน้ำข้างๆ วัดนั้น ก็จะเป็นสถานที่ ที่ทางหมู่บ้านจัดให้มีงานรื่นเริง โดยทางเทศบาลตำบลเป็นโต้โผใหญ่ในการจัดงานดังกล่าว ที่นี่จะมีการแสดงบนเวทีของลูกเด็กเล็กแดง ลูกๆ หลานๆ ของเราในหมู่บ้านนั่นเอง แต่ใช่ว่าจะมีเฉพาะเด็กน้อย กลุ่มหนุ่มสาวหรือแม้กระทั่งกลุ่มผู้สูงอายุจากชมรมผู้สูงอายุยังร่วมส่งการแสดงเข้าร่วมด้วยช่วยกันเช่นกัน นอกจากการแสดงต่างๆ ก็จะมีการประกวดกระทงกันทั้งประเภทสวยงามและประเภทความคิด ที่รอคอยกันก็คงจะเป็นการประกวดหนูน้อยนพมาศ และนาง(สาว)นพมาศนั่นเอง
ที่บ้านครูแอนวันนี้พิเศษหน่อยตรงที่เป็นวันคล้ายวันเกิดเจ้าหลานชายตัวแสบของบ้าน เราก็เลยจัดเค็กวันเกิดให้เค้าก้อนหนึ่งก่อนไปลอยกระทงกัน แต่ปีนี้เราซื้อกระทงขนมปังมาลองให้ปลาในคลองมันกินดูซักปี....อิอิอิ.... แล้วเราก็ตัดผมตัดเล็บใส่ แต่มีพิเศษหน่อยตรงที่เราเอาเทียนเล็กๆ จากก้อนเค็กลงไปประดับประดาในกระทงขนมปังของเราด้วยเลย
พอไปถึงวัด จอดรถปุ๊บ....เจ้าบรรดาลูกศิษย์ตัวแสบที่จบไปแล้วแซวกันเป็นแถวๆ ประสาเด็กแสบกับครูซ่าส์พอกันนั่นแหละ...ครูลอยกับผมมั๊ยครูคร๊าบ...เนี่ย...ผมรอลอยกับครูอยู่นะเนี่ย (หนอยๆๆ มันมีแซวๆๆ) ...ชาวบ้านใกล้ๆ ตรงนั้นที่ได้ยินเค้าเลยยิ้มขำๆ กันไป...ครูแอนกับน้องถุงปูนก็เลยลอยกระทงขนมปังลงในคลองในฐานะที่เราสองคนเป็นตัวแทนของครอบครัวพร้อมๆ กับการขอพรเผื่อสมาชิกในครอบครัวและคนรู้จักไปด้วยเลย เนื่องจากมีเราสองคนที่ว่างที่สุดแล้วสำหรับค่ำคืนนี้ เพราะพี่สาวครูแอนสองคนคือครูป้าหวาด (ครูสุดสวาท คณะทอง) และครูเพ็ญ(ครูเดือนเพ็ญ สุขราษฎร์) ถูกเชิญไปเป็นกรรมการตัดสินการประกวดหนูน้อยนพมาศ และนางนพมาศเสียแล้ว…
ตัวแทนของครอบครัวลอยกระทงและบรรยากาศภายในงาน
ที่โต๊ะประกวดกระทงประเภทต่างๆ
ครูป้าหวาดและครูเพ็ญเป็นกรรมการตัดสินนางพมาศและหนูน้อยนพมาศ
หลายๆ ครอบครัวในหมู่บ้านครูแอนก็เป็นเหมือนๆ กับครอบครัวครูแอนนี่แหละ...ที่รอคอยวันลอยกระทงด้วยใจจดจ่อ รอด้วยความดีใจที่จะได้สนุกสนานกัน ลอยกระทงกัน แต่ทว่า...ปีนี้มีอยู่ครอบครัวนึงที่เค้าเองก็คิดไม่ถึงว่าวันที่ครอบครัวเค้าจะมาร่วมงานลอยกระทงกันอย่างสนุกสนานกลับกลายเป็นวันที่เศร้าที่สุดสำหรับการสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปในวันลอยกระทงนั่นเอง....
น้าบ็อกชายอายุราวๆ เกือบจะห้าสิบกว่าปีที่ใครๆ มักจะเห็นว่าเมาแอ๋ตลอดทุกงาน และงานนี้ก็เช่นกันที่แกก็เมาเหมือนเดิม แต่หลังจากประกวดนางนพมาศเสร็จแล้ว....แว่วว่า...มีคนเห็นแกลงไปในน้ำคลองที่ลอยกระทงกันนั้น แต่บางคนเข้าใจว่าแกโดดเล่นเพื่อไปเก็บเศษสตังค์ในกระทง หรือโดดเล่นเพื่อให้สร่างเมา เลยไม่มีใครคิดว่า แกพลัดหล่นลงไปในน้ำ พอเวลาเลิกงาน เลยมีประกาศเรียกหาตัวน้าแกกันจ้าละหวั่น ถึงได้ข่าวว่าแกโดดลงน้ำ แต่ไม่มีแล้วตรงนั้น... พวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านเลยพากันมาดำหาตัวแกในคลอง ต่างก็ไม่เจอ จนมาเจออีกทีตอนตีสามแล้ว แต่คราวนี้แกเป็นศพแล้วถูกน้ำพัดไปติดอยู่ท้ายวัดโน่น….เลยกลายเป็นว่าหลังงานลอยกระทงปีนี้กลับกลายเป็นมีงานสวดศพในวัดต่อเลย....กลายเป็นเรื่องเศร้าหลังงานลอยกระทงไปเลย
ฝากเป็นอุทาหรณ์อีกเรื่องหนึ่งที่พึงให้ระลึกถึงความปลอดภัยในขณะไปลอยกระทงที่ท่าน้ำพร้อมๆ กับความสนุกสนานในวันลอยกระทงนะคะ
เป็นเรื่องที่หวาดหวั่นกันเสมอที่วัดบ้านพี่ก็มี
คลองชลประทานอยู่ใกล้ๆวัด..แต่ ส.อบต.
คุมตลอดสองฝั่งคลองค่ะ..ไม่มีเหตุ
เศร้าครับครูแอน ดาราเมาประชุมชนมีทุกแห่ง ผู้คนผ่านพบมักไม่สนใจ เหมือนน้าบ๊อกครับ
จงเอาการสูญเสียเป็นเครื่องเตือนสติ คนที่ยังอยู่ครับ
สวัสดีครับครูแอน
หายหน้าหายตาไปเสียนานเลยนะ งานเขียนยังคงคุณภาพเหมือนเดิม.
สวัสดีค่ะ น้องแอน
- หายไปนานเลยนะค่ะ
- ทุกๆครั้งของงานรื่นเริง ก็จะมีความเศร้าแฝงมาด้วย...ถ้างดดื่มเหล้าได้ก็จะเป็นเรื่องที่น่ายินดีปลอดภัยทั้งตัวเขาและเราแน่นอนค่ะ
บ้านครูน้ำท่วมหรือเปล่าจ๊ะ ได้ข่าวว่าเทพาน้ำท่วม รักษาสุขภาพด้วยนะ
- ด้วยความห่วงใยมากมาย -
สวัสดีครับ Lioness_ann
เหมือนเหตุการณ์ที่ดิฉันไปเที่ยวเชียงใหม่มา ขากลับเจะหมวกกันน็อคแตกกระจาย พร้อมกองเลือด เศษรองเท้าแตะ เข่งผักเกลื่อนตากับยายแก่แก่ นอนจมกองเลือด ตาคงจะไปแล้วหล่ะ ส่วนยายนอนหายใจระรวย ลูกๆที่นั่งมาด้วยยกมือขึ้นปิดหน้า รถมูลนิธิกำลังเตรียมแปล เพื่อเคลื่อนย้ายคุณยาย ได้แต่ภาวนาว่าขอให้คุณยายหายวันหายคืน กลับไปหาลูกหลานที่รออยู่ที่บ้าน ป่านนี้จะรู้หรือยังหนอว่าเกิดอะไรขึ้นกันตายายสองคนนี้......ลูกถามว่าแม่ยายกับตาจะเป็นไรไหม ฉันตอบว่า คุณหมอเอาไปล้างแผลที่โรงบาล ทายา กินยา แล้วก็เดินได้ลูกแล้วยายก็หายย ตอบไปพร้อมเสียงที่สั่นเครือ และฝืนทำสีหน้าที่ให้ลูกคลายกังวลมากที่สุด แล้วเด็กๆก็พยักหน้าสีหน้าคลายกังวลจริงด้วย (4ขวบ) แต่ในใจของฉันรู้ดีว่า..................
.....เฮ่อ และแล้วอาหารเย็น ที่สวนอาหารที่ใหญ่มากชานเมืองเชียงใหม่ในเย็นวันนั้น ก็เหลือเต็มโต๊ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร.....
หวัดดีจ้า...ศิษย์ของครู
สวัสดีค่ะ คุณ pintida