อนุทินล่าสุด


Lioness_ann
เขียนเมื่อ

28  พฤษภาคม  2556

       เฮ้อ....ค่อยยังชั่ว.....ยิ้มออกแล่ะ....เร็วกว่าที่คิดเยอะ

       โรงเรียนเปิดตั้งแต่  14  พฤษภาคม  สัปดาห์แรกแทบจะไม่ได้สอนกันซักเท่าไหร่  เพราะยังคงอยู่ในช่วงปฐมนิเทศ  และทำความรู้จักกันกับเด็กชุดใหม่ที่เข้ามาสู่มือเรา  สัปดาห์ที่ผ่านมาจึงเริ่มสอนและเรียนกันอย่างจริงจังมากขึ้น  บางห้องก็ได้แค่สองคาบเพราะมีวันหยุดในสัปดาห์วันวิสาขบูชา   แต่บางห้องก็ได้ครบสามคาบ

     มาสัปดาห์นี้เด็กๆ เริ่มสนุกกับการเรียนมากขึ้น  ค่อนข้างคุ้นเคยและกล้าพูดกล้าจากับครูมากขึ้น  หลายคนกล้าที่จะสอบถามเรื่องที่เค้าไม่รู้และไม่เข้าใจมากขึ้น  เป็นกันเองมากขึ้น.....ครูจึงเริ่มเห็นรอยยิ้มของพวกหนูแล้ว  และครูก็เริ่มได้ยินเสียงหัวเราะที่เป็นธรรมชาติสุดๆ  ......ใจเค้า....เริ่มมาแล้วครูแอนเอ๋ย.... ลุยต่อได้เลยเทอมนี้

      



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

18 พฤษภาคม 2556

วันนี้คนเป็นครูก็อด...อมยิ้มให้กับตัวเองไม่ได้  เพราะแม้มันจะเป็นเรื่องจิ๋วๆ ในชีวิตของคนเป็นครูสำหรับครูคนอื่น  แต่มันก็สร้างพลังให้คนเป็นครูอย่างครูแอนได้อย่างอัศจรรย์เลยทีเดียว

แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุด  แต่ครูแอนก็แอบแวะไปโรงเรียนในช่วงบ่าย  เพื่อไปดูเด็กน้อย ม.1 และ ม.4 เข้าร่วมกิจกรรมกับรุ่นพี่คณะกรรมการนักเรียนในโครงการสร้างความสัมพันธ์ฉันน้องพี่

ครูแอนไม่ได้เข้าไปร่วมแจมในกิจกรรมแต่อย่างใด  แต่แอบดูอยู่ห่างๆ หน้าร้านสหกรณ์โรงเรียนของครูป้าจิน

ระหว่างที่นั่งคุยอยู่กับครูป้าจินอยู่นั้น เจ้าก็อต หนุ่มน้อยวัย 16 ลูกศิษย์เก่าของครูแอนผู้ซึ่งเพิ่งจบ ม.3 ไปหมาดๆ ก้อตรงรี่เข้ามาสวัสดีครูทั้งสอง  และนั่งคุยกับครูแอน (เจ๊จอมเฮี๊ยบ....ที่เจ้าตัวบอกเช่นนั้น  อิอิอิ) เป็นพักใหญ่  และตอนนี้ก็อตก็เข้าเรียนสายอาชีพในวิทยาลัยเทคนิคในตัวเมืองหาดใหญ่  และวันนี้ก็อตก็กลับมาเยี่ยมโรงเรียนและเพื่อนๆ เมื่อได้ยินข่าวการรวมตัวของเพื่อนๆ เค้าที่เข้า ม. 4 และมาร่วมทำกิจกรรมกับรุ่นพี่คณะกรรมการฯ ในวันนี้  ว่าไปแล้วก็อตเค้าก็เคยเป็นเพื่อนกับหลานชายคนเล้กของครูแอนขณะที่เค้าสองคนอยู่ในโรงเรียนประถมฯ ด้วยกัน

เรานั่งคุยกันหลายเรื่อง.....โดยก็อตกับครุแอนนั่งที่ม้านั่งยาวหน้าสหกรณ์  และมีครูป้าจินนั่งตรงเคาเตอร์ขายของในร้าน ที่ห่างกันเพียงแค่กำแพงอิฐหน้าต่างคั่นกลาง  เราจึงนั่งคุยกันสามคน  แต่บทสนทนาส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่ครูแอนและเจ้าก็อต

บางเรื่อง..........

"ครู  น้อง ม.3 น้องแนนคนนั้น...นั๊นครู (พลางชี้ไปที่เด็กผู้หญิงชั้น ม 3/1 คนที่นั่งอยู่ใต้ถุนอาคารเรียนซึ่งไม่ไกลกับห้องสหกรณ์มากนัก) ถามผมล่ะครับว่า  ตอนที่ผมเรียนกับครูนั้นยากมั๊ย"

"อ้าว....เหรอ....แล้วผมตอบน้องเค้าไปไงล่ะ"

"ผมก็บอกว่ายากนะ  ตอนที่เรียนนั๊น  แต่พอตอนที่ต้องไปทำข้อสอบโอเน็ตนั้นจะทำได้  เพราะเจอไปจากของที่ครูแอนสอนแล้วเพ"

โอ....นี่ก็อตแกคิดแบบนี้เองเหรอเนี่ย  นี่เป็นอีกมุมความคิดหนึ่งในนักเรียนห้องที่ครูแอนเคยสอนมา  เพิ่งทราบความคิดเจ้าก็อตก็ตอนนี้เอง  ตอนที่เค้าจบจากเราไปเรียนต่อที่อื่นแล้ว

คุยกันไปพักใหญ่อีกหลากหลายเรื่องราว.....

เมื่อท้ายสุดก่อนที่บทสนทนาจะจบลงด้วยเสียงโทรศัพท์มือถือของก็อตที่ดังขึ้น  และก็อตก็ขอคุยโทรศัพท์กับเพื่อน  และเมื่อเสร็จสิ้นการคุยโทรศัพท์แล้ว  ก้อตหันมาบอกครูแอนว่า....

"ครูครับ  ผมกลับก่อนนะครับ  เพื่อนโทรมาตามแล้ว"

"อืม ตั้งใจเรียนนะก็อต  ไปอยู่ในเมืองน่ะ  เราไปเรียนนะ  ไปหาความรู้  ไม่ใช่ไปทำเรื่องแย่ๆ นะ  อย่าไปเล่นเรื่องยาและอย่าไปมีปัญหากับใครๆ นะ  อยู่ให้เป็นนะลูกนะ   อ้อ....แล้วอย่าลืมกลับมารายงานเกรดผมด้วยล่ะ  ตั้งใจเรียนเน่าะ"

"ครูครับ ผมขอกอดครูทีน่ะครับ  เมื่อวันปัจฉิมฯ ผมยังไม่ทันได้กอดครูเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ เลย  วันนั้น  ผมหันมาอีกที  ครูหายไปจากหอประชุมแล้ว นะครับครูครับ....(ว่าพลางก็อตก็กอดครูตัวเล็กกว่าแน่นไปแล้ว)....." 

"หือ...."  มีเสียงหัวเราะขำๆ เล็ดลอดออกมาจากครูป้าจินที่อยู่ในร้าน  เมื่อมองเห็นภาพนั้นได้ถนัดกว่าใครๆ  แม้กระทั่งเจ้าตัวต้นเรื่องและครูแอนเอง

ครูเองก็ไม่มีอะไรมากมาย......อายุที่เยอะขึ้นทำให้ครูกล้าที่จะแจกกอดให้กับลูกศิษย์มากขึ้น  หากเป็นก่อนนี้ที่เพิ่งเริ่มบรรจุที่โรงเรียนแรกนั่น  มิมีนักเรียนชายคนใดได้รับการแจกกอดจากครู  ยกเว้นเสียแต่นักเรียนผู้หญิง  นั่นอาจเป็นเพราะอายุที่ห่างกันไม่มากระหว่างครูกับลูกศิษย์ในสมัยนั้น  หากแต่ในตอนนี้ครูกล้าแจกกอดให้ลูกศิษย์มากขึ้นทั้งหญิงและชาย  อาจเป็นเพราะวัยที่ห่างกันมาก  ซึ่งเด็กๆ อาจจะเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานของครูไปแล้ว

อีกอย่าง....อาจจะเพราะยังจำคำพูดที่พ่อครูบาสุทธินันท์  เคยบอกครูแอนเมื่อครั้งที่เราพบกันนานแล้วบอกครูแอนว่ากอดเค้าเถอะลูก  ลูกศิษย์น่ะ  บางคนเค้าอยากจะได้รับการกอดเพราะเค้าอาจจะไม่เคยมีพ่อหรือแม่ที่จะกอดเค้า บางคนมีพ่อแม่  แต่พ่อแม่ไม่เคยกอดเค้าเลยก็มี  เราเป็นครูก็เป็นเหมือนพ่อเหมือนแม่เค้า  ไม่เสียหลายหรอกลูก...ให้ความรักความอบอุ่นเค้าได้จากการกอดนะลูกนะ 

และเมื่อวันปัจฉิมฯ ของโรงเรียนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา  เด็กผู้ชายม. 3 จอมป่วนหลายรายเข้ามากราบที่ตักครูแอน และมีคนแรกที่ขอกอดจากครูแอนคือเจ้าอ๊อฟ  และนั่นเป็นเหตุให้ครูแอนต้องแจกกอดให้เด็กๆ อีกหลายรายในวันนั้นเอง  จนเป็นเหตุให้เพื่อนเจ้าอ๊อฟแอบแชะภาพส่งมาทางเฟสให้ครูแอนเมื่อกิจกรรมปัจฉิมนิเทศเสร็จสิ้นลง 

และวันนี้...เจ้าก็อต......ก็เลยขอเหมือนเพื่อนๆ เค้าบ้าง....

 

 

 


 

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

เริ่มทำงานก่อนเปิดเทอมอีกนะเนี่ย....

เตรียมตัวเดินทางอีกแล้ว....ชีพจรลงเท้าอีกแล้วเรา

แต่คราวนี้....นักเรียน  10  คน  กับ   โครงการสำนึกรักบ้านเกิด....และครูแอนอีกหนึ่ง

ลุยกันเลยลูก  6 - 10  พฤษภาคม  2556

พรุ่งนี้ล้อเลื่อน....เจ็ดโมงเช้า....นะจ๊ะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

4  เมษายน  2556

วันนี้ญาติพี่น้องและชาวบ้านต่างมาพร้อมกันที่ป่าช้าของหมู่บ้าน  เพราะวันนี้เป็น.....วันว่าง...ที่ป่าช้า

เมื่อก่อนป่าช้าแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่เผาศพของปู่ย่าตายาย  แต่ปัจจุบันย้ายไปเผาที่เมรุในวัด

ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน  บรรดาลูกหลานต่างพากันมาทำความสะอาด, กวาด, ล้าง "บัว"--ที่เก็บกระดูกของปู่ย่าตายาย ให้สะอาดก่อนถึงวันว่าง

เราเชื่อว่าการได้มาทำบุญ ณ สถานที่นี้ปู่ย่าตายายของเราจะได้รับอานิสงส์แห่งผลบุญนั้นแล

ลูกหลานจึงต่างพากันมาจากทุกสารทิศเพื่อจุดหมายเดียวกันนั้นเอง....วันว่าง....ที่่าช้า....นั่นเอง 

แม้แต่ครูแอนเอง........ยังต้องวางแผนการเดินทางต่างๆ เพื่อให้มาทันวันว่าง....ที่ป่าช้า...ของหมู่บ้านนั้นแล

 




ความเห็น (3)

ว้าว ...น้องแอน พักนี้เกาะติดหน้าจอ น๊า  ดีจัง :)

อาจจะเป็นเพราะพี่กับพี่นายช่างฯ มังคะ....เลยทำให้หนูหวลคืนจอ  อิอิอิ

.......หนูบอกพี่แล้วไงคะ  ว่าหนูหายไปสองปีเลย  มันไม่สามารถจริงๆ  เรียกได้ว่า "จนด้วยเกล้า" ค่ะพี่หนูรี.....อิอิอิ

แต่ช่วงนี้ก็ยังไม่พร้อมที่จะถ่ายเทบันทึกออกมาสู่สาธารณะค่ะ

ให้เวลากับตัวเองอีกนิด...... เดี๋ยวก็คงมีบันทึกตามมานะคะ

ตอนนี้ก็เป็นแค่...อนุทิน...ไปก่อนนะคะ  Diary  ของหนูไงคะ

ขอบคุณค่ะพี่สาวคนเก่ง (แถมสวยด้วย)

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

3  เมษายน 2556

การตื่นนอนขึ้นมาท่ามกลางการปลุกของเจ้าตัวน้อยที่บินมาเกาะที่กอไผ่ไม่ไกลจากตัวบ้าน  ต่างพากันส่งเสียงจิ๊บๆ มาแต่ไกลมันช่างน่าอภิรมย์ยิ่งนัก  นี่สืถึงจะเหมาะสำหรับเป็นรางวัลให้กับชีวิตเหลือเกิน

นอนฟังเสียงเซ็งแซ่ราวกับพวกมันร่วมกันบรรเลงเพลงเป็นวงออเคสตร้าวงใหญ่ใกล้ตัวบ้านอยู่พักใหญ่ก่อนการเดินทางต่อไปตามใจอยากดู  อยากเห็น  ......

เริ่มต้นด้วย....ศูนย์หัตถกรรมกะลาลุงปลื้มที่ชัยบุรีสถาน ที่เคยเป็นเมืองเก่าในครั้งประวัตศาสตร์นั้น  และจับจ่ายข้าวของเครื่องใช้จากฝีมือคนท้องถิ่นที่สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศ  ทำรายได้เข้าประเทศได้เป็นอย่างดีอีกทางหนึ่ง

ครูแอนสังเกตเห็นป้ายชื่อเล็กๆ อันเป็นชื่อของเจ้าของผลงานที่ผลิตงานชิ้นนั้นๆ ออกมาติดอยู่ตามสินค้าแต่ละชิ้น  เลยถามไถ่ได้ความว่าชาวบ้านเค้าทำมาส่งที่ศูนย์แล้วขายร่วมกัน  เมื่องานชิ้นไหนของใครถูกจำหน่ายออกไปเจ้าของก็จะมารับเงินค่าตอบแทน  แน่ล่ะ...จะต้องมีการพัฒนาฝีมือแรงงานของตนเองอยู่ตลอดเวลาเป็นแน่  อย่างนี้สิ....เค้าเรียกว่า  เจ๋งจริง....

ออกจากศูนย์หัตถกรรมกะลาลุงปลื้มแล้ว  ไกด์จำเป็นเจ้าถิ่นบอกว่าพี่จะพาไปชมเขตเมืองเก่าชัยบุรี......ขับรถเวียนรอบขอบเขตป้อมปราการเมืองเก่าจนทั่วแล้ว  จึงขับเบี่ยงออกไปทางสันเขื่อนใหม่ที่ท่านเจ้าอาวาสเป็นคนริเริ่มพัฒนาให้เป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรของชาวบ้าน  แต่บรรยากาศบนสันเขื่อนสวยมากเหมาะแก่การส่งเสริมทางด้านการท่องเที่ยวของชุมชนด้วยเช่นกัน  เพราะด้านหนึ่งมีภูเขาใหญ่เป็นฉากหลัง  และเขื่อนอยู่หน้าภูเขาใหญ่ลูกนั้น

ในระหว่างที่เราชมเขื่อนอยู่  มีคณะทำงานจากทางเทศบาลตำบลชัยบุรีมาไถพรวนดินใกล้ๆ กันนั้น  เราจึงเตร่เข้าไปสอบถามเกี่ยวกับแผนการพัฒนาสถานที่นี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว  เพราะแอบเห็บเรือถีบสองสามลำลอยอยู่ขอบเขื่อนหน้าร้านอาหารเล็กๆ มุมหนึ่งของเขื่อน  ทางทีมงานจากทางเทศบาลตำบลเล่าว่าที่เขากำลังไถพรวนดินอยู่นี้เพื่อปลูกดอกไม้ ให้บานสะพรั่งรอรับการเปิดเขื่อนเป็นแหล่งท่องเที่ยวในวันที่  12  สิงหาคมที่จะถึงนี้  แถมยังมิวายชักชวนประชาสัมพันธ์ให้เรามาชมงานในวันดังกล่าวอีกแน่ะ 

ใกล้ๆ ภูเขาใหญ่ มีถ้ำน้ำด้วย  แต่....ทางคนทำงานไม่แนะนำให้เราไปชมเนื่องจากมีกันแค่สองสาว  เราเลยต้องพับโครงการถ้ำน้ำไว้ก่อน  รอโอกาสเหมาะกว่านี้คงได้ไปเยือน  อิอิอิ

การเดินทางแห่งมิตรภาพ.....ก็คงต้องจบด้วยมิตรภาพ 

เมื่อลาจากกับพี่สาวคนเดิมจากโรงเรียนเดียวกัน  จึงส่งเสียงแจ้วๆ ไปยังเพื่อนรุ่นน้องที่เคยพบเจอกันเมื่อครั้งคราที่เรียนที่มหาลัยสงขลานครินทร์ฯ ด้วยกัน 

และก็ไม่ผิดหวัง  เมื่อพบกันและพบว่ามิตรภาพยังคงเหมือนเดิมแม้จะจากลากันมาสักระยะหนึ่งแล้ว 

การได้พบเจอมิ่งมิตรที่ดีอีกกลุ่มหนึ่งระหว่างการเดินทางเพื่อชาร์ตแบตให้ตนเองในครั้งนี้ถือเป็นรางวัลและแรงใจให้มีพลังขับเคลื่อนในการทำงานภาคเรียนใหม่  กับลูกศิษย์กลุ่มใหม่ฉะนี้แล....

สู้ๆๆ  นะคนดี

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

2  เมษายน  2556

หลังจากรับประทานมื้อเช้าแล้วเสร็จ  คณะของนักเรียนและกลุ่มวิทยากรจากกองทัพเรือพร้อมกับสองครูผู้ร่วมสมทบในการทำกิจกรรมนี้ต่างพร้อมออกเดินทางไปยังแก่งหนานมดแดง.....ซึ่งสองครูก็ขับรถตามคณะนักเรียนไปเรื่อยๆ

เราต่างพบว่ามันคือเส้นทางผ่านหมู่บ้านเกาะร้าว (ซึ่งเป็นสถานที่ๆ เราเคยออกเยี่ยมบ้านเด็กๆ เมื่อครั้งที่เราสอนอยู่ที่โรงเรียนเก่า)  ผ่านลานข่อย  และสุดท้ายคือห้วยน้ำใส (สถานที่ๆ เราเคยนำนักเรียนในรุ่นที่เราสอนไปเข้าค่ายพักแรมลุกเสือเนตรนารี....แต่  ครั้งนั้นยังไม่มีใครเปิดธุรกิจล่องแก่ง) 

จากเส้นทางที่ผ่านเราพบว่ามีการล่องแก่งหลายจุดทีเดียว  ทั้งแก่งลานข่อย  แก่งทุ่งส้าน  และหนานมดแดง

เมื่อไปถึง....การจัดนักเรียนลงทำกิจกรรมโดยมีทหารเรือเป็นผู้ช่วยเหลือดูแลและร่วมรับผิดชอบในกิจกรรมต่างๆ เรียบร้อยลง  การเดินทางอีกรุปแบบที่สนุกสนานไม่แพ้กันก็เริ่มต้นขึ้น 

ระหว่างเส้นทางท่านวิทยากรจะสอนและบรรยายเกี่ยวกับพืชพรรณไม้ต่างๆ ที่ขึ้นอยู่ริมคลอง  เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนรักธรรมชาติและซึมซับความรู้สึกหวงแหนไม่คิดทำลายธรรมชาติ ในเชิงของการร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติตลอดระยะทาง  6  กิโลเมตร

สิ่งที่พบนอกจากความสนุกสนานที่นักเรียนจะได้รับแล้ว  นักเรียนยังได้รับองค์ความรู้อันเกิดจากการทัศนศึกษาจากสถานที่จริง  เป็นการเรียนรู้ที่สนกและสามารถสอดแทรกความรู้, ความรู้สกของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

นี่เองกระมัง....ที่เค้าเรียกว่า  สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น.....สองครูเลยพลอยพ่วงอานิสงส์จากเด็กนักเรียนไปด้วยแท้ๆ

เมื่อกิจกรรมแล้วเสร็จ.......คณะนักเรียนก็กลับมายังที่พักที่เรือนไทยเพื่อออกเดินทางกลับภูมิลำเนาซึ่งมีคณะนักเรียนมาจากหลายโรงเรียน  ล้วนแล้วแต่มีโรงเรียนอยู่ในละแวกที่เป็นที่ตั้งของแหล่งต้นน้ำสำคัญๆ ในท้องที่นั้นๆ

แต่......สองครูยังไม่กลับ

สองครูจึงขอทำหน้าที่ทดสอบความอร่อยจากร้านกาแฟ กม. 52 ของหลานๆ ลูกของท่านหัวหน้าหมวดเก่าของเราก่อน   และจึงร่ำลากันเพื่อเดินทางกลับไปพักค้างคืนที่บ้านครูพี่สาวที่ไปรับในตอนต้นของการเดินทางในครั้งนี้ตามคำร้องขอของพี่เค้าในตอนเย็น....นั่นเอง

หลังจากมื้อค่ำอันโอชะผ่านไป  และความเงียบสงัดของยามค่ำคืนเข้ามาเยือน

เราจึงเริ่มสลบไสลอย่างหมดแรงด้วยความอ่อนแรงจากกิจกรรมเมื่อกลางวันที่เล่นเอาเราเมื่อยไหล่และกล้ามเนื้อแขนกันไปตามๆ กัน

เราเอ่ยลาราตรีสวัสดิ์....กับยามค่ำคืนในบ้านกลางทุ่งนา  ใต้เงาจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาถึงห้องนอนของพี่เค้า 

โอ...มันน่าอิจฉาพี่เค้าชะมัดกับการดื่มด่ำกับบรรยากาศสะอาดๆ ที่ช่างยวนใจแถมได้แนบชิดธรรมชาติกระไรเช่นนี้..........อิอิอิ



ความเห็น (2)

มันเป็นการเดินทางที่ไม่เร่งรีบ  เราเลยได้สัมผัสธรรมชาติแบบเต็มๆ  ไปกอดธรรมชาติจนอิ่มแปล้ทีเดียว
แรกสุดก็ไม่ได้คิดว่าจะออกมารูปนี้  แค่หวลกลับหลังไปพบพานคนเก่าแก่ที่เคยรู้จัก

แค่ได้ไปเยี่ยมลุงน้อย-ป้าอ้อย และพี่ๆ อีกหลายคน

พอไปถึง  เมื่อได้พบหน้า  เลยสัมผัสได้ว่าอ้อมกอดอบอุ่นของคนเคยรู้จักยังอ้าแขนรับเราอยู่เสมอ

หลายคนบอกน้องแอนยังเหมือนเดิม  ลุกแอนนี่กี่ปีๆๆ ก็ไม่เคยเปลี่ยน  เสียงจากลุงเชียรนักการภารโรงที่คอยสอนวิธีการโรเนียวข้อสอบกับเครื่องที่ต้องหมุนๆๆ และก็หมุน  ในสมัยก่อนโน้นที่ยืนอยู่ข้างๆ เมียแก-ป้ารวย  บอกเช่นนั้น

เจอะ เจอชาวบ้านที่เคยรู้จัก  เขายัยิ้มทักได้สนิทใจเช่นเคย

ท้ายสุด....ทุกครั้งของการไปไม้เสียบ

จะต้องขับรถไปเวียนรอบโรงเรียนเกาะขันธ์ประชาภิบาล  แค่ให้ได้ไป  ให้ได้เห็นโรงเรียน  เห็นบ้านพักที่เคยอยู่  เห็นอาคารเรียน  เห็นถนนภายในโรงเรียนที่เคยมาปูเสื่อนอนดูฝนดาวตกกับพี่ๆ

แค่นี้ก็สุข....สราญแล้ว  ขจิตเอ๋ย

แต่ทั้งหมดนี้จักต้องไปเส้นทางรถยนต์ผ่านถนนเอเซีย....ซึ่งขจิตมิเคยได้ผ่านไปไงจ๊ะ....เพราะต้องอาศัยเครื่องตลอดนี่เนาะ

 

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

การเดินทางต่อใน...........ส่วนที่สอง........

ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นแล้ว  สำหรับระยะทางที่เหลือ   ด้วยระยะทางไม่ไกล  ควนขนุน-ไม้เสียบ  และพลขับเองก็คุ้นชินเส้นทางนี้เป็นอย่างดีเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมาก่อนหน้าโน้น  กับชีวิตบนรถประจำทางหาดใหญ่-นครศรีธรรมราช

เมื่อเลี้ยวเข้าสู่โฮมสเตย์เรือนไทยทักษิณา  จอดรถปุ๊บเราสองคนก็เดินไปด้อมๆ มองๆ หาเจ้าของเรือนไทยที่ชื่อครูน้อยและครูอ้อยของอดีตเหล่าลูกศิษย์และชาวบ้านละแวกนี้

พอเดินไปทางหอประชุม  เสียงตะโกนจากเด็กๆ เรียก "ครูแอนๆๆ"  เอ....อดีตลูกศิษย์เราละแวกนี้ก็ไม่น่าจะเสียงใสขนาดนี้แล้วนะ  น่าจะอายุเลยยี่สิบกันหมดแล้ว  ไหงเสียงใสแปลกๆ  หันไปมองทางต้นเสียงโหวกเหวกนั่น......

อ้าว.....นั่นมันเด็กๆ จากโรงเรียนเทพานี่นา  แล้วเค้าก็วิ่งมาสวัสดีกันเจี๊ยวจ๊าวไปหมด  บ้างก็ถามว่าครูตามหนูมาเหรอ  ครูมาได้ไง......ซึ่งทั้งหมด  ครูก็งงเหมือนกันลูก  เฮ้ย....มาได้ไงเนี่ย.....ครูไม่รู้ว่าหนูมากันที่นี่  ครูมาจากมหาลัย  และครูก็ไม่รู้ว่าหนูมากับโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับทหารเรือในวันนี้และเค้าพากันมาที่นี่  เลยกลายเป็นว่า......มาเจอลูกศิษย์ปัจจุบันในละแวกถิ่นลูกศิษยเก่าซะงั้น

เสียงวิทยากรเรียกเด็กๆ แล้ว  ........  สองครูเลยเดินตามหาเจ้าของเรือนไทยต่อไป  จนมาเจอที่ครัวและเรือนมังคุด  พี่น้องกอดรับกันด้วยความดีใจ  ก่อนที่จะโทรบอกกล่าวถึงการมาของน้องๆ ไปยังเพื่อนครูท่านอื่นๆ ที่เออร์ลี่ไปแล้วบ้าง  ที่ยังสอนอยู่บ้าง  ไม่นานนักเหล่าพี่ๆ ครู ก็พากันมายังเรือนไทย 

เมื่อเรารวมตัวกันนั่งพุดคุย  ออกแนวย้อนรำลึกความหลังกับวีรกรรมของใครต่อใครที่เคยเป็นคนคุ้นเคยในครั้งเก่าก่อนที่เคยสอนอยู่โรงเรียนเดียวกัน  จนเวลาล่วงเลยมามืดค่ำ

ในขณะที่เด็กๆ และวิทยากรทหารเรือ ก็กำลังทำกิจกรรมกันในหอประชุม

ไม่นานนัก....เสียงโทรศัพท์....จากลูกศิษย์เก่าคนหนึ่งดังขึ้น   แจ้งว่ามีคนบอกว่าเห็นครูเข้ามาที่เรือนไทย  ผมกำลังจะชวนเพื่อนไปเยี่ยมครู  ด้วยไม่ได้เจอกันมายาวนาน

แล้วเจ้าศิษย์เก่าคนเดิม......ก็ขับรถพาเพื่อนมาอีกหนึ่งคน  เพื่อมาเยี่ยมครูเก่าของเค้า 

ชื่นใจ....เมื่อเห็นพวกเค้ายังระลึกนึกถึงเราอยู่  เลยแจกกอดของครูแห่งความรักศิษย์ให้ไปโดยมิหวงแหน

ชื่นใจ....เมื่อทราบว่าเค้ามีหน้าที่การงานที่มั่นคง

ชื่นใจ....เมื่อทราบว่า เค้าเป็นคนดี

ชื่นใจเข้าไปอีก....เมื่อทราบว่าหนึ่งในนั้นมีอาชีพเดียวกับครูเค้า

เด็กสองคนนั้นเลยเข้าร่วมวงสนทนาร่วมกับครูพักใหญ่  จนดึกพอประมาณจึงขอตัวร่ำลากลับบ้าน

ที่เหลือคือ.......วงสนทนาเดิมกับความคิดถึงและห่วงใยที่มีให้กันเสมอมา

แอบมีติดตลกจากพี่ชายคนเดิมคนหนึ่งว่า ....นี่ดีนะที่น้องแอนมา  พวกพี่ๆ เลยได้มารวมตัวกันหล่าว....คงเหงาเพราะเออร์ลี่มาหลายปีแล้ว  คงเริ่มคิดถึงเพื่อนเก่าๆ

ระหว่างนั้น.......กิจกรรมของเด็กๆ เสร็จสิ้นลง  ป้าอ้อยเจ้าของเรือนไทยที่เดินไปพบแขกเดินเข้ามาบอกว่า "ลุงนัย  ครูที่โรงเรียนหนูอยากเจอหนูน่ะ"

ครูแอนเลยเดินไปหาลุงนัย....

ลุงนัยบอกไม่มีอะไรหรอก  .....  "แค่จะชวนไปล่องแก่งด้วยกันกับเด็กๆ ในวันพรุ่งนี้  สนใจไหม"

"สนซิคะลุง  สุดๆ ไปเลย  ไม่คิดแผนการนี้มาก่อนเลยนะคะ   มันเป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดหวังมาก่อนด้วยว่าจะไปล่องแก่ง  แต่กลับเป็นสิ่งที่วิเศษสุดสำหรับโปรแกรมในวันพรุ่งนี้เลยล่ะค่ะลุง  พรุ่งนี้เจอกันนะคะ.....ขอบคุณค่ะ......."

 


 



ความเห็น (2)

สนุกน่าดูทีเดียวค่ะ  กับการล่องแก่งในวันรุ่งขึ้นของการเดินทางในครั้งนี้

ขอบคุณนะคะ คุณ Bright Lily

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

@....บันทึกการเดินทางแห่งห้วงเวลา....กับ....การคืนกลับถิ่นเก่า.....@

1  พฤษภาคม  56

ออกไปหาซื้อของฝากคนสนิทที่คิดถึง....บรรดาพี่ๆ แห่งเกาะขันธ์ประชาภิบาล....โรงเรียนแห่งแรกที่บ่มเพาะความเป็นครูให้ชีวิตครูแอนมาจวบจนบัดนี้ 

ในที่สุด...ครูแอนก็หอบหิ้วขนมจากตลาดกิมหยงออกมา  2   ถุงใหญ่ๆ (ใหญ่มากๆ)

และแล้ว.....การเดินทางตามใจตน.....ก็เริ่มต้นในตอนบ่ายแก่ๆ ด้วยเหตุผลที่ให้กับตนเองว่า "ไปชาร์ตแบตให้กับตัวเองเถอะนะเจ้า.....จะเปิดเทอมแล้ว....ไม่มีเวลามากนักนะ....ไปเถอะ  ไปชาร์ตพลังให้ตัวเองเพื่อรับมือกับเทอมใหม่  กับเด็กๆ ชุดใหม่ที่จะเข้ามาในชีวิตเรา"

โทรศัพท์นัดหมายพี่สาวคนควนขนุน จังหวัดพัทลุงอีกคนที่เคยอยู่ด้วยกันมาที่โรงเรียนแห่งนี้....ว่าน้องสาวจะไปรับนะคะ  จะได้ไม่ต้องเอารถไปสองคัน  มันเปลืองโดยใช่เหตุน่ะพี่....

เกือบ....ห้าโมงเย็นแล้ว.... เจ้าคนหลงตลอดยังมาไม่ถึงสักที  พี่ที่นัดหมายคงเริ่มร้อนใจ  มิวายส่งเสียงตามสายมาถามไถ่ว่า...แล้วหนูจะเข้ามาบ้านพี่ถูกหรือนี่  ขนาดพี่หนุ่ย(คนพัทลุง&เพื่อนสนิทพี่เอง)ยังหลงตลอดนะจ๊ะ

ไอ้ที่จะยอมถอยกลับไปหาความตั้งใจของพี่เค้าที่เธอจะเอารถออกมาเองนั้นคงยาก....อุตส่าห์มาไกลตั้งเก้าสิบกว่ากิโลฯ แล้วนะเนี่ย  ลุยต่อเถอะ....

เมื่อความตั้งใจมุ่งมั่นมาถึงที่สุด....กับฉายา  "หลงตลอด"  ที่มีมาเก่าก่อน  มันอาจจะดูดีขึ้นมาในนาทีนี้ก็เป็นได้  เลยแจ้งความจำนงในเจตนาที่จะไปรับด้วยตนเองดังเดิม  และก่อเกิดเป็นพลังขับให้พลขับหลงตลอดขอทดลองดูสักตั้ง  เพียงขอให้พี่เค้าบอกทางมาเรื่อยๆ ....

"หากหนูมาถึงป้ายบ้านสะพานไทร  เลี้ยวขวาตรงตู้โทรศัพท์สาธารณะนะน้อง  เข้ามาเรื่อยๆ ผ่านสะพานแรกห้ามเลี้ยวนะ  ขับตรงมาเลย  จนมาถึงสะพานที่สองตรงบ้านศาลาเณร  จะมีทางแยกเล็กๆซ้ายมือที่เลยสะพานเลี้ยวเข้ามาเลยน้อง  พี่จะไปรออยู่หน้าบ้าน.....อ้อ....เดี๋ยวพี่จะโทรหาเรื่อยๆ นะ  ห้ามลงถามทางใครนะ  โดยเฉพาะผู้ชายนะอีหนู  ผู้หญิงไม่เป็นไร  มันเริ่มมืดแล้ว  พี่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าหนูเป็นคนต่างถิ่นน่ะ  แต่เดี๋ยวพี่จะโทรบอกหนูเรื่อยๆ ละกัน  ตามนี้นะ......."

แล้วการผจญภัยต่างถิ่นในชั่วโมงนี้ก็เริ่มอาการตื่นเต้นเล็กๆ ในทันที

ในที่สุดการส่งเสียงจากพี่สาวคนเดิมก็แว่วมาเรื่อยๆ เพื่อให้น้องสาวบอกตำแหน่งที่ขับผ่าน....

จนกระทั่ง....ปลายเสียงเจื้อยแจ้วมาว่า  "พี่เห็นรถหนูแล้วนะ  ขับตรงมาเลย บ้านพี่อยู่ก่อนถึงสะพานนะ  หลังเดียวโดดๆ กลางทุ่งนาเนี่ย....

เย้.....ในที่สุด....ฉายา"หลงตลอด" ของฉันก็ถูกทำลาย  ลบสถิติเก่าก่อนได้เป็นอย่างดี

บรรยากาศท้องทุ่งนาของบ้านพี่เค้าดีมากๆ อากาศสดชื๊น.....สดชื่น (เกือบจะบอกพี่เค้าไปแล้วว่า....ระหว่างทางมาบ้านพี่เนี่ย......ถ้าพี่เค้าไม่ห้ามไว้ก่อน  ก็เกือบไปแล้วนะ  เกือบแวะลงจอดข้างทางเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศเขียวขจีนี่แหละ  ด้วยภาพต้นกล้าเขียวของต้นข้าวต้นเล็กๆ เต็มท้องทุ่งนี่แหละ  มันช่าวยวนตายวนใจเหลือเกิน) แต่เราก็จอดได้ไม่นาน  เพียงแค่รับพี่เค้า  แล้วก็พากันขับรถต่อไปอีกไม่ไกล  เพื่อไปบ้านพ่อและแม่ของพี่เค้าที่อยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง 

แล้วเราก็ร่ำลาพ่อกับแม่เพื่อออกเดินทางต่อใน...........ส่วนที่สอง........

ก็โอเคแล้ว......ตอนนี้สำเร็จไปแล้ว.....เปลาะนึง อิอิอิ

แต่ครานี้มีคนร่วมเดินทางด้วยแล้ว......จุดมุ่งหมาย  คือ  เรือนไทยทักษิณา  โฮมสเตย์ของอดีตหัวหน้าหมวดเรา (ที่เคยมีกันแค่สามคนนี้เท่านั้นแหละทั้งหมวด....อิอิอิ...) เธอช่างเป็นหัวหน้าหมวดที่เฝ้าเพียรโทรนัดหมายเรียกพวกเราน้องๆ ให้มาเยี่ยมโฮมสเตย์ของเธอบ้าง....เดี๋ยวเราจะไปหาเธอกัน.....

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

เมื่อวานนี้.....วันสุดท้ายของเดือนเมษาพาเพลิน

พี่นายช่างใหญ่   ส่งเสียงแว่วมาบอกฉันว่าพี่มาถึงหาดใหญ่แล้วครับน้อง 

^_^   ดีใจจังหู้....คนบ้านเดียวกั๋น.....พ็อบกั๋นกะหายคิดถึงแล้วพี่บ่าวเห้อ ^_^

เมื่อพี่บ่าวเข้าประชุม.......

น้องสาวเห้อก็เริ่มออกเตร็ดเตร่ตะลอนหาดใหญ่ไปเรื่อยๆ ระหว่างรอ

ระหว่างนั้นโทรหาพี่นกทะเลแล้วนะคะ.....เสียดายนิดเดียวที่เราโทรกันแบบฉุกละหุกไปหน่อย  ไม่งั้นได้เจอพี่นกทะเลอีกคน  แต่ก็ไม่เป็นไร.....เพราะพี่นกติดธุระต้องนำพาคุณแม่ไปคลองแงะโน่น

เมื่อพี่บ่าวประชุมเสร็จ........

เราก็กำลังจะไปทานมื้อค่ำกัน  พอดี๊....นึกถึงพี่หนูรี    สาวคนเก่งด้านอาหารใน G2K  ที่พี่บ่าวเล่าว่า.....มาครั้งก่อนพี่ได้เจอกับพี่หนูรีด้วย  เลยแอบโทรส่งเสียงหาพี่หนูรีในทันทีทันใด 

เธออยู่บ้านอีกต่างหาก...."จะมามั๊ยคะ .... จะได้รู้จักบ้านกันไว้"  แล้วจะช้ากันอยู่ใย   เร่งไปตามใจสั่งมา

ระหว่างทาง......สองพี่น้องขับคลำทางกันไปเรื่อยๆ ตามที่พี่หนูรีแจ้ง  และแล้วเราก็ขับเลยไปจนได้...... เรียกได้ว่า "หลงตลอด"

"วกกลับมาน้อง" ..... นั่นแหละ....ถึงทางแยกแล้ว....เราจะไปทางไหนล่ะท่านพี่ 

เสียงเจื้อยแจ้วดังแว่วมาอีก........."เห็นคนที่เดินกางร่มไหมคะ  ตามเขาเข้ามาเลยค่ะ"

"พี่บ่าว....แล้วพี่หนูรีรู้ได้ไง".....!!!!???!!!!!....."ว่ามีคนกางร่มระหว่างทางนิ"......

ขับตามสาวที่เหลืออยู่น้อยเข้าไปจนหายสงสัย  เธอออกมายืนรอรับอยู่หน้าถนน  ตรงหน้าบ้านของเธอ

เห็นหน้าแต่ไกล....แม้ไม่เคยเห็นภาพในหน้า G2K  ณ  ปัจจุบัน แต่ภาพเก่าเมื่อตอนที่พี่เค้าเข้ามาใน G2K ใหม่ๆ ยังตรึงใจ....ใช้แล้ว  หน้าตานี้เลย  พี่บ่าวก็การันตี  มิมีผิดคน

เมื่อมหัศจรรย์ G2K เกิด "วงสนทนาแห่งความเป็นมิตร" ก็เริ่มต้น ณ บัดนั้นจวบจนราตรีกาลเข้ามาเยือน ณ บ้านทรงไทยและสวนชื่นสุข 

มหัศจรรย์  G2K  อีกแล้วค่ะ........

มหัศจรรย์แห่งรัก...(ของน้องพี่)...ของ G2K

 




 



ความเห็น (1)

คิดๆ อยู่ ว่า จะประกาศ ขายบ้านด่วน และเปลี่ยนเบอร์  ...ฮา ..

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

ภาคเรียนนี้....

ฉันดีใจที่มีคาบโฮมรูมกลับมา  มีเวลาตั้งหนึ่งคาบที่ฉันสามารถจะจัดการอบรมเด็กๆ ในที่ปรึกษาของตัวเองได้อย่างเต็มที่  ไหนๆ ตัวฉันก็ไม่มีโอกาสได้สอนห้องเค้าอยู่ด้วย  พวกเค้าอยู่ ม.2  แล้ว  เทอมสองด้วย  หัวเลี้ยวหัวต่ออีกต่างหาก  ถ้าเค้ามีปัญหา...เค้าจะยิ่งห่างพ่อแม่มากขึ้นในวัยนี้  เพื่อนคือคนสำคัญสำหรับเค้าทีเดียว

ดีจัง....เทอมนี้ฉันได้คาบนี้มาสอนเค้า....ทักษะชีวิต....นี่แหละที่ฉันอยากให้มันเกิดมีในตัวเด็กๆ พวกนี้



ความเห็น (1)

ดีจริงๆ ครับ อืมม... ที่จริงแล้วระดับมหาวิทยาลัยก็น่าจะมีชั่วโมงโฮมรูมครับ การเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาในระดับมหาวิทยาลัยได้ทำงานแค่เซ็นต์ใบลงทะเบียน ใบถอนวิชา และใบขอทุน เท่านั้นเองครับ

  • ขอบคุณ ดร.ธวัชชัยค่ะ
  • ครูแอนหายไปนาน  แต่ยังจำท่านอาจารย์ได้เป็นอย่างดี
  • ในระดับมัธยม....มีปัญหาเยอะกว่านั้นค่ะ  กับวัยรุ่นพวกนี้
  • ยิ่งมีคาบเหล่านี้  เราได้พูดคุยกันมากขึ้นค่ะอาจารย์
  • ขอบคุณค่ะ
Lioness_ann
เขียนเมื่อ

ที่ประหลาดใจยิ่งกว่า  เมื่อ....มีเด็กน้อย ม.1/4 ตัวอ้วนๆ คนนึง ที่ครูแอนเองก็ไม่ใช่ที่ปรึกษาของเค้าชื่อ..เจ้าเวย์  คุยข้ามแถวมาที่ครูแอนในตอนเช้าว่า "แม่แอน..ของพี่เวิร์ล....ผมจะเรียกครูว่า...แม่แอน...ด้วยให้เหมือนที่พี่เวิร์ลเรียก"  "อ้าว..."  อะไรล่ะเนี่ย   เลยถามไปถามมาได้ความว่าเป็นน้องชายคนสุดท้องของเจ้าเวิร์ลลูกศิษย์ตัวอ้วนที่สุดในชีวิตของครูแอน  แถมเจ้าเวิร์ลนี่ก็ไม่ใช่ลูกศิษย์ในที่ปรึกษาด้วยอีกต่างหาก  แต่เราก็เป็นครู-ศิษย์กัน  ครูแอนสอนภาษาอังกฤษเจ้าเวิร์ลมา  2  ปีเต็มๆ จนเค้าจบชั้น ม.3  นี่คงจะไปเล่าอะไรๆ ไว้เยอะให้พ่อน้องชายตัวอ้วนเกือบๆพอกันฟังเป็นแน่แล้ว  เลยออกมารูปนี้แหง๋ๆ

แต่ก็เอาวะ " แม่แอนของพี่เวิร์ล"  กับ "แม่แอน (ของไอ้เวย์)" เอาไงก็ว่ากันมา

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว  แต่ก็น่ารักดีแฮะ คิคิคิ



ความเห็น (6)

ถ้ายอมให้เรียกตั้งแต่สิบปีที่แล้วป่านนี้ก็ชินไปนานแล้วววววว อิอิ น่ารักดีออกเด็กนักเรียนเรียก "แม่" แสดงว่าอาจารย์ได้ใจเค้าไปเต็ม ๆ เลย มันอาจจะเป็นเรื่องง่ายที่เราจะขอความร่วมมือจากเค้าในบางเรื่อง  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน+เรื่องกิจกรรม  ^________^ 

ฮึ๊ย...ขืนให้เรียกตั้งแต่สิบปีที่แล้ว...ตั้งแต่ตอนที่ครูยังเป็นวัยรุ่นเนี่ยนะ....อึ๋ย...ไม่ได้ฟิลเลยว่ะ

อีกอย่าง...มันคงดู "แก่" ไปมั๊ง 55555 (เนี่ย...เหตุผลหลัก อิอิอิ)

อาจารย์สบายดีไหมค่ะ สอนอยู่ที่ไหนแล้ว น้องกาลตื่นเต้นมากเลยนะเนี่ยมือสั่นพิมพ์ไม่ถูกแล้วนิ

  • สบายดี  ชะอุ่ม  เอ๊ย
  • เราล่ะ  อยู่ที่ไหน  เป็นไกด์เหรอเนี่ย
  • ว๊าว.....น่าสนุกจัง...ครูยังนึกสนุกด้วยเลยนะเนี่ย....เจ๋งๆๆ...
  • วันหลังครูเชิญเรามาคุยให้น้องๆ ฟังบ้างได้มั๊ยล่ะเนี่ยชะอุ่ม
  • เอาเป็น...หัวข้อ....เกี่ยวกับความสำคัญของภาษาอังกฤษที่เรายึดเอามาเป็นอาชีพน่ะ
  • จริงๆ นะเนี่ย....ตั้งใจชวนมาเป็นวิทยากรเลย....
  • ที่โรงเรียนที่ครูสอนอยู่ตอนนี้แหละ...โรงเรียนเทพา...น่ะ
  • ขอบใจ....ที่ยังจำกันได้อยู่....ขอบใจจริงๆ ออกจะเป็นปลื้มนะเนี่ย
  • เมื่อรู้ว่าลูกศิษย์ได้ดีแล้ว....
  • ขอบคุณมากค่ะ ไม่ต้องชมมากก็ได้ทางนี้จะลอยลงทะเลแล้วค่ะ 
  • ตอนนี้ทำงานอยู่บริษัท Unseen Excursion อ่าวนาง กระบี่ค่ะ สนุกมาก ๆ my style เลย แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเบื่อตอนไหน อิอิ
  • ส่วนหัวข้อน่าสนใจ น่าเอาไปศึกษาทำภาคนิพนธ์ ทางการสุด ๆ จะไหวหรอค่ะ หมายถึงกาลเนี่ย
  • ตอบรับคำเชิญค่ะ อาจารย์กล้าเชิญน้องกาลก็กล้าไป ว่าแต่อาจารย์พูดจริงหรอ?
  • จะให้เคลียร์งานเลยไหม? กี่วันบอกมาค่ะ 5555
  • ขอเบอร์อาจารย์หน่อยน่ะค่ะ ว่าง ๆ จะได้เข้าไปเยี่ยมที่บ้าน ส่วนนี่เบอร์น้องกาล 
  • 087 836 9635 ตึ้ดมาน่ะค่ะ น้องกาลจะได้ save เบอร์อาจารย์ไว้ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
Lioness_ann
เขียนเมื่อ

เมื่อเด็กๆ ม.5  ผ่านไป  ครูแอนก็ยังเดินออกไปไหนไม่ได้ไกลนัก  เจ้า ม.4  อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งก็เป็นลูกๆ ในที่ปรึกษาปีที่แล้วเหมือนเดิม  เดินมากับพลพรรคอีกกลุ่มใหญ่  พร้อมดอกพุดมาลัยคล้องมือช่อใหญ่พอตัวที่เรียงร้อยมาอย่างน่าเอ็นดู  พร้อมกับขอให้ครูหยุดนั่งลงอีกครั้งบนเก้าอี้ใต้ถุนอาคารตัวเดิม  แล้วก็มอบพวงมาลัยคล้องมือพวงน่าเอ็นดูพวงนั้นให้แก่ครู  ที่ประทับใจครูยิ่งกว่ามาลัยคล้องมือพวงนั้น...เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดบอกครูแอนว่า " ครูครับ...ผมร้อยเองเลยนะครับ....เมื่อวานนี้ "

แสดงถึงความตั้งใจจริงของเค้าเลย.....ขอบใจมากลูก ครูเลยแทนคำขอบใจด้วยคำอวยพรที่พรั่งพรูจากครูสู่ศิษย์...เหมือนกับที่  2  กลุ่มก่อนหน้านี้ได้รับไปเฉกเช่นเดียวกันเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้าพวกเค้า ขอบใจนะลูก...ที่ยังไม่ลืมครู



ความเห็น (2)

แอนคะ พี่รุ่งก็คือพี่แจ๋วไงคะ แอนเห็นภาพของพี่แล้วจำได้มั๋ยคะ

อ้าว....เหรอคะ....พี่แจ๋ว

หวัดดีค่ะ

แอนซื่อบื้อจังก่อนนี้แอนไม่ได้ดูเลยว่าพี่รุ่งก็คือพี่แจ๋ว

โทษทีค่ะพี่

พี่แจ๋ว...แอนน่ะเซฟเบอร์พี่แจ๋วไว้แล้วค่ะ ไว้ค่อนโทรคุยกับน้าเฉี้ยงน้าผันบ้างนะคะ

พี่แจ๋วสบายดีนะคะ

คงสนุกกับงานน่ะค่ะ

แอนกำลังมึนดีเลย....กับการเรียนต่อโทน่ะค่ะ....อิอิอิ....เพิ่งนึกได้....ว่าจะเรียนเลยเพิ่งเรียนน่ะค่ะ

หนำซ้ำโดนที่บ้านดังเรื่องให้เรียนก่อนนี้แล้วไม่เรียน อิอิอิ ทำไงได้ล่ะคะ ตะก่อนสนุกกับเด็ก กับชาวบ้านเพลินไปหน่อย

พี่แจ๋วสบายดีนะคะ

น้องแอน

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

9  มิ.ย. 54

วันนี้เป็นวันไหว้ครูที่โรงเรียน  เด็กๆ ตั้งใจทำพานกันมาด้วยใจจดจ่อ

อย่าง ม.1/3 ห้องครูแอนที่แม่เค้าติดอบรม  2  วัน  แต่เค้าก็ได้แม่เค้าอีกคนคือ น้องครูโต้งช่วยดูแลให้  ก็ออกมาเป็นรูปร่างที่สวยงามสร้างสรรค์เหมือนกันแฮะ...ไอ้ตัวกะเปี๊ยกของชั้น...ทำกันได้เหมือนกันนะเนี่ย...

เสร็จพิธี....ครูแอนมายืนคุยกับคุณครูอีก  2  ท่านเรื่องที่ไปอบรมมา  เหลือบไปเห็นกลุ่มลูกศิษย์เก่าปีที่แล้วส่งสายตาให้ครูรีบๆ จบการสนทนาโดยไว  ว่าแล้วครูแอนก็แพ้ภัยสายตาเหล่านั้น  เดินเลี่ยงออกมาอย่างเสียมิได้  เจ้ากลุ่มลูกๆ ปีที่แล้วกลุ่มใหญ่ก็กรูกันเข้ามาไหว้ครูเก่าจนทำให้ครูปลาบปลื้มเป็นล้นพ้น  บ้างขอกอด...  ก็ได้กอด  กอดครู...ที่เป็นเหมือนแม่คนที่ 2 ในชีวิต  เดินต่อมาอีกหน่อย  เด็ก ม.5  กลุ่มลูกศิษย์เก่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว  เข้ามาสกัดด่านเชิญครูนั่งก่อน  แล้วพวกเค้าก็นั่งลงบนพื้นกราบครูจนทำเอาครูเองก็เกือบน้ำตาร่วงด้วยอาการดีใจที่เค้ายังไม่ลืมครูคนเก่าคนนี้   



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

....เมื่อใจเค้ามา...เค้าเลยพาตัวเค้ามาหาครูแอนในวันนี้เลย  ในคาบว่างที่ครูแอนนั่งทำงานไปเรื่อยใต้ถุนอาคารเรียน...ยกกันมาทั้งกลุ่มเลย 7 - 8 คนจากห้อง3/3 มาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเกริ่นนำใดๆ อีกแล้ว  ยิงคำถามไม่ยั้ง...ที่ตนเองอยากรู้ "ตอนครูเด็กๆ ครูทำยังไงถึงเรียนภาษาอังกฤษเก่งง่ะคะ" "ครูเรียนที่ไหนคะ...ตอน ม.ต้น"  "ครูเริ่มชอบภาษาอังกฤษได้ยังไง" "....ฯลฯ...." สุดท้ายก็มาจบตรงที่เค้าระบายความในใจให้ครูฟังอย่างหมดเปลือก "ครูขา...หนูเป็นพวกเรียนรู้ช้าน่ะค่ะ  เพื่อนมันยังว่าเลย  เค้าเข้าใจกันไปหมดแล้ว  หนูยังซื่อบื้ออยู่เลย  หนูอยากอ่านอังกฤษออกแบบคล่องๆ น่ะค่ะ ...แล้วหนูจะเริ่มยังไงดีคะกับการที่จะทำให้หนูอ่านอังกฤษเก่งขึ้นบ้างคะ" เราเลยมาเริ่มกัน...ด้วย "คำศัพท์เพียงคำเดียว" ที่เจอในหนังสือตรงนั้นนั่นเอง  ประกอบกับตารางเทียบเสียง สระ-พยัญชนะ ภาษาอังกฤษ-ภาษาไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน  ให้เค้าลองเทียบดูก่อน....เออ...เค้าก็เริ่มทำได้ ทีนี้ก็ชวนเค้ามาตรวจสอบคำอ่านที่ถูกต้องกับดิกชันนารี ฉบับ Oxford ทีมีบอกเสียง Phonetics



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

และแล้ว...วันนี้...เหตุการณ์ใกล้เคียงกับเมื่อวาน  แต่เป็นเด็กผู้หญิงอีกห้องนึง...เดินมาหาครูแอนถามครูแอนว่า "คาบ 9  วันพุธครูว่างมั๊ยคะ"  "ทำไมลูก"  "หนูมีคาบซ่อมเสริมว่างคาบนี้แหละค่ะ...หนูอยากให้ครูช่วยสอนซ่อมเสริมให้หนูกับเพื่อนๆที่สนใจอยากอ่านอังกฤษออกน่ะค่ะ"....."โอ...เราว่างตรงกันเลย...งั้น...ได้เลยลูก...สบายมาก"

ใจมาแล้ว....เย้...สำเร็จ... ณ...วันนี้...หลังจากการสอบอ่านออกเสียงผ่านไป...

เด็กๆ เค้าค้นพบตัวตนของเค้าแล้ว(ในวิชาภาษาอังกฤษ)...เค้ารู้แล้วว่าเค้าต้องซ่อมจุดไหนในตัวเค้าที่เป็นปัญหาของตัวเค้าเอง....

ทีนี้...ก็ลุยได้เลย...ครูแอนเอ๋ย....เค้าเปิดใจแล้ว....



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบสอบวัดพื้นฐานของนักเรียนปีการศึกษาใหม่ด้านการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษในห้องสอนที่รับผิดชอบก่อนทำการสอนบทเรียนจริงๆ (ศึกษานร.เป็นรายบุคคลทุกคนในชั้นเรียน)  พบว่า  นร.ส่วนใหญ่อ่านไม่ค่อยออก  ในห้องหนึ่งๆ มีนร.ที่อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง, คล่องประมาณไม่เกิน  10  คน  แม้ว่าจะเป็นคำง่ายๆ กว่าระดับชั้นของเค้าเองก็ตาม  คงเป็นปัญหาใหญ่ให้ครูคนนี้ต้องตามแก้ไข,ซ่อมแซมให้เค้าอย่างหนักหนาแล้วล่ะ..แต่แล้วก็...อดอมยิ้มกับตัวเองไม่ได้  เมื่อวานนี้มีเด็กผู้ชายคนนึงที่เค้าอ่านไม่ค่อยออกและดูเหมือนจะเป็นคนไม่ค่อยกล้าพูดซะด้วย แอบเดินหนีเพื่อนในกลุ่มและเดินมาหาครูเพื่อบอกครูในตอนหมดคาบเรียนว่า "ครูครับ...ครูไม่เปิดวิชาเพิ่มเติมที่สอนเกี่ยวกับการฝึกหัดสะกดคำและอ่านออกเสียงคำศัพท์ที่ถูกต้องบ้างเหรอครับ" "ทำไมล่ะลูกครับ" "ผมอยากอ่านออกครับ"....แค่นี้...ใจเค้าก็มาแล้ว...เย้....เต็มที่เลยลูก...."ครูไม่เปิดแล้วล่ะลูก...แต่...ถ้าผมอยากอ่านออกมาหาครูตอนที่ผมว่างและเห็นครูว่างเนาะ..เดี๋ยวครูสอนให้"..."ครับ"....(จ้า)

 



ความเห็น (2)

เป็นกำลังใจให้น้องแอนนะคะ เมื่อเด็กตั้งใจเต็มทีอย่างนี้แล้วย่อมง่ายกว่าบังคับให้เด็กมาเรียนซ่อมเสริมเพิ่มเติมนะคะ

สวัสดีค่ะพี่รุ่ง 
Ico48
  • ขอบคุณนะคะพี่
  • ตอนนี้เรา (หมายถึงหนูกับเด็กๆ) เราสนุกกันมากค่ะ
  • เค้ารู้สึกเป็นพวกเดียวกับครูแล้ว
  • สอนง่ายขึ้นเยอะเลย  และเค้าก็ให้ใจมาเต็มๆ เลยทำให้การสอนง่ายและราบรื่นที่ผู้เรียนอยากเรียนรู้น่ะค่ะ
  • ขอบคุณค่ะพี่รุ่งสำหรับกำลังใจที่อบอุ่นจริงๆ
  • ขอบคุณค่า
Lioness_ann
เขียนเมื่อ

เมื่อวานนี้ครูแอนและทีมงานในหมู่บ้านโดยการนำของท่านกำนันสุรพงษ์  เพชรจำรัส นำขบวนกองคาราวาน ขนของใช้ที่จำเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง เสื้อผ้าและอื่นๆ ขนกันไปกับรถของทหารพรานที่มาตั้งกองร้อยในหมู่บ้านลำไพลเพื่อไปมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่ อ.ท่าศาลา ที่ อ.นบพิตำ รวม 3 จุด พวกเราโดยสารกันไปกับรถตู้ส่วนหนึ่งโดยไปมอบให้กับมือของเพื่อนชาวใต้ผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมแผ่นดินสไสด์ตัวเพื่อเป็นการส่งต่อกำลังใจช่วยเหลือเพื่อนชาวใต้ด้วยกัน

บางคนบ้านหายวับไปกับสายน้ำและดินโคลนที่ไหลผ่าน บ้างต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก พื้นที่หลายแห่งต้องซ่อมแซมกันเป็นการเร่งด่วนเพื่อให้มีโอกาสได้ติดต่อกับโลกภายนอก เพื่อการขนถ่ายความช่วยเหลือต่างๆให้เข้ามาได้อย่างสะดวกขึ้น จุดสุดท้ายที่ครูแอนจะไปนั้นพวกเราเข้ากันไปไม่ได้ เลยต้องโทรติดต่อท่านปลัด อบต.เพื่อออกมารับของกับรถโฟร์วีลเนื่องจากถนนกำลังซ่อมและมีรถไฟฟ้าที่จะเข้าไปช่วยเหลืออีกด้านหนึ่งติดหงึกอยู่ตรงกลางถนนนั้นเอง

พวกเราขอส่งกำลังใจให้เพื่อนชาวใต้ที่ประสบภัยมีกำลังใจที่เข้มแข็งนะคะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

ขณะที่สอบแก้ตัวก็จะประมาณเหมือนสอนพิเศษมากกว่า  เรียกว่าสอนกันแบบตัวต่อตัวมากกว่า  ตรงไหนไม่ได้ก็ซ่อมให้ว่างั้น  เพราะทราบกันดีว่าในเวลาปกติความสนใจเค้าอาจจะมีน้อย  ประกอบกับเพื่อนนักเรียนเยอะ  คงไม่ทัน  แต่เวลานี้มีแต่เค้ากับครูและเพื่อนอีกไม่หลายคนเลนสอนทุ่มทุนสร้างกันใหม่  ครูแอนเองเวลากลับ  5  โมงเย็นเสมอๆ พี่คนที่โดนเรื่องหนักกว่าเพราะเค้าบ้านอยู่ในพื้นที่โรงเรียนบางครั้งก็กลับเกือบทุ่ม  เรียกว่าทุ่มเทอย่างมาก จนพี่คนเดียวกันนี้ บอกว่า "สอนลูกเอง  ยังไม่ได้เท่านี้เลย  สอนลูกชาวบ้านหนักกว่าหล่าว" เป็นอย่างนี้มาตลอดทุกวัน  ครึ่งเดือนมาแแล้ว  ขนาดวันที่  2  เมษายนที่โรงเรียนปิดแล้ว  แต่วันนี้ต้องมาทำงานครึ่งวันเช้าในการรับรายงานตัวนร.เข้าใหม่  พวกกลุ่มครูภาษาอังกฤษก็ยังอุตส่าห์นัดนร.ที่ยังค้างสอบหรือสอบยังไม่เสร็จมาสอบอ่าน  สอบแก้ต่อ 

และแล้ว...ในวันเดียวกันนี้เองก็เกิดเรื่องจนได้กับพี่ครูในกลุ่มสาระครูแอนเอง และเรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องที่บั่นทอนกำลังใจของพวกเราไม่น้อย



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

หลังจากออกไปทานข้าวเที่ยงเสร็จกลับขึ้นมาคุมสอบต่อในภาคบ่าย  ด้วยวิธีการใหม่ (แผนการสั่งสอนเจ้าตัวแสบ) ด้วยท่าทีนิ่ง, เงียบ, ไม่ยิ้ม,ไม่สดใส ไม่หัวเราะร่าเริงเฉกเช่นเคย เริ่มขึ้นแล้ว 

ชั่วโมงสอบคาบแรกในภาคบ่ายผ่านไป  คาบสองผ่านไป มีนร.หลายคนในห้อง 3/1  เริ่มสัมผัสและจับกลิ่นอายแห่งความแปลกไปของครูแอนได้ จนกระทั่งมีคุณครูข้างๆ ห้องมาขอช่วยให้ครูแอนไปคุมสอบอีกห้อง(3/2)แทนเนื่องจากคุณครูเค้าจะไปเข้าห้องน้ำ  ครูแอนก็ไปคุมห้องให้  แต่แอบต่อยอดแผนการด้วยท่าทีเดิมที่วางแผนไว้  เด็กคนที่เคยวิ่งมาบอกมองครูแอนแล้ว..มองอีก  คงงงว่าทำไมครูมาแปลก (เอ๊ะ) แต่หลังจากได้รับดอกไม้(...)ด้วย เล่นเอาห้อง 3/2 เงียบกริบตามไปด้วย 5555 เริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์กันในชั่วโมงหลังสอบเสร็จ  จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น.........



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

นึกๆ แล้วก็ขำเหมือนกันนะเนี่ย  กับลูกศิษย์ในที่ปรึกษาห้อง 3/1 รุ่นนี้  ดูรึ...ดูมันทำกันไปได้ ประสบการณ์แปลกๆ ที่ครูคนไหนๆอาจจะไม่เจอ

เอ..แล้วจะมีครูคนไหนเจอประสบการณ์แปลกๆ แบบเราบ้างมั๊ยหว่า....5555

ขนาดวันสอบปลายภาค...ใกล้จบกันแล้ว...ยังเจอวีรกรรมแสบๆ อีกจนได้….

ครูแอนลงมาที่รถยนต์กำลังจะออกไปทานอาหารเที่ยง  “ตกใจ...เลย”เห็นดอกไม้จันทน์สีแดงสดวางอยู่ที่หน้ากระจกรถยนต์  บอกได้คำเดียวเลยว่า  “ตกใจมาก...มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตฉันเนี่ย”  หลังจากเงอะๆงะๆ อยู่ด้วยความตกใจ, เครียด และอาการงงๆ  จู่ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงอีกคนจากห้องอื่นวิ่งเข้ามาหาและก็บอกครูแอนว่า “ครูๆ ไอ้แม็คกะไอ้เอ็กซ์เด็กห้องครูน่ะแหละ  มันจะแกล้งครู”

อ๋อ...ณ...วินาทีนั้น....แปลกเหมือนกันนะ...จากอาการตกใจ, เครียด, งง ในตอนแรกกลับมลายหายไปสิ้นเมื่อรู้ตัวเจ้าตัวแสบต้นตอคนนำดอกไม้จันทน์มาวางไว้หน้ากระจกรถยนต์เพื่อแกล้งครู  ณ วินาทีนั้นคิดเลยต้องสั่งสอนมันใหม่ซะแล้ว!!...อิอิอิ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

สรุปผลการรับถ้วยชนะเลิศในการแข่งขันกีฬาหน่วยสีโรงเรียนเทพา ของสีฟ้า...ปี 2553...ถ้วยกีฬาทั้งหมด................7   ถ้วย    ถ้วยพาเหรดยอดเยี่ยม.........1   ถ้วย   ถ้วยกองเชียร์ยอดเยี่ยม........1   ถ้วย       รวม         9    ถ้วย

ได้มากกว่าทุกๆ สีนะเนี่ย...ด้วยความร่วมมือร่วมใจของเด็กๆ และสมาชิกเพื่อนครูทั้งทีม

ครูอ้อ...เดินมาบอกว่า "เราทำกันได้แล้วแอนเด็กๆ เค้าเต็มที่กับพวกเรา กีฬาเธอทำให้เด็กๆได้ถ้วยเยอะเลย ส่วนกองเชียร์ของฉันกับพี่รัชนีก็ไม่น้อยหน้า สุดๆ กันเต็มที่จนได้มาอีก 2 ถ้วย ฉันถือว่าสำเร็จนะ...เพราะครูสีฟ้าเรามีน้อยกว่าทุกๆ สี เพราะไปเป็นกรรมการกลางซะหลายคน แต่ครูทุกคนที่เหลือก็เต็มที่กับงานที่ตัวเองรับผิดชอบแล้วลุยกันสุดๆ...ฉันว่าปีหน้าเราขอให้เค้าอยู่สีเดิมกันอีก เธอเอาด้วยมั๊ยแอน"   "...เอาสิอ้อ..."



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

งานกีฬาเครือข่ายและหน่วยสีโรงเรียนเทพาเสร็จสิ้นซะที  หลังจากเรียนคาบละ 40  นาทีมาเป็นเดือน  อ๊ะ...แต่หนักตรงที่เสร็จกีฬามาถึงก็สอบกลางภาคทันที

สงสารทั้งเด็กทั้งครู....กิจกรรมเยอะมาก....ไม่ค่อยได้เรียนเนื้อหาวิชาการซักเท่าไหร่เลย

แต่พวกเค้าคงได้ "ทักษะชีวิต" แทน ก็ O.K. ล่ะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

หนักเข้าไปกว่านั้น...เมื่อเป็นโค๊ชวอลเลย์เสร็จ...ครูแอนก็พุ่งไปสนามเซปัคตะกร้อด้วยจักรยานที่ยืมมาจากน้องครูชัย  เพื่อขี่ไปหาเด็กๆ นักตะกร้อ (อิอิอิ...เด็กๆ ฮาเลยที่เห็นภาพเช่นนี้ของครูแอน)  พอไปถึงสนามตะกร้อเพื่อไปเชียร์และให้กำลังใจเด็กๆ สีฟ้าตามหน้าที่โค๊ชกีฬาที่ดี ไอ้เจ้าบัลลังค์ที่กำลังหวดลูกหวายอยู่ในเกมการแข่งขันชิงชนะเลิศ...ดันหันมาเห็นครูแอน...แล้วตะโกนซะลั่นสนาม...เพื่อบอกเพื่อนอีกสองคนที่กำลังแข่งอยู่ด้วยกันว่า..."เฮ้ย...เจ๊แอนมา"--โอ๊ย...ดูมันทำกันไปได้ (ซะลั่นเลย) ครูแอนเลยต้องสวนไปว่า "มาเชียร์ๆ แล้วนะ...เล่นไปเลย  ตั้งใจเล่นเลยลูก"-- อีกพักใหญ่จึงขอตัวออกมาจากสนามตะกร้อเพื่อมาเป็นโค๊ชวอลเลย์ฯ ต่อในรายการสุดท้ายสำหรับวันนี้ ไอ้เจ้าตัวเล็กนักกีฬาตะกร้อรุ่น 14 ปี ก็วิ่งมารายงานครูแอนถึงขอบสนามวอลเลย์ฯ ว่า --- "ครูครับๆ ได้ที่หนึ่งครับครูทั้งรุ่นผมทั้งรุ่นพี่เลยครู"--"โอ...เยี่ยมมาก...สุดยอดเลย" แล้ววอลเลยบอลในรายการสุดท้ายของวันก็ได้ที่หนึ่งอีก

มันเลยทำให้ครูรู้ว่า  "เนี่ยแหละ...ผลของใจแลกใจ" ...มหัศจรรย์จริงๆ...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

รึว่า...มันมีผลทางใจเหรอเนี่ย... วันแรกที่เราเริ่มแข่งกีฬา...ครูใส่เสื้อสีอื่นที่ไม่ใช่สีฟ้า  มีแต่คนทักครูกันอื้อเลย แต่วันนั้นกลายเป็นสีฟ้าชนะหลายรายการเพื่อเข้ารอบชิงชนะเลิศ มาวันที่สองของการแข่งขันกีฬา......ครูใส่เสื้อสีฟ้าเพื่อสีตัวเอง แต่วันนั้น.....สีเราแพ้ไปหลายรายการเช่นกัน มาเช้าวันนี้.....เมื่อครูแกล้งใส่เสื้อสีอื่นที่ไม่ใช่สีฟ้า ไอ้ลิป(นักกีฬาวอลเลย์บอล) เดินมาทักครูก่อนใคร.... "ว้าว...ดีจังที่ครูไม่ใส่เสื้อสีฟ้า  ครูๆ ผมว่าวันนี้สีฟ้าชนะอื้อแน่นอนเลยครู" ----อ้าว....เป็นงั้นไป---- เอาเข้าจริงๆ ....วันนี้....สีฟ้าผ่านเข้าชิงชนะเลิศหลายรายการมาก  แถมชนะเลิศเกือบทุกรายการจนครูพละงงกันไปเหมือนกัน อิอิอิ (รึว่า...เพราะครูแอนไม่ได้ใส่เสื้อสีฟ้า 55555)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Lioness_ann
เขียนเมื่อ

ยินดีและดีใจเป็นที่สุดที่วันนี้โค๊ชกีฬาสมัครเล่น...อย่างครูแอน...สามารถนำพานักกีฬาของสีฟ้าเข้าชิงรอบชิงชนะเลิศในหลายๆ รายการ  และก็ชนะเลิศได้หลายรายการเยอะแยะมากๆ  ทั้งๆ ที่สีของเราแทบจะไม่มีนักกีฬาเก่าของสีหลงเหลืออยู่เลยและไม่มีแม้กระทั่งนักกีฬาตัวแทนของโรงเรียนเลย

แต่ในที่สุด....ใจต่อใจ / ใจแลกใจ......ก็ปรากฎผลให้ครูเห็นแล้วลูก

ว่าพวกนี้ทำได้...เราร่วมกัน,และสามัคคีกันได้เป็นอย่างดีที่สุด (แม้ครูจะกรำแดดหนักไปหน่อยตอนตะลอนตามดูพวกแก 5555)

ขอบใจมากไอ้ตัวแสบทั้งหลายของครู

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท