คณะของเราออกเดินทางตั้งแต่เช้า มีเป้าหมายคืนแรกที่เชียงใหม่ การเดินทางครั้งนี้มี อ.จิตศักดิ์ (อ.ปอ) (ครูท่องเที่ยว) เป็นหัวหน้าทีม อ.ทิพย์สุดา (อ.ทิพย์) (ครูชุมชน) ภรรยาที่น่ารักเป็นครูพี่เลี้ยง มีพวกเรา ลูกศิษย์ สามซ่าส์ น้องบัง (เด็กชุมชน) น้องเอก (เด็กท่องเที่ยว) และพี่ฝน (เด็กเทคโน) เดินทางไปพร้อมกัน
แค่ผู้ร่วมทีมก็มหัศจรรย์แล้ว การเดินทางก็ยิ่งมหัศจรรย์เข้าไปใหญ่ บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา
เราเตรียมตัวกันไปก่อนหน้าว่าจะไปที่ไหนกันบ้าง โปรแกรมคือวันที่ 25 - 28 พ.ย. อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ อ.ปาย และ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ทริปนี้ต้องค้าง 3 คืนและต่างที่กัน เราก็จะเห็นบรรยากาศที่แตกต่างกัน แค่คิดก็หนาวแล้ว หนาวจริงๆ ด้วยอุณหภูมิประมาณสิบห้าองศาเห็นจะได้
การจัดการความรู้เริ่มตั้งแต่ออกเดินทาง เราต่างคนต่างเลือกศึกษาตามแต่ความสนใจ โดยทุกคนมีความสนใจของตนเองเป็นตัวตั้ง และแลกเปลี่ยนกันไปตลอดทาง อาศัยพื้นฐานของตนเป็นเครื่องช่วยลุยทาง
จากเช้ามืด...จนฟ้าสาง ถึงเชียงใหม่แล้ว ...
ในที่สุดก็ได้ไปจนได้ หมู่บ้านโฮมสเตย์ต้นแบบที่ใครๆ ก็กล่าวถึง ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่เห็นถึงความเรียบง่ายของชุมชน เส้นทางที่ยากลำบากกว่าจะเข้าถึงตัวหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการกรองนักท่องเที่ยวอย่างดี ไม่มีป้ายบอกทางใดๆ มีเพียงป้ายไม้เล็กๆ ที่ทางเข้า ในมุมมองของนักเทคโนโลยีการศึกษาอาจตีความว่าที่นี่ ขาดการประชาสัมพันธ์หรืออย่างไร ทำไมไม่ทำทางเข้าให้ชัดเจน แต่ที่จริงแล้วการเข้ามาของคนภายนอกต้องได้รับการอนุญาติจากชุมชน มิใช่ใครจะผ่านไปมา ด้งนั้นจึงมีเพียงคนคุ้ยเคยเท่านั้นที่เข้ามาถึงได้
การพบปะพูดคุยของชุมชนจะมีเวที ลานกว้าง อยู่ข้างๆ วัดซึ่งเล็กมากๆๆ แต่เป็นจะเต็มไปด้วยชาวบ้านเมื่อถึงเวลานัดหมาย ซึ่งแสดงว่าเขาจะประชุมกันตลอด ที่วัดก็มีพระเพียงรูปเดียวเท่านั้น แต่เป็นที่เคารพศรัทธาของคนที่นี่มาก
ที่สำคัญที่สุดก็คือผู้นำที่นี่ เขาจะเรียกว่าพ่อหลวง ซึ่งหมายถึงผู้ใหญ่บ้าน พ่อหลวงจะเป็นศูนย์รวมของชาวบ้าน จะเป็นผู้นำในทุกๆ เรื่องวางระเบียบระบบ แต่ทุกคนจะต้องประชุมเห็นชอบกัน มิใช่ทำแบบตามใจคนเดียว
บ้านเรือนที่นี่เป็นแบบบ้านธรรมดา มิได้จัดสร้างให้รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวเท่าไร ฉะนั้นหากใครมาเยือนที่นี่ คงมีความรู้สึกเหมือนญาติมากกว่าแขกที่มาพักอาศัย
การท่องเที่ยวที่มีรูปแบบโดยชุมชนเป็นคนจัดตั้ง คงเปรียบได้กับการจัดการความรู้ที่มีตามธรรมชาติ เพราะเกิดจากการร้อยเรียงเรื่องราวต่างๆ ไว้ด้วยกัน การกำหนดกิจกรรมการท่องเที่ยวเป็นเพียงสื่อเพื่อให้ทราบถึงวิถีชีวิต และแบบฉบับของชาวบ้านแม่กำปอง
เสียดายที่เวลาสั้น จึงมิอาจได้มีส่วนร่วมพักค้างดั่งญาติผู้มาเยือนในตอนนี้ แต่ยังคงได้ให้สัญญากับพ่อหลวงว่า หากมีโอกาสจะแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนและสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านแม่กำปองสักครั้ง คงได้ลงมือเก็บเมี่ยง (ใบชา) ดูว่าจะเป็นอย่างไร
I want to go there.......
ระหว่างทางจะได้กลิ่นดอกไม้หอมมาก
ไปผ่านสันกำแพงทะลุดอยล้านช่วงปีใหม่จะเห็นซากุระสีชมพูทั้งเขาและดอกเสี้ยวหรือชงโคขาว มีบ้านพักริมลำธาร 2 แห่ง อากาศเย็นตลอดปี ไปออกแจ้ซ้อนแช่น้ำร้อนต่อ ป่าสมบูรณ์มาก สวย ถนนขับรถยากต้องชำนาญหรือเก่งแล้ว
แต่ผมไม่อยากให้ไปเที่ยวกันมากเพราะความสงบจะถูกทำลายธรรมชาติจะย่อยยับ ขอให้ผู้ที่มีสำนึกรักป่าและชาวบ้านจริงๆไปก็พอไม่ใช่แบกถุงพลาสติกกับอั้งโล่ไปทิ้ง