Pantipประกาศวอนงดกระทู้หมิ่นความมั่นคง หลังICTปิดห้องราชดำเนิน |
20:43 น. โดยขณะนี้เมื่อสมาชิกเวบ Pantip.com เปิดเข้าสู่กระดานสนทนาห้องราชดำเนิน จะพบข้อความว่า สวัสดีท่านสมาชิก ด้วยมีคำสั่งจากกระทรวง ICT ให้มีการปิดห้องราชดำเนินเป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีกระทู้ที่กระทบต่อความมั่นคงปรากฏอยู่เป็นจำนวนมาก ทางทีมงานจึงของดให้บริการห้องราชดำเนินตามคำสั่งดังกล่าว และร้องขอสมาชิกราชดำเนิน กรุณาอย่าเลี่ยงโดยการไปโพสในห้องอื่น เพราะมิฉะนั้นก็จะกลายเป็นต้องปิดเวปพันทิปทั้งเว็บ ซึ่งท่านสมาชิกคงไม่ต้องการให้เหตุการนั้นเกิดขึ้น ... ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ PANTIP.COM |
พันทิพย์ดอทคอมมีชื่อเสียงมานานในฐานะเว็บไซต์ชั้นแนวหน้า โดยเฉพาะกระดานสนทนาที่เป็นกระดานข่าวสาร สร้างชื่อเสียงด้วยห้องสนทนาต่าง ๆ มากมาย ในที่สุดก็เผชิญกรณีศึกษาผลกระทบทางการเมืองที่มากระทำกับเทคโนโลยีนั่นคือ กรณีปิดห้องราชดำเนิน อันเป็นห้องสนทนาทางการเมือง น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
เวปที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ไม่ใช่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาล ขอให้แยกแยะ ความมั่นคงของประเทศคือการสร้างความแตกแยกประชาชนโดยที่ไม่ได้คิดพิเคราะห์ให้ดี จะเป็นภัยร้ายแรง
ความคิดเห็นที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองของเรา ควรต้องมีการปกป้องไม่ให้เผยแพร่ ควรมีการคัดกรองในเรื่องเวปของการเมืองการปกครองในระดับหนึ่ง
ในเรื่องนี้ควรมองทั้งสองด้าน คือผู้ใช้อำนาจปิดห้องมองถึงความมั่นคงของประเทศ เป็นความกังวลว่าจะมีผู้เข้ามาอ่านและเกิดความเชื่อ กระแสความเชื่อเป็นเรื่องควรระวัง ข้อมูลข่าวสารเป็นอาวุธที่ฝากประสิทธิภาพไว้กับผู้ใช้ อีกด้านคือผู้เขียนกระทู้ เขียนอย่างสร้างสรร มีข้อมูลที่มั่นใจว่าถูกต้อง คำนึงถึงผลกระทบท่จะตามมาทุกครั้งหรือไม่ เป็นจุดที่พิสูจน์ยากและไม่มีใครกล้ารับประกัน ปัญหาจึงอยู่ที่ความรู้ กับจิตสำนึก ว่าทุกคนมีในระดับใด
จะปิดหรือเปิดอะไรก็แล้วแต่ ไม่สำคัญเท่ากับประชาชนชาวไทยมีความรักในชาติ รักอย่างไร รักที่จะเห็นประชาชนอยู่อย่างมีความสงบสุข ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้อยู่ในศีลธรรม ศีล 5 และที่สำคัญรักและเทิดทูนพระมหากษัตริย์ อย่างถูกต้องหรือไม่ ดร. สุเมธ กล่าวว่า"เห็นประชาชนร้องไห้เมื่อเห็นพระเจ้าอยุ่หัวแต่ไม่เคยทำอย่างที่พระเจ้าอยู่กล่าวไว้เลย" ไม่เคยทำให้ท่านสบายใจเลย มีแต่ปัญหามาตลอด แค่ปัญหาภาคใต้ก็หนักพออยู่แล้ว โดยส่วนตัวเชื่อในกฏแห่งกรรม ทำดีได้ดี
ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แสดงถึงความมีสำนึกในหน้าที่ของบุคคลที่จะต้องเคารพในกฎหมายของแต่ละประเทศเป็นสำคัญ การที่บอกว่าบล็อกเว็บแล้วไม่เป็นประชาธิปไตยนั่นแสดงว่าคนของเรากำลังหลงทางติดบ่วงในแง่ความคิดที่ไม่เหมาะสม รัฐมีหน้าที่ที่สำคัญคือจะต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัดและเสมอภาค จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเสียทีเพราะไม่เช่นนั้นสังคมจะสูญเสียระเบียบและนำไปสู่การเป็นสังคมที่ไร้การควบคุมซึ่งจะเป็นภัยมาสู่คนในชาติต่อไปได้ ผมเห้นด้วยกับการกระทำของรัฐบาล และขอวิงวอนให้ทุกคนมีความเชื่อมั่นต่อรัฐเพื่อนำความเข้มแข็งกลับคืนมาสู่สังคมไทยโดยเร็วต่อไป อย่ามัวแต่หลงเชื่อภาพจอมปลอมของประชาธิปไตในการรับรู้เถอะครับ เพราะหากวันใดที่คุณถูกสื่อดังกล่าวโจมตีคุณบ้างคุณถึงจะเห็นคุณค่าของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด แต่เมื่อถึงวันนั้นแล้วอาจจะมีคนไม่เห็นคุณค่าในการละเมิดสิทธิของคุณก็ได้นะจะบอกให้
เรื่องของWebไม่ชำนาญมากนัก ชีวิตการทำงานอยู่กับการพูดคุยดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย ด้วยใจรักและเอื้ออาทร โลกเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน ผู้ใช้บริการเปลี่ยน.......คือเข้าถึงข้อมูลทางการแพทย์ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ดังนั้นเราเองก็ต้องเปลี่ยนตัวเองเข้าWeb มากขึ้น.....โลกไร้พรหมแดน.....แต่มองดูเหมือนไร้คนรับผิดชอบที่จริงจัง.....สิ่งที่เห็นในWeb มีทั้งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และประโยชน์ต่อกลุ่มคนบางกลุ่ม บางเรื่อง(ภาพ)ห่างไกลจริยธรรม ศีลธรรม และคุณธรรมที่ดีงามของความเป็นคนไทยไปเรื่อยๆ ทำให้ใจหายและรู้สึกเสียใจ......ก็หวังเพียงว่าจะมีกฎหมายหรือกฎกติกาอะไรสักอย่างในสังคมมาช่วยกันสร้างสิ่งที่ดีงามให้เกิดขึ้นบนWebใบนี้
ขอไม่ออกความเห็นในเรื่องเปิด-ปิดWeb แต่ขอเชิญชวนเพื่อนๆอ่านหนังสือ"ข้าแผ่นดินสอนลูก"โดยดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ซึ่งหว้งว่าเมื่ออ่านจบแล้วเราจะแยกแยะคำว่าโลกาภิวัฒน์ กับความเป็นประเทศชาติซึ่งมีวัฒนธรรม มีประวัติศาสตร์นับเป็นพันปี ได้อย่างเข้าใจมากขึ้นนะคะ..............รักชาติไทยนะคะ
ก็วนมาถึงคำถามเก่า ๆ ว่าประชาชนโง่
ต้องคิด ยื่น ยัดเยียด สิ่งที่ถูกต้องให้เขางั้นหรือ
นี่คือต้นตอของเผด็จการ อย่างแท้จริง
ราชดำเนิน ที่อยู่ได้เพราะเหตุผล และหลักฐาน
มาหักล้างกัน จะ จะ พวกที่ข้อมูลไม่แน่น มั่ว
ไม่มีหลักฐาน ไม่มีเหตุผลจะไม่ได้รับการยอมรับ
สมาชิกส่วนใหญ่ อายุ เกิน 30
การศึกษาปริญาตรีขึ้นไป ฐานะดี
เป็นเรื่องโง่มาก ๆ ที่ใครจะมาโฆษนาชวนเชื่อใน
web นี้ ข่าวการเมื่องที่นี่จะเร็วมาก
คิดว่าเป็นการทำตามหน้าที่ ทุกคน ทุกฝ่ายต่างมีหน้าที่ๆต้องรับผิดชอบ ต่อตนเอง ต่อสังคม ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าทุกคนรู้หน้าที่ และรู้ว่าควรแสดงออกให้เหมาะสมกับหน้าที่และความรับผิดชอบต่อสังคม ก็จะทำให้สังคมเป็นสุขได้ ในสังคมก็มีทั้งคนที่รู้มากรู้น้อย รู้บ้างไม่รู้บ้างอยู่มากมาย ถ้าไม่มีใครดูแลเลยก็อันตราย จะว่าเผด็จการก็ไม่น่าใช่ 100% เพราะมิฉะนั้นคงปิดไปทั้งเว็บแล้วหรือไม่ แต่จะว่าไม่เผด็จการก็ไม่ใช่อีก เพราะยังไม่เคยเห็นผู้ที่อยู่ในอำนาจไม่มีนิสัยเผด็จการสักสมัยเลยค่ะ เพียงแต่ใช้เมื่อไหร่ แล้วเป็นธรรมหรือไม่ ถ้าฝ่ายหนึ่งคิดว่าไม่เป็นธรรมก็ต่อสู้กันไป แบบสันติวิธี ตามครรลองละมังคะ
การปิดห้องราชดำเนิน โดยอ้างเรื่องปัญหาความมั่นคง ดูเหมือนจะเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ค่อยตรงประเด็นสักเท่าไหร่
กระทรวง ICT จะต้องคอยตามปิด website ในลักษณะนี้ไปตลอดเช่นนั้นหรือ? โลกใบนี้มันเล็กลงมากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการสื่อสารในปัจจุบัน
ท่านคงไม่สามารถจะควบคุมการแสดงออกถึงความคิดเห็นของคนที่สนใจเรื่องของการเมืองในเมืองไทย อันที่จริงหากมองกันให้เป็นธรรมแล้วการเปิดโอกาสให้คนมีทางระบายได้บ้างน่าจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่า ลองเปรียบเทียบกับกาต้มน้ำที่ไม่มีรูระบายความดัน ไม่นานก็เกิดการระเบิด!
ยิ่งไปกว่านั้นการ Post ลงในห้องราชดำเนินของ Pantip กลับยิ่งสามารถจะควบคุมและตรวจสอบได้ง่ายกว่าที่อื่นๆ เพราะผู้ที่จะเข้ามา Post ได้จะต้องมีการลงทะเบียน สามารถตรวจสอบได้หากมีการกระทำที่ผิดกฏหมาย หรือล่อแหลมต่อเรื่องของความมั่นคงจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประชาชนที่เข้าไปเสนอความคิดเห็นในเรื่องการบ้านการเมืองใน website ต่างๆก็เช่นกัน ควรจะได้มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติด้วยเช่นกัน สิทธิ และความรับผิดชอบในฐานะของการเป็นคนไทยเป็นสิ่งที่ควรจะมีคู่กัน ความปราถนาดีต่อบ้านเมืองเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรจะอยู่ภายในกรอบที่เหมาะสม อย่าให้ความหวังดีของท่านกลายเป็นการทำร้ายบ้านเมืองที่กำลังอยู่ในสถานะการณ์อันเปราะบาง ต้องบอบช้ำไปกว่านี้เลย
การปิด ไม่ปิดต้องดูที่เจตนาของเว็บไซต์ แต่ควรมีมาตรการป้องกันการโพสต์ข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมายของประเทศตามสมควร ทางหน่วยงานราชการ เช่น ตำรวจ กระทรวง ICT ต้องมีความสามารถทั้งทางด้านบุคลากร และ เทคโนโลยี ที่จะตามทันผู้ที่ละเมิดต่าง ๆ ด้วยครับ
ฉัตรพล มณีกูล
การปิดห้องราชดำเนิน อาจจะแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้เพียงเล็กน้อยหรืออาจไม่ได้เลยก็ได้ เพราะถ้าคนต้องการแสดงความคิดเห็น เขาก็จะแสวงหาทางอื่นใหม่ ซึ่งมีอีกหลายwebsite ที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ การที่กระทรวง ICT ปิดห้องนี้ไป ยิ่งอาจเป็นสิ่งกระตุ้นให้คนยิ่งอยากแสดงความคิดเห็นมากขึ้น ซึ่งบางคนก็อาจจะรู้สึกว่าตนเองถูกริดรอนสิทธิเสรีภาพ และอาจจะทำให้คนบางคนรู้สึกว่ารัฐเผด็จการเกินไปก็ได้
การปิดห้องราชดำเนินดังกล่าวคงเป็นการแก้ที่ปลายเหตุมากกว่า คงต้องใช้จิตสำนึกของประชาชนชาวไทยทุกคนที่ช่วยกันปกป้องประเทศและชื่อเสียง หากจะห้ามไม่ให้ต่างชาติมาลุกล้ำเอกสิทธิของไทยก็คงไม่ได้ สิ่งที่ดีที่สุดคือเราต้องช่วยกันดูแลประเทศของเราไม่ให้ใครมาทำลายความมั่นคง ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาและสร้างภาพลักษณ์ของสยามเมืองยิ้มให้น่าอยู่และสร้างความสามัคคีในประเทศ
การปิดห้องราชดำเนินเป็นสิ่งทีควรกระทำอย่างยิ่ง คล้ายกับการทำลายแหล่งมั่วสุมทางความคิดที่ไม่สมควรคิด ไม่สมควรเผยแพร่ ทำให้ลดจำนวนประชากรที่มีความคิดไม่เหมาะสมไม่ให้จับกลุ่มรวมตัวกัน
การปิดwebเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ไม่ได้แก้ไขปัญหาระยะยาว ในยุคข่าวสารไร้ขีดจำกัดเช่นนี้ ปิดwebนี้ สำหรับคนที่อยากแสดงความคิดเห็นก็เปลี่ยนwebใหม่ได้ คนที่รับข่าวสารคงต้องใช้สติและไตร่ตรองก่อนที่จะรับข่าวสารใดๆ รวมทั้งก่อนจะถ่ายทอดข้อมูลออกไป อย่าลืม !.. ต้องคำนึงถึงความถูกต้องและคำนึงถึงความเหมาะสมด้วย
สุภาณี