อ่านในวิกิ เจอว่า ร่างกายคน เป็นที่สิงสู่ของเซลล์ตั้ง 10 ยกกำลัง 14 เซลล์ แน่ะ

100,000,000,000,000 เซลล์

Richard Dawkin (The Selfish Gene) มองว่า ร่างกาย คือหุ่นยนต์ ที่ DNA กดสั่งผ่าน remote control

Greg Bear เรียกว่า ร่างกายคือยานอวกาศที่เซลล์ใช้เคลื่อนย้ายที่

ถ้ามองในเชิงการจัดการบริหารองค์กรที่มีคนทำงาน100,000,000,000,000 คน คงน่าสนใจ...

แต่คนทั้งโลก รวมกันทั้งหมด ก็มีแค่ 10 ยกกำลัง 10 เอง

(ความซับซ้อนน้อยกว่าการที่เซลล์คุมกันขึ้นรูปเป็นร่างกายเสียอีก ซับซ้อนต่างกันตั้งหมื่นเท่า !)

@2999 VDO ดอกไม้บาน คลิกตรง ๆ จาก gotoknow ไม่ไป

แต่ใช่วิธีตามรอย link กลับไปยูตุ๊บ แล้วไปดูตรงโน้น ได้ครับ สวยดี

คงเป็นผลจากใช้ระบบปฎิบัติการยุคดึกดำบรรพ์... (ที่คนอื่นไม่ควรเอาอย่าง)

@2956 ในไทยหากมีผู้ทำ CFD พยากรณ์อากาศที่ละเอียด น่าจะหา wind flux ทั่วประเทศได้ง่ายจากการทำ simulation ตรง ๆ

สิ่งที่เรียนรู้จากการเดินวันนี้: เดินสองรอบได้แรง เดินสามรอบสนุกอย่างแรง เพราะได้เห็นคนวิ่งจนหมดแรง

...เอ่อ..ไม่ทันเห็นแฮะ ว่าเหงื่อตกไหม ?

เย็นวันนี้แปลกจัง ไปทางไหนก็เจอแต่เด็กเล็ก ๆ เต็มไปหมด

น่าร๊าก ^ ^ (<--- ลูกชาวบ้านทั้งเพ !)

...สวนทางกับข่าวเรื่องสังคมชราภาพที่เพิ่งประกาศออกมาอย่างแรง...

คนมักเข้าใจผิดกันว่า เกิดเงินเฟ้อ เพราะเห็นสินค้าราคาถีบตัวสูงขึ้น

อันที่จริง สินค้า อยู่เดิม แต่เงินไร้ค่าลงมาก ต่างหาก

นิทานสำหรับเด็ก - นิทานอีสป

นิทานสำหรับผู้ใหญ่ - นิทานอีสป

อ่านคนละมิติกัน

อ่านให้เด็กฟัง เป็นนิทานกล่อมเด็ก อ่านให้ผู้ใหญ่ฟัง คนจะว่า ปากจัด...

แต่อ่านนิทานอีสป ก็เหมือนการหว่านเมล็ดพืชลงในผ้าขาว รอวันผลิบานเมื่อสถานการณ์สุกงอม

"กรมอนามัยเผยอัตราการเกิดทารกต่ำกว่าอัตราทดแทน..."

-ข่าวกรุงเทพธุรกิจ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ข่าวนี้ เทียบเท่าการประกาศเปิดตัว "สังคมชราภาพ" อย่างเป็นทางการที่นักประวัติศาสตร์รุ่นหลังต้องจารึก (ถ้ายังเหลือคนจารึกที่ว่านั่นนะ...)

@2848: ผมรู้สึกผิดนิด ๆ ครับ เสียใจไม่น้อย ที่ทำให้ต้องเสียข้อเขียนที่ดีมาก ๆ ไปหนึ่งบันทึก

จริง ๆ แล้วพอจะเขียนถึงได้นะครับ ในรูปของ link

เอ... วิ่งแขม่วพุงนี่ จะทำให้เหงื่อตกได้ไหม ?

-_-! เดี๋ยวนี้ ทำให้คนเหงื่อตกได้ ถือเป็นกุศลกรรมแล้วหรือนี่ ?

@2862, @2863 กลิ่นทุเรียน อาจโดนแบน

และอาจต้องมีกฎมาคุมว่า ผู้ให้บริการ ISP ต้องติดระบบกรองกลิ่นทุเรียนด้วย เพิ่มเติมจาก log file ปรกติ

เหตุการณ์ไม่ธรรมดา มักเกิดเพราะมีการเหนี่ยวนำด้วยเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดา

เหงื่อไม่ออก  การทานอาหารแสลงโลกพวกจิ้งจก ตุ๊กแก ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดา...

@2806:

-รออีก 7 เท่าของ half life จึงจะเหลือน้อยกว่า 1 % (=1/128 เท่า)

-ในบ้านเราอุณหภูมิสูงกว่าบ้านเขา half life ก็น่าจะน้อยกว่า เป็นผลจากอุณหภูมิที่ร้อนกว่า ปฎิกิริยาเคมีน่าจะเร็วกว่า แต่จะเป็นเท่าไหร่ ขึ้นกับข้อมูลเฉพาะตัวของสาร

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า memrister (@2702 )ทำหน้าที่เป็นทั้ง ram, cpu [เลียนแบบ fpga] และ harddisk ครบในตัว ? คอมพิวเตอร์นั้น จะมีหน้าตาอย่างไร ใช้ไฟเท่าไหร่ ?

@2736 : โดนบางคนจับกิน กินเองไม่พอ แบ่งปันอีกตะหาก อิอิอิ

เอ..รู้สึกวันนี้ หนุ่มเชียร์บล็อก วิงวอนให้ เทพ, นกแก๊กแก๊ก และ น้องแก้มยุ้ย งดเขียน ฉลองเมย์เดย์ หนึ่งวัน ไม่ใช่เหรอ ?

เนี่ยะ..เขียนมางี้ "วันนี้วันแรงงาน ห้ามนกแก๊กๆๆๆ น้องแก้มยุ้ย และเทพทำงานนะครับ.....อิอิอิๆๆ"

ไม่อยากบอกว่า ผมไม่ได้หยุดครับ วันนี้ก็ไปทำงานตามปรกติ

เขียนอนุทิน เขียนบล็อก ก็ตามปรกติ

(เผื่อจะได้ค่าแรงคูณสาม ฮี่ฮี่ฮี่)

แต่มาคิดดูอีกที เพราะไม่เชื่อ จึงโดนเล่นของแต่เช้า อาถรรพ์แรงเอาการอยู่...

โชคดีนะนี่  ที่สาวงามแห่งบางลี่ ไม่หยุดทำงาน มาช่วยกู้ชีพไว้ทัน ไม่งั้นวันนี้ ผมเดือดร้อนไปแล้ว...

แหม เอาของกินได้อะไรมาฝากไม่เอา เอาจิ้งจกมาฝาก...

ชักเป็นห่วงน้องแก้มยุ้ยแฮะ ระวังของฝากน่ากลัว ๆ ไว้หน่อยละกัน ได้กรี๊ดอนุทินแตก

Teraflops chip points to future

massively parallel processors อาจมาไวกว่าที่คนทั่วไปเชื่อ

แต่ถ้าสั่งมันได้ให้ทำงานขนานกันสมบูรณ์แบบ ก็เป็นการเลียนแบบ quantum computer  ได้นิดหน่อย แต่สะดวกในข้อที่ไม่ต้อง decouple การเกิด quantum entanglement

ศัพท์ใต้: ล่อ = โผล่

ม่วงเม็ดล่อ = มะม่วงหิมพานต์ (เอ๋า...ก่อเบ่อ...เม็ดมันโผล่)

เห็นข่าวเรื่องปัญหาวัณโรคในไทย เขียนถึงซะหน่อย ที่http://gotoknow.org/blog/wwibul/179998

คนเป็นพ่อเป็นแม่ เพื่อลงทุนการศึกษาให้ลูก ส่วนใหญ่ มักถือคติ ถึงไหนถึงกัน

บางที...ก็ลงทุนเกินตัว เห็นแล้ว น่าเสียดายแทน

ตัวอย่าง: เคยได้ยินคนร๊วย รวย ที่รู้จัก เล่าให้ฟังว่า ราคาค่าคอมพิวเตอร์ทีี่ซื้อให้ลูกใช้ เป็นแสน !

(ไม่ใช่เสียค่าโง่เป็นแสนนะครับ แต่สเป็คแบบนั้น ราคาต้องแบบนั้นแหละ)

แถมยังบอกว่า รุ่นนี้ดี มีไว้ไม่แฮงค์ (ฟังคุ้น ๆ จังแฮะ)

แถมยังบอกว่า ท่องเน็ต เร็วปรื๋อเลย

ฟัง ๆ แล้วก็ไม่แน่ใจ ...ท่องเน็ต หรือท่องอวกาศกันแน่อ่า ?

ทุเรียน !

มันอุตส่าห์มาสู่โลกของเรา หากเราไม่กิน คงเป็นการย่ำยีธรรมชาติไม่น้อย (อือม์ ไม่รู้นะ ว่านักอนุรักษ์ เขาจะเห็นด้วยกับผมหรือเปล่า แต่ผมคิดยังงี้จริง ๆ นะ)

แต่การกินทุเรียน ก็มีความรับผิดชอบของสุขภาพสูงตามมา

คนไม่ออกกำลังกายไม่ควรกินทุเรียน

กินทุเรียนแล้ว ต้องออกกำลังกายมากกว่าปรกติ ชดเชยให้สมดุลกัน

พระเซ็นสมัยโบราณของญี่ปุ่น ถือหลัก ไม่ทำงาน ก็ไม่ควรกินข้าว

คนรุ่นใหม่ (<--รวมผมเข้าไปแล้ว) - ไม่ออกกำลังกาย ไม่ควรกินทุเรียน...

ดูเหมือนว่า ไทยมีหนังสือแปลนิยายวิทยาศาสตร์ออกมาน้อยไป

หลายปีมานี้ ผมอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ (ฉบับภาษาอังกฤษ) แทนการอ่านหนังสือพิมพ์หรือดูทีวี (สแกนพาดหัว - แต่ไม่เน้นอ่าน) ตั้งข้อสังเกตว่า นิยายประเภทนี้ มีความคิดสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบสูงมาก และหลาย ๆ เรื่อง จะสามารถกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นในวิทยาการแขนงต่าง ๆ ได้ดี เพราะคนเขียนเดี๋ยวนี้ เขาทำการบ้านมาดี มีฐานรองรับทางวิทยาศาสตร์ อ่านแล้วไม่น่าเบื่อ ทำให้เห็นประเด็นที่แหลมคมของการประยุกต์เทคโนโลยีในรูปแบบที่ตัวเองนึกไม่ถึง ได้เปิดหูเปิดตา

ตัวอย่างเช่น ช่วงนี้ อ่านเรื่อง Darwin's radio ของ Greg Bear ก็ได้เปิดหูเปิดตาเรื่อง genetics ไม่น้อย ซึ่งถ้าลองนึกถึงนักเรียนที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ หนังสือประเภทนี้ จะมีอิทธิพลที่ล้ำลึกในการสนใจศึกษาต่อของเด็กไม่น้อย

ปัจจุบัน ค่าเงินเหรียญอ่อนมากกว่าเงินบาท ทำให้ราคาของหนังสือต้นฉบับ กับหนังสือแปล ไม่ต่างกันนัก เผลอ ๆ หนังสือแปลแพงกว่าด้วยซ้ำ กลุ่มนักศึกษาที่จะทำ thesis หากอาจารย์ที่ปรึกษาจับอ่านหนังสือแนวนี้บ้าง ผมคิดว่า เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจกว่าจับไปนั่งกวดภาษาอังกฤษเสียอีก เพราะได้ผลจริงครับ ยืนยัน

แก้มยุ้ย@2544: ชาเขียว จิบเปล่า ๆ ไม่ครบสูตรมั้ง ?

ลองนี่ดูบ้างไหมครับ สูตร อ.ธวัชชัย ออกแนว "ท้องถิ่นนิยม": กินทุเรียนกับกาแฟเป็นอาหารเช้า ตบล้างคอด้วยชาเขียว

แต่หากอยากตามทันโลก ต้องแทน ชาเขียว ด้วย น้ำอัดลม ครับ จึงจะถือว่า ได้มาตรฐาน

ชีวิตประจำวันของคน เหมือนมีทางแยกทุกย่างก้าว

และทุกย่างก้าว เหมือนมีเหตุการณ์ประเภท "น้ำผึ้งหยดเดียว" รอเกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ตลอดเวลา

ขึ้นกับนิสัยการเลือก ว่าชอบจบเรื่องที่หยุมหยิม หรือชอบขยายผลให้รุนแรงขึ้น ด้วยการเติมเชื้อไฟ

นิสัยที่ว่า เป็น EQ ประเภทหนึ่ง ที่บางคน มีสูงมาก ในขณะที่บางคน ก็ EQ พอ ๆ กับศูนย์

...แต่ EQ ใกล้ศูนย์ยังไงก็ตาม นั่นก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล ที่ถูกต้องตามกฎหมาย...

หน้าที่ของเราคือ ตีหน้าตาย ไม่แสดงความจริงใจออกมาเวลาต้องอยู่ใกล้คนประเภทนี้

เพราะการตีหน้าตายเป็น ก็เป็น EQ ประเภทหนึ่งเหมือนกัน