อนุทินล่าสุด


kalaenampang
เขียนเมื่อ


21  พ.ย.2555

วันนี้ว่าจะประชุมจัดทำแผนปี 56 พอดีนั่งลงที่โต๊ะทำงาน

หัวหน้าบอกว่าให้ไปนิเทศโรงเรียนแกนนำการใช้หลักสูตร

เพราะคณะกรรมการติดตามการใช้หลักสูตรแกนกลาง 51

มาติดตาม โดยเป็นอาจารย์จากคณะศึกษาศาสตร์ ม.ศิลปากร

เป็นนักวิจัยที่สพฐ.มีสัญญาด้วย

เราไปในฐานะศน.เจ้าถิ่น หรือเจ้าของพื้นที่

มีการสัมภาษณ์ครู กรรมการสถานศึกษาและผู้บริหาร

เราอยู่ในห้องที่สัมภาษณ์ครู

ครูสะท้อนโดยการสนทนากลุ่ม อ.ดร.ศิริวรรณ นักวิจัย

ถามปัญหาตามกรอบการสนทนา

ที่สำคัญในตอนสุดท้าย

ให้คุณครูสะท้อนความในใจที่มีต่อการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ประเด็นที่ครูสะท้อนทุกเรื่องมันจริงจนไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง

เรื่องแรก คือ ภาระงานนอกเหนือจากงานสอนที่มอบให้ครูมาก เช่น การจัดซื้อ จัดจ้าง

การจัดทำเอกสารการเงิน พัสดุ

สอง การรับนโยบายใหม่ ๆ 

เช่นการเข้าค่ายพัฒนาคุณธรรมที่พาครูไปอบรมธรรมะเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม

โดยไม่ได้สอนนักเรียน ซึ่งบางทีก่ารกำนดระบเียบการทำงานที่มีกรอบ วินัย

ทำให้เป็นเรื่องที่ครูต้องนำมาเป็นภาระ

เราได้แต่คิดตามว่าการจัดการศึกษาไทยล้มเหลวหรือไม่ เพราะเหตุใด

แต่เราทำตามหน้าที่อย่างไม่บกพร่อง  เช่นการนิเทศแบบชี้แนะ (Coaching)

การพาทำ การทำให้ดู  ครูส่วนมากมีศักยภาพในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียน

แต่สังคมกำลังเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ครูต้องปฏิบัติตน เรียนรู้ความเปลี่ยนอย่างตั้งใจ

ตระหนักรู้ว่าพลเมืองไทยต้องเข้าสู่ความเป็นพลเมืองโลก

แต่สุดท้าย ถ้าเราทำอะไรคนอื่นไม่ได้ คือเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนพฤติกรรมการสอนของครูไม่ได้

เราต้องปลง แต่เราคงไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการนิเทศของเรา

Kalaenampang



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

kalaenampang
เขียนเมื่อ

19 พ.ย.2555

วันจันทร์อีกแล้ว

วันตักบาตรที่สำนักงานกำหนดไว้

มีเวร และมีการลงชื่อว่าใครไปตักบาตร 

นายกลัวบุญหล่นหาย

เป็นกุศโลบาย

วันนี้พระมา 4 รูป เณร 5 รูป เด็กลงกว่าเดิม

หน้าตาบ้องแบ้ว

คิดว่าน่าจะเป็นเด็กที่พ่อแม่ขาดกำลังทุนทรัย์ในการเลี้ยงดู

มีเณรรุ่นพี่คอยกำกับติดตามพฤติกรรม ด้วยการแอบมองแบบ เหล่ ว่างั้นเหอะ

เราเลยตักบาตรเงิน รูปละ 20 บาท รวมกับคนอื่น ๆ คงพอได้เป็นเงินค่าปากกา 

ดินสอ น้ำยาลบคำผิดเวลาไปเรียน

เหมือนที่ลูกขอเรา

เขาว่าการตักบาตรคือการให้ การให้คือการลดการเห็นแก่ตัว

งั้นพาคนที่อยากได้ของคนอื่นไม่มีที่สิ้นสุดมาตักบาตรดีไหม

ความชั่วดีมันเปลี่ยนยาก ต้องฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก

พันธุกรรม การเลี้ยงดู ห้าสิบ ห้าสิบ

ฝรั่งยังเชื่อ Criminal Mind

เห็นท่าจะจริง เพราะคนไทยมีสุภาษิต  

เลวโดยสันดาน

ไม่เป็นไร

เรารู้สึกเป็นสุข

วันนี้ทำงานอย่างสุขใจ

นะเพื่อน ๆ

Kalaenampang



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

kalaenampang
เขียนเมื่อ

18. พย55

ผู้หญิงรับไม่ได้กับความชราที่ปรากฏบนร่างกาย

ผู้ชายรับไม่ได้กับความสูงวัยทางสังคม

คือ ใครๆ เรียกเราว่าคุณยายเรารับได้แต่ถ้าใครท้วงว่าเราหงอก

ก่อนวัยเราจะเคือง

ผู้ชายถ้ามีคนบอกว่าผมหงอกแล้วนะจะไม่รู้สึกไร

แต่ถ้าเรียกคุณตา อยากตั๊นหน้าอาราย ข้ายังไม่แก่ ประมาณนั้น

เราเลยเป็นเช่นนั้นแล คือผมขาวกำเนิดเมื่อไร

จัดการไวไวให้ดูดี จำได้ว่าย้อมผมครั้งแรกประมาณ

พศ.2533 อยากมีสีผมกิ้บเก๋เหมืิอนสาวเปรี่้ยว

ทำเป็นสีแดงประกายม่วง ทำเอง เพื่อนๆทักเกรียว

ลูกบอกว่าไม่สุภาพ เลยเลิกทำและจากที่ว่าคนไทยๆ

มีความเชื่อว่าผู้หญิงผมแดงคือผู้หญิงไม่ดี

แต่เวลาผ่านไป อะไรก้อเปล่ี่ยน

คนนิยมทำสีผม เราก้อเฉยๆ แต่จนอายุ 40อัพ

ผมขาวแซมโผล่มาทีละนิดๆ

ยังทนได้ จนย่าง45 โอย มาไวราวเคลมประกัน

ตอนแรกไปร้าน เร่ิมจาก 200 300 500 

จนแพงสุดแบงค์พันทอนร้อยเดียว

และที่รำคาญคือรอคิวนานมาก

ขี้เกียจคุยกับช่าง เพราะไปบ่อย

ตัดสินใจทำเอง ถามเพื่อน ช่าง วิธีการผสมสี

การทา การหน่วงเวลา การดูแลหลังทำสีผม จนถึงผลข้างเคียง

แต่ไม่หยุดทำสีผม เพราะกลัวเสียลุคมากกว่า

ในที่สุด ค้นพบด้วยตนเอง ตามสูตรนี้แหละ(ตามรูป)

ไม่อยากเอ่ยชื่อ เดี๋ยวหาว่าอวดอ้างสรรพคุณ

ติดนาน ไม่แพ้ และไม่เหม็น ราราพอฟังได้

จึงยากบอกว่าข้อค้นพบคือย้อมสีผมเพื่อย้อมใจ

แต่ให้ย้อมใจยังไงก้อไม่เปล่ียนไปเพราะ...

เป็นหัวใจคนไทยที่รักในหลวงค่ะ

Kalae




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

kalaenampang
เขียนเมื่อ

16  พฤศจิกายน 2555

ประโยชน์ของ social network

มันทำให้โลกแคบลงเยอะ

แม้ขอบฟ้าจะกว้าง

เราก้อมีโอกาสใกล้กัน ทั้งทางความคิด 

และระยะทาง

รักกัน อยู่สุดขอบฟ้าเขาเขียว

เสมือนอยู่หอแห่งเดียว ร่วมห้อง

ชังกันแค่ตาต่อกันนา เหมือนขอบฟ้ามากั้น ป่าไม้มาบัง




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท