อคติทางชาติพันธุ์ในโรงเรียน


เมื่อต้นปีการศึกษามีผู้ปกครองกลุ่มหนึ่งมาขอเอาลูกออกจากโรงเรียน เพราะเหตุผลที่ว่า ไม่พอใจที่พี่เลี้ยงเด็กอนุบาลเป็นชาวเขา

ปลายสัปดาห์ก่อน ได้มีโอกาสไปร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ กับคณะครูของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ ประมาณ ๙๐ คน ในโอกาสที่มีการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อบูรณาการสิทธิมนุษยชนเข้าสู่แผนการเรียนรู้

จากตอนแรกที่ทราบข้อมูลพื้นฐานว่า ทางโรงเรียนมีครูคนไทยและครูกลุ่มชาติพันธุ์ รวมทั้งมีนักเรียนคนไทยร่วมกับนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ และสืบเนื่องจากมีปัญหาเรื่องอคติทางชาติพันธุ์ ทำให้ทางผู้บริหารโรงเรียนเห็นความสำคัญและอยากปรับทัศนคติของครู

แต่เมื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไปช่วงหนึ่งแล้ว กลับพบว่า กลุ่มที่ต้องปรับทัศนคติมากที่สุดก็คือกลุ่มผู้ปกครอง เพราะมีคุณครูอนุบาลคนหนึ่งมาเล่าให้ฟังว่า เมื่อต้นปีการศึกษามีผู้ปกครองกลุ่มหนึ่งมาขอเอาลูกออกจากโรงเรียน เพราะเหตุผลที่ว่า ไม่พอใจที่พี่เลี้ยงเด็กอนุบาลเป็นชาวเขา

เนื่องจากทางโรงเรียนแห่งนี้ ให้โอกาสเยาวชนชายหญิงจากบนดอย ที่อยากเรียนต่อและทำงานด้วย ได้รับการศึกษาในแบบการศึกษานอกโรงเรียน โดยจัดครูสอนเพิ่มเติมให้อย่างเต็มที่นอกเหนือจากการพบกลุ่มสัปดาห์ละครั้ง ตามรูปแบบการศึกษานอกโรงเรียน โดยเด็กจะแบ่งเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มที่เรียนหนังสือครึ่งวันเช้า จะทำงานในแผนกต่างๆ ของทางโรงเรียนช่วงครึ่งวันบ่าย และอีกกลุ่มที่เรียนครึ่งวันบ่าย จะทำงานครึ่งวันเช้า

คุณครูหารือว่าจะนำเรื่องสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ให้ผู้ปกครองตระหนักได้อย่างไร ??

 

หมายเลขบันทึก: 96149เขียนเมื่อ 14 พฤษภาคม 2007 15:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 15:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • ประชากรของโลกนี้  มีอคติกันทุกที่ครับ
  • คนไทยกรุงเทพฯ  ดูถูกคนไทยภาคกลางที่เสียงเหน่อ
  • คนไทย  ดูถูก เจ๊ก
  • เจ๊กก็ดูถูกคนไทย และแขก
  • คนไทยยังดูถูกญี่ปุ่น  อเมริกา(แต่ชอบเงินเขา)
  • ไทยพื้นราบดูถูกชาวเขา
  • ชาวดอยก็ดูถูกคนพื้นราบ
  • ผมฝังตัวตามชนต่างๆทั้งไทยและเทศ  ทั้งชาวบ้านธรรมดา   จนถึงผู้สูงศักดิ์  และรำรวย   ผมเห็นทัศนคติเหล่านี้เสมอ
  • จึงขอหนุนใจว่า  หากจะฝ่าวงล้อมนี้ไปได้ต้องเริ่มที่ตัวตนของคนคนนั้น  
  • ให้เรามีความมั่นใจ   ทำแต่ความดีแข่งกับตัวเอง   จะได้เป็นแบบอย่างแก่คนอื่นและหลุดออกจากอคติเหล่านั้นได้ไม่มากก็น้อยครับ
  • ขอบคุณครับ  สวัสดี 

สวัสดีค่ะ

เห็นด้วยอย่างมากกับ

P
ต้องทำความดีค่ะ แล้วทุกอย่างจะo.k.แม้จะต้องใช้เวลาหน่อย

ดิฉันมีคนดูแลคุณย่าเป็นชาวเขาค่ะ

ตอนแรกทุกคนไม่ยอมรับเขา แต่ต่อมาเขาพิสูจน์ตัวเองด้วยการทำงานอย่างดี ทุกวันนี้ มีแต่คนชมค่ะ

  • ขอบคุณคุณพี่ (ขออนุญาตเรียกพี่นะครับ)
  • P
  • คนเชียงใหม่  ดูถูกคนน่าน  เชียงราย  พะเยา  แพร่
  • คนเชียงใหม่  เมื่อไปอยู่ที่จังหวัดเหล่านี้จะถูกล้อและดูถูกด้วย
  • เป็นทัศนคติ  จริงๆครับ
  • แท้จริง  มนุษย์  มีความดี  ความงาม  อยู่ในตัวตนทุกคน  
  • เพียงแต่เราจะสนับสนุน  ขุดมันออกมาใช้มากขนาดไหน    ด้านไม่ดีนั้นทุกคนก็มี
  • หากนำด้านดีมาใช้  มาพูด  และกระทำ   เราจะไปถึงซึ่ง  ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์  ที่ดีและงดงามยิ่ง
  • คนที่มีอคติ  คนทำชั่ว  เขาจะกลัวเราด้วยซ้ำ
  • มันไม่หมดหรอกครับ   เรื่องการดูหมิ่นถิ่นแคนกัน  การยกตนข่มท่าน
  • แต่มันจะหมดไปจากจิตใจของคนคนนั้นได้  ถ้าเราทำดี  และทำดียิ่งๆขึ้น  อย่าได้ท้อ
  • ขอบคุณครับ  สวัสดี

ผู้ปกครองมักต้องการ "สิ่งที่ดีที่สุด" สำหรับลูกหลาน  ความคิดของผู้ปกครองสะท้อนวิธีคิดของกระแสสังคมค่ะ    และน่าท้อใจว่า โรงเรียนที่เสนอทางเลือกจะฝ่ากระแสสังคมได้อย่างไร

ในฐานะครู  ดิฉันเห็นว่า ผู้ปกครองเป็นปัญหากว่าเด็ก  ผู้ปกครองปกป้องลูกตัวเองเกินไปในทุกๆเรื่อง จนเด็กแยกแยะถูกผิดไม่ออก   อย่าว่าแต่ปัญหาใหญ่เรื่องสิทธิมนุษยชนเลยค่ะ   แค่ปัญหาความซื่อสัตย์ เด็กลอกการบ้าน ถูกลงโทษ ยังถูกผู้ปกครองโวยวาย

คนไทยด้วยกัน มีจนต่างกันยังดูถูกกันเลยค่ะ 

ทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่เราทำได้นะคะ  สร้างเด็กดีเป็นหน้าที่ของครูค่ะ

อ้อ..ได้หนังสือ รู้เท่าทันทุนนิยมแล้วนะคะ  จะจัดส่งไปให้ 

รอสักนิดนะคะ

 

 

ขอบคุณกำลังใจและคำแนะนำดีๆ จากทุกท่านค่ะ จะพยายามทำสิ่งที่ทำอยู่อย่างดีที่สุดอย่างที่ท่านแนะนำค่ะ

และขอขอบคุณอาจารย์ปัทมาวดี มากค่ะ สำหรับหนังสือที่จะส่งมาให้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท