Overthrown: ตอนที่ 3 ปฏิบัติการไม่ลับยุคหลังสงครามเย็น


"only conflict Americans ever fought without truly know why"

สวัสดีครับ

วันนี้มาต่อกันด้วยตอนที่สาม หลังจากตอนแรก เราได้พูดถึงบทบาทของรัฐบาลสหรัฐที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงการปกครองในยุคจักรวรรดินิยม ซึ่งผมได้พูดถึง Monroe Doctrine ที่ถือว่าเป็นหลักของนโยบายต่างประเทศสหรัฐมาตั้งนานครับ จนกระทั่งมี Roosevelt Corollary ขึ้นมาเปลี่ยนความคิดดังกล่าว 

ตอนที่สองพูดถึงปฏิบัติการล้มล้างรัฐบาลยุคสงครามเย็นที่ทำให้เกิดผลหลายๆอย่างตามมา หนึ่งในนั้นก็คือการเข้ามาของรัฐบาลอิสลามของประเทศอิหร่าน

ตอนนี้จะเป็นตอนที่สาม ที่เราจะพูดถึงบทบาทของสหรัฐในการล้มล้างรัฐบาลต่างชาติในยุคหลังสงครามเย็น ซึ่ง Kinzer ถึงกับให้ชื่อภาคนี้ว่า การบุก ตอนนี้มีไฮท์ไลท์ด้วยนะครับ เพราะได้พูดถึงทั้งตาลีบันและซัดดัม ถ้าอยากรู้ก็ตามมาอ่านเลยครับ

เกรนาดา ประเทศที่เล็กเท่าภูเก็ต

เกรนาดาเป็นประเทศเล็กๆที่อยู่ในคาบสมุทรคาริเบียน ขนาดก็ประมาณ 10x21 ตารางไมล์ ก็ประมาณเท่ากับภูเก็ตครับ แต่มีคนแค่หมื่นคนเอง (ข้อมูลจากวิกีพิเดีย จังหวัดที่มีประชากรน้อยสุดในไทยคือระนอง แต่ก็มีคนตั้งแสนกว่าคน) เรียกว่าเอาประชากรเกรนาดาเข้าไปสนามศุกแล้วสนามศุภยังไม่เต็มเลยครับ แล้วทำไมรัฐบาลอเมริกาทำไมถึงต้องมาล้มล้างรัฐบาลเกรนาดาด้วย

คำตอบก็เพราะว่ารัฐบาลเกรนาดานั้นเป็นพวกโปรคิวบา ดังนั้นก็เลยไปคบกับโซเวียตและชาติอื่นๆที่อเมริกาไม่ชอบขี้หน้า อเมริกาก็เลยส่งเรือรบไปครับ โดยมีข้ออ้างบอกว่า จะส่งเรือรบไปรับคนอเมริกาที่อยู่ที่เกรนาดา

แต่แล้วก็มีการปฏิวัติรุนแรงขึ้นมาในเกรนาดา ทำให้รัฐบาลชาติใกล้เคียงหลังจากได้รับการล็อบบี้จากซีไอเอ ก็เลยมาพูดขอร้องให้สหรัฐเข้ามาช่วย

แต่ช้าแต่ เกรนาดานั้นเป็นรัฐในปกครองของอังกฤษครับ มากาเร็ต แท็ชเชอร์ (นายกอังกฤษ) ก็บอกอเมริกาว่าไม่ต้องส่งกำลังไปหรอก แต่เรแกน (ประธานาธิบดีสหรัฐ) นั้น ได้ตัดสินใจไปนานแล้วว่าจะบุก เพราะต้องการสร้างภาพความสำเร็จขึ้นมาหลังจากล้มเหลวมาตลอด ทั้งจากอิหร่านและเวียดนาม

และแน่นอนครับว่าเกรนาดานั้นไม่รอด เพียงแค่วันเดียวสหรัฐก็สามารถล้มรัฐบาลของเกรนาดาได้อย่างง่ายดาย

ปานามา คลองมหาภัย

ขยับจากเกรนาดาก็ไปไม่ไกลกันเท่าไร เรามาดูที่ปานามากันบ้าง ถ้าพูดถึงปานามา เราก็คิดถึงคลองปานามาใช่ไหมครับ ในตอนแรก เราได้พูดกันแล้วว่า จริงๆแล้วคลองปานามา มันไม่น่าจะเกิดขึ้นที่ปานามา มันน่าจะเกิดที่นิคารากัวมากกว่า แล้วก็แต่ก่อนประเทศปานามาไม่มี เพราะปานามาเป็นส่วนหนึ่งของโคลัมเบีย

คลองปานามาเปิดเมื่อปี 1914 แล้วก็มอบสิทธิการปกครองในพื้นที่คลองปานามาให้กับสหรัฐอเมริกา ซึ่งการให้สิทธิการปกครองคลองปานามา พื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ก็ทำให้คนปานามาเองนั้น บ่มความไม่พอใจสหรัฐอย่างลึกๆ

จลาจลนั้นมาเกิดเมื่อปี 1964 เมื่อมีนักศึกษาปานามาถือธงปานามา มาประท้วงบอกว่าคลองปานามานั้นให้ตกมาเป็นของคลองปานามา หลังจากการประท้วงครั้งนี้ ก็ทำให้เกิดขบวนการชาตินิยมปานามาขึ้นมา โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวคือเอาคลองปานามาคืนมา (แต่ไม่ได้เอาไมเคิล แจ็กสันคืนไปนะครับ)

ในปี 1968 ก็เกิดรัฐประหารขึ้นนำโตย โทริโฆ้ส (Torrijos) แล้วพอจิมมี่ คาเตอร์ มาเป็นประธานาธิบดีก็ได้มีการตกลงกับโทริโฆ้สว่าจะยอมให้ปานามานั้น ปกครองคลองได้ภายในปี 2000 แต่ปานามาต้องรับรองความเป็นกลางของคลอง

หลังจากโทริโฆ้สตาย นายพลโนริเอกะ (Noriega) ก็ขึ้นมาคุมอำนาจสูงสุด โนริเอกะนี่เส้นสายเพียบครับ เก่งด้านการต่อต้านการข่าว งานด้านสายลับ รู้จักทั้งวงการค้ายา รู้จักกับทั้งซีไอเอ เรียกว่าคบทั้งอันธพาล ทั้งบัณฑิตครับ แถมการปกครองก็กดขี่ข่มเหง ใครที่กล่าวหาโนริเอกะ ว่าไม่ดี ถูกอุ้มไปเก็บหมด ทำให้คนปานามานั้นไม่พอใจโนริเอกะอย่างมาก

แต่อเมริกาก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ เพราะว่าโนริเอกะนั้นทำทุกอย่างที่อเมริกาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนการปฏิวัติของอเมริกาในนิคารากัวอย่างลับๆ ทำให้อเมริกานั้นหลับหูหลับตามานานมาก

แต่แล้วก็มาถึงจุดจบของโนริเอกะ เมื่อบุชผู้พ่อ นั้นถูกกล่าวหาว่าไร้ประสิทธิภาพ ไม่เด็ดขาด ก็เลยสั่งจัดการกับโนริเอกะซะ เหตุผลที่สำคัญก็คือว่าตอนนั้นบุชผู้พ่อถูกกดดันอย่างหนักจากทางรัฐสภาเพราะ

  1. อัยการของรัฐฟลอริดา ฟ้องว่าโนริเอกะค้ายา
  2. โนริเอกะทารุณคนปานามาอย่างมาก เรียกว่าอุ้มฆ่าทารุณสารพัด

แต่จริงๆแล้ว Kinzer บอกว่าเพราะโนริเอกะสนับสนุนแผนสันติภาพในอเมริกากลาง แผนที่อเมริกานั้นไม่ชอบและไม่เห็นด้วย (ดังนั้นเมื่อมันมีความขัดแย้งในผลประโยชน์กัน ก็เป็นโนริเอกะที่ต้องไป)

อัฟกานิสถาน ความผิดพลาดของซีไอเอ

ประเทศอัฟกานิสถานนี่ต้องเรียกว่าประเทศต้องคำสาบจริงๆเพราะว่าตัวเองก็ไม่มีทรัพยากรอะไรเลย เพียงแต่ว่าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของโลก เพราะอยู่ใกล้ทั้งโซเวียต อิหร่าน อินเดียและจีน แต่ตลอดสงครามโลกทั้งสองครั้ง อัฟกานิสถานนั้นอยู่รอดปลอดภัยเน้นความเป็นกลางของตัวเองได้ตลอด

แต่จนแล้วจนรอด พอปี 1979 ก็เกิดรัฐประหารขึ้นและได้รัฐบาลโปรโซเวียตขึ้นมาปกครอง แต่คนอัฟกันนั้นไม่พอใจโซเวียต เนื่องจากมองว่าโซเวียตนั้นเป็นพวกล่าอาณานิคม แถมต่อต้านมุสลิมด้วย

เมื่อคนเริ่มไม่พอใจออกมาประท้วง รัฐบาลอัฟกันโดยความช่วยเหลือของโซเวียตก็จัดการกับคนที่ออกมาประท้วง เพราะว่าโซเวียตกลัวว่าถ้าอัฟกานิสถานเป็นเหมือนอิหร่านแล้วจะยุ่ง อเมริกาพอเห็นก็ดีใจครับ เพราะว่าต้องการจะทำให้อัฟกานิสถานนั้นเป็นเวียดนามของรัสเซีย ก็เลยตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะช่วยพวกกบฏ (เรียกว่าจริงๆไม่สนใจอะไรในอัฟกานิสถานเลยครับ สนใจว่าจะสู้กับโซเวียตอย่างเดียว)

ถ้าจะสู้ในอัฟกานิสถานได้ อเมริกาก็ต้องหาพื้นที่ประเทศข้างให้พอเป็นที่พักใจ หรือว่าแหล่งซ่องสุม มองไปมองมาก็เจอปากีสถาน แต่ปากีตอนนั้นเพิ่งปฏิวัติเองครับ ปกครองโดยรัฐบาลทหาร (เหมือนประธานาธิบดีมูชาราฟตอนนี้เลย) ซึ่งรัฐบาลปากีก็ยอมครับ แต่มีข้อแม้นะ ข้อแม้คืออเมริกานั้นจะต้องส่งอาวุธส่งเงินทุกอย่างผ่านทางปากี

เอาล่ะครับ เรื่องไม่เป็นเรื่องก็เกิดที่ตรงนี้แหละ เมื่อสหรัฐไม่สามารถส่งอาวุธและเงินไปได้โดยตรงต้องส่งผ่านปากี และอเมริกาจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าเงินที่เราส่งไปอ่ะ มันส่งไปถึงใคร

แต่ปากีก็ทำตามสัญญานะครับ คือก็ส่งเงินส่งอาวุธไปให้ warlord หรือพวกหัวหน้ากลุ่มติดอาวุธทั้งหลาย แต่ปากีไม่ได้โง่นี่ครับที่จะส่งไปให้หัวหน้ากลุ่มติดอาวุธทุกกลุ่ม ปากีก็เลือกสิครับว่าจะส่งเงินกับอาวุธไปให้กับกลุ่มติดอาวุธกลุ่มไหน ซึ่งก็แน่นอนไม่พ้นกลุ่มที่ปากีนั้นมีอิทธิพล และจะเป็นกลุ่มไหนไม่ได้ถ้าไม่ใช่กลุ่มที่เป็นมุสลิม เพราะปากีก็มุสลิมเหมือนกัน

นอกจากนี้แล้ว ปากียังตั้งแคมป์ฝึกพวกคนที่จะเข้าไปก่อการร้ายขึ้นมาอีก ซึ่งแคมป์นี้มาจากไหน ก็มาจากอาวุธและเงินที่ซีไอเอส่งเข้าไปทั้งนั้นแหละครับ แล้วคนหล่ะไปเอามาจากไหน ก็ไปหามาจากคนมุสลิมที่อยู่ในชาติต่างๆ แล้วก็เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบพวกตะวันตก คนที่เชื่อว่าเนี่ยเขาจะมาทำจีฮัด คนพวกนี้แหละครับที่ซีไอเอจ่ายเงินแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่เอามาฝึก ซึ่งหนึ่งในนั้นเราก็รู้จักใช่ไหมครับ เพราะเขาชื่อบิน ลาเด็น

เมื่อต้องใช้เงินมากขึ้นอเมริกาก็มองไปมองมา ก็บอกว่าไปชวนซาอุมาร่วมด้วยช่วยกันดีกว่า ซาอุก็ไม่ว่าอะไรครับบอกอเมริกาว่า ถ้าอเมริกาให้เงินเท่าไร ซาอุก็จะให้เงินเท่านั้น ซาอุเองก็อยากช่วยอยู่แล้ว เพราะต้องการจะแพร่ความคิดแนววะฮะบีกับคนอื่น

พอปี 1986 กอบาชอฟ (ประธานาธิบดีโซเวียตสมัยนั้น) ก็บอกว่าไม่ไหวแล้วถอนทหารออกดีกว่า ก็เลยพยายามตั้งรัฐบาลโปรโซเวียตเข้ามา แล้วก็ดูแลเรื่องการปกครองไปสักพัก แล้วปี 1989 ทหารโซเวียตคนสุดท้ายก็ออกมาจากอัฟกานิสถาน อีกไม่กี่ปีต่อมาโซเวียตก็ล่มสลาย

อเมริกาพอรู้ก็ดีใจครับ บอกแต่ว่าชนะแล้ว แล้วก็จบเลิกไม่สนใจบายๆไปแล้ว

ปี 1992 ประธานาธิบดีที่โซเวียตตั้งมาก็ลาออก แล้วก็เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในอัฟกานิสถาน แล้วตอนนี้แหละครับ ที่ปากีนั้นเป็นป๋าดัน ดันเอาตาลีบันขึ้นมาครองอัฟกานิสถาน โดยที่ซาอุนั้นเป็นสปอนเซอร์ใหญ่

ปี 1996 บิน ลาเด็น ก็กระเด็นออกมาจากซูดาน เข้ามาอยู่ในอัฟกานิสถาน พร้อมด้วยกลุ่มอัล เคด้า พร้อมหิ้วเงินมาอีก สามล้านเหรียญ เพราะฉะนั้นตาลีบัน นั้นก็คือกลุ่มก้อนที่กำเนิดมาจาก ปากี อเมริกา ซาอุ และบิน ลาเด็น พอตาลีบันเข้ามปุ๊ป อัฟกานิสถานก็เปลี่ยนเป็นประเทศมุสลิมไปเลย มีการจำกัดสิทธิมากมายเต็มไปหมด

แต่ตอนนั้นอเมริกาไม่ว่าอะไรเลย เพราะว่าบริษัทยูโนแคลนั้นต้องการจะสร้างท่อน้ำมันผ่านอัฟกานิสถาน เลยขอให้มีรัฐบาลเหอะ รัฐบาลไหนก็ได้ ประเทศไม่มีความวุ่นวายเป็นพอ แล้วก็ทูตอเมริกานี่แหละครับที่ไปเจรจากับรัฐบาลตาลีบันเรื่องสร้างท่อส่งน้ำมัน

Kinzer บอกว่า 9/11 นั้นเกิดจากการอุปถัมภ์ของ 5 รัฐบาลด้วยกัน ตั้งแต่

  1. รัฐบาลคาร์เตอร์ที่สั่งให้เริ่มปฏิบัติการลับของซีไอเอในอัฟกานิสถาน
  2. รัฐบาลเรแกน ที่ส่งเงินและอาวุธไปให้
  3. รัฐบาลบุชคนพ่อ ทำให้พวกหัวรุนแรงเกลียดอเมริกาเพิ่มมากขึ้น เพราะดันไปตั้งฐานทัพสหรัฐในซาอุ ซึ่งถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์
  4. รัฐบาลคลินตันที่ไม่สนใจอะไรเลยต่อปัญหาความรุนแรง และการเปลี่ยนรูปของพวกหัวรุนแรงเป็นการก่อการร้าย
  5. รัฐบาลบุชคนลูก ที่ไม่สนใจต่อคำเตือนมากมายที่มีต่อพวกอัล เคด้า (คินเซอร์บอกว่า บุชคนลูกนี้ไม่รู้อะไรเลยครับ ตอนแรกที่พูดถึงตาลีบัน ยังนึกว่าวงดนตรีอยู่เลย)

9/15/2001 มีการประชุมที่แคมป์เดวิด รัฐมนตร์กลาโหมและรัฐมนตรีช่วยที่ชื่อรัมเฟลด์และวูฟโฟวิตซ์ บอกว่าบุกอัฟกันไม่ได้อะไรหรอก บุกอิรักดีกว่า

แต่แล้วเมื่อเดือนตุลาคม ปีเดียวกัน อเมริกาก็ตัดสินใจบุกถล่มตาลีบัน โดยที่อเมริกาจะส่งแต่เครื่องบินไปถล่ม งานภาคพื้นดินนั้นจะจ้างพวกกลุ่มติดอาวุธลุยเอา แน่นอนครับพวกนี้ก็ไม่ค่อยตั้งใจจะบุกเท่าไร เรียกว่าต้องจ่ายกันเยอะหน่อย ก่อนที่จะบุกเต็มตัว แต่เวลาที่เสียไป ก็ทำให้บิน ลาเด็น หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

อิรัค "only conflict Americans ever fought without truly know why"

ผมชอบที่คินเซอร์เขียนมากครับว่า อิรักนั้นจะเป็นสงครามที่อเมริกาไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้วสู้ไปทำไม

คินเซอร์บอกว่าอิรักเนี่ยบุชคนลูกนั้นตั้งใจจะบุกตั้งแต่เข้ามาเป็นประธานาธิบดีใหม่ๆแล้ว เพราะแค่สิบวันหลังจากสาบานตน ผู้อำนวยการซีไอเอ ก็ไปเอารูปโรงงานมาแล้วก็บอกว่านี่แหละโรงงานสร้างอาวุธเคมีและชีวภาพ จากนั้นอีกแค่สองวัน โคลิน พาวเวล ก็เขียนแผนที่จะแซงชั่นอิรักขึ้นมา แต่แผนนั้นโดนตีตกไปโดยคนที่ชื่อว่าโดนัลด์ รัมเฟลล์อีกแล้ว โดยบอกว่าแซงชั่นแล้วได้อะไรหรอ ถ้าเราไม่เอาซัดดัมออก ก็แซงชั่นมาตั้งนานแล้ว

ในระหว่างนั้นหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้าย ก็ไปหาคุณไรซ์ ตอนนั้นเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคง (แต่ตอนนี้เป็น รมต ต่างประเทศอเมริกาคนปัจจุบัน) ว่าขอให้นัดผู้บริหารรัฐบาลหน่อย จะได้บอกถึงความร้ายแรงของอัล เคด้า

เวลาผ่านไปสามเดือนครับ คุณไรซ์แกถึงจะนัดให้ แต่ก็นัดแค่พวกระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีครับ แล้วก็เป็นคุณวูลโฟลวิตซ์นี่แหละ ที่บอกว่า เอาน่าขออิรักก่อน อัลเคด้าอ่ะไม่มีอะไรหรอก แม้แต่จะได้รับการยืนยันจากหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญและซีไอเอว่า อิรัคนะหมดสภาพแล้ว ไม่ได้ช่วยผู้ก่อการร้ายเลย แกก็ไม่สนใจ

คินเซอร์บอกว่า อเมริกานั้นสนใจเรื่องอิรัคมาตั้งแต่ปี 1980s แล้ว ตั้งแต่ตอนที่เรแกนกลัวอิหร่านจะขยายอิทธิพลของมุสลิมออกไป อเมริกาก็เลยเป็นสปอนเซอร์ให้อิรัก ไม่ว่าจะเป็นการขายอาวุธ ให้กู้ รับสัมปทาน 

แต่การสนับสนุนและความเชื่อใจของอิรักก็จางลง เมื่อซัดดัมนั้นดันไปรับเอาอาวุธจากโซเวียตด้วย แต่ตอนนั้นพอบุชคนพ่อนั้นได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีใหม่ๆ ความสัมพันธ์กับอเมริกาก็ยังดีๆกันอยู่

ตอนนั้นทูตอเมริกาก็เข้ามาคุยกับซัดดัม ซัดดัมก็บ่นถึงคูเวตว่าคูเวตนั้น ทำร้ายอิรักอย่างนู้นอย่างนี้ (บอกแม้กระทั่งว่าวางยานมเด็กทารกในอิรักด้วย) แล้วก็บอกใบ้ไปว่า ทำแบบนี้อีกไม่ไหวแล้วนะ อิรักมีความอดทนจำกัด เรียกว่าซัดดัมนั้นบอกไปก่อน กะว่าจะซาวเสียงดูว่าอเมริกานั้นเห็นด้วยหรือเปล่า

ท่านทูตอเมริกาก็ดีใจหายครับบอกไปว่า เอ่อ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอาหรับกับอาหรับด้วยกันเนี่ย อเมริกาไม่ยุ่งหรอก พูดง่ายๆ บอกว่าจะทำอะไรกับคูเวตก็ทำไป ไม่ยุ่ง

หลังจากนั้นครับ 8 วันอันตราย อิรักก็ส่งกองทัพไปยึดคูเวตเลย ตอนนั้นกำลังขึ้น ม 1 ครับ คุณแม่บอกอ่านข่าวซะ เดี๋ยวไปสอบสัมภาษณ์แล้วจะตกลูก แต่เขาไม่ถามอ่ะครับคุณแม่

บุชนั้นพอรู้ข่าวก็ตกใจมากครับ (นี่ขนาดบอกใบ้มาแล้วนะ) เพราะว่าคูเวตนั้นเป็นแหล่งน้ำมันที่สำคัญของอเมริกา แล้วก็ใช้เวลา ห้าเดือน ในการกล่อมชาติต่างๆ 34 ประเทศให้เข้ามาร่วมปลดปล่อยคูเวตจากอิรัค แล้วหลังจากนั้นอิรักก็กลายเป็นคนบาปของสหรัฐไปเลย มาตรการคว่ำบาตรออกมาเพียบ

ปี 1993 อเมริกาส่งเครื่องบินไปบอมบ์แบกแดดอีก เพราะรู้ว่าซัดดัมวางแผนลอบฆ่าบุชคนพ่อ 

ปี 1998 ก็ส่งไปบอมบ์อีก เพราะว่าซัดดัมนั้นปฏิเสธไม่ให้ผู้ตรวจสอบอาวุธเข้าไป

แต่ซัดดัมก็รอดตัวทุกครั้ง เรียกว่าไม่ตายอ่ะครับ ทำให้ผู้บริหารรัฐบาลนั้นรู้สึกว่าซัดดัมนั้นตายยากจริงๆ มันเหมือนรู้สึกลึกๆว่าพ่ายแพ้นะครับ ทำไงซัดดัมก็ไม่ลงจากตำแหน่ง ไม่ตายด้วย มันก็เลยกลายเป็นความเหม็นขี้หน้าไปในตัว

หลังจาก 9/11 บุชก็เลยพยายามหาทางเชื่อมอิรักให้เข้ากับอัล เคด้า แล้วเรื่องก็ออกมาที่ว่า ซัดดัมนั้นพัฒนาอาวุธเคมี เชื้อโรค และนิวเคลียร์ (ข่าวล่าสุดออกมาว่า รูปภาพต่างๆที่เอามาจากสายลับอ่ะครับ สายลับมั่วขึ้นมาหมดเลย แล้วตัวสายลับก็ยืนยันเองด้วยว่ามั่ว)

คินเซอร์บอกว่าเนี่ยจริงๆแล้ว ซัดดัมนะเกลียดอัล เคด้า สุดชีวิต ไม่เคยชอบพวกมุสลิมหัวรุนแรงเลย ไม่ชอบไม่ว่า ฆ่าด้วยซ้ำ แถมสภาพเศรษฐกิจอิรักนั้นแย่มากไม่มีทางจะสร้างอาวุธอะไรได้ แล้วซัดดัมเองก็รู้ว่าถ้าทำจริงๆจะโดนอะไร แล้วซัดดัมรักอิรักมาก ไม่มีทางทำหรอก

แต่แล้วคินเซอร์ก็ให้เหตุผลมา 8 ประการบอกว่าทำไมสหรัฐถึงบุกอิรัก

  1. น้ำมัน เพราะต้องการควบคุมน้ำมันของอิรัก ด้วยความเชื่อว่าเศรษฐกิจอเมริกานั้นไปได้ด้วยดีถ้ามี supply น้ำมันอย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด
  2. กำไร ของบริษัทขายอาวุธและบริษัทก่อสร้าง เพราะบริษัทพวกนี้แหละ เป็นสปอนเซอร์จ่ายเงินให้กับการเลือกตั้งประธานาธิบดีให้กับบุช
  3. ต้องการให้เป็นสนามลองรบ ดูว่าสงครามในอนาคตจะเป็นเช่นไร
  4. ต้องการแสดงให้เห็นถึงอำนาจของสหรัฐในแถบตะวันออกกลาง
  5. ช่วยราชวงศ์ซาอุทางอ้อม เพราะว่าราชวงศ์ซาอุนั้นเริ่มง่อนแง่นในความนิยม
  6. ต้องการสนับสนุนอิสราเอลทางอ้อม เพราะซัดดัมนั้นไม่ชอบยิวมากๆ
  7. ต้องการแสดงให้โลกเห็นว่าอำนาจทางทหารของสหรัฐนั้นมากแค่ไหน  
  8. "deep desired to spread liberty around the world" อันนี้ตามที่บุชบอกครับ ต้องการให้ทุกประเทศมีเสรีภาพ
  9. และอันสุดท้าย อันนี้ผมบอกเองว่า เพราะว่าเขาเหม็นหน้าซัดดัม และอยากล้างแค้นมาตั้งนานแล้วๆๆๆๆๆ (เหตุผลส่วนตัว)

ดังนั้นก็เลยไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้วเนี่ยทำไมเขาถึงบุกอิรักกันแน่ แต่คินเซอร์ก็บอกว่า สงครามอิรักนั้นเป็นผลพวงมาจากเหตุการณ์สามอย่างในสามมุมของโลก

  1. อิหร่าน เพราะว่าการปฏิวัติของอิหร่านทำให้เกิดความกลัวของรัฐบาลมุสลิม ทำให้เกิดการปฏิวัติในอัฟกานิสถาน ทำให้ตาลีบันขึ้นครอง และทำให้อิรักโดนลูกหลง
  2. เวียดนาม เพราะว่าการพ่ายแพ้สงครามของสหรัฐนั้น ทำให้หลายๆคนเชื่อว่าสหรัฐนั้นคงไม่ส่งทหารไปบุกยังประเทศใดๆอีกแน่นอน (อิรักก็เลยโดนซะเพื่อเป็นการบอกว่า ไม่ใช่เฟ้ย)
  3. เท็กซัส เพราะความเป็นคาวบอยของเท็กซัส ที่เชื่อในเรื่อง gun and order (ปืนนำมาซึ่งความสงบ) อันนี้คินเซอร์บอกว่า ความเชื่อนี้เริ่มมาตั้งแต่รัฐบาลวอชิงตันนั้นให้การสนับสนุนเท็กซัสต่อสู้กับพวกเม็กซิกันตั้งแต่สมัยนู้นนนนนนนนนนนนน หลายร้อยปีมาแล้ว

ยาวแล้วครับ ไว้ไปสรุปตอนหน้าครับ ตอนหน้าจะสรุปว่าหนังสือเล่มนี้บอกอะไรบ้าง โดยที่จะเชื่อมกับหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า A confession of an economic hitman ซึ่งเล่มนี้นั้นอ่านจบมานานแล้วครับ แต่ผมว่ามันเสริมกันอย่างมากครับ

ปล ต้องขอประทารโทษด้วย ถ้าบางคนอ่านแล้วอาจจะขัดๆลูกตา เพราะว่าอิรัก กับอิรัค นั้นดูจะเขียนสลับกันมั่วไปหมดครับ :D

Source: Kinzer, S. "Overthrown: American's century of regime change from Hawaii to Iraq" Times Book, NY 2006 ISBN 978-0-8050-8240-1

หมายเลขบันทึก: 88980เขียนเมื่อ 7 เมษายน 2007 12:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 04:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ไปอ่านหนังสือ

เข้ามเยี่อน...

เจริญพร

  • ตามมาหาความรู้
  • กำลังรวมกลุ่มกันอยู่ที่บ้านครูบาสุทธินันท์
  • ขอบคุณครับ

กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ

กราบขอบพระคุณพระคุณเจ้ามากครับ ที่ได้กรุณาสละเวลาเข้ามาอ่านอย่างเสมอมาครับ

กราบนมัสการมาด้วยความเคารพอย่างสูง

 

สวัสดีครับอาจารย์ขจิต

ขอบพระคุณมากครับอาจารย์ที่ได้กรุณาเข้ามาอ่าน

หวังว่าอาจารย์และทุกๆท่านที่อยู่บ้านท่านครูบานั้นคงจะมีความสุขนะครับ :D

ขอขอบคุณผู้เขียนข้อความให้อ่านมากเลยค่ะ  ได้สาระความรู้เพิ่มเติมมากมาย  กำลังทำรายงานเรื่องสงครามเย็นยุคโลกาภิวัฒน์อยู่ค่ะ  พอดีได้บทความตรงนี้พอดี  ขอบคุณมากที่ให้ความรู้ดี ๆ อย่างนี้  วันหลังจะกลับมาเยี่ยมชมใหม่นะคะ  ขอบพระคุณอย่างจริงใจอีกครั้งค่ะที่ให้ข้อมูลดี ๆ เป็นทานกับนักศึกษาและผู้สนใจทั่วไป  ขอให้คุณโชคดีและมีกำลังใจในการเขียนบทความอีกนะคะ

สวัสดีครับคุณยุพา 

โหหหห ไม่น่าเชื่อครับ ว่าเว็บที่ผมเขียนจะมีคนหาเจอ แล้วสามารถเอาไปใช้กับรายงานได้ด้วย ยินดีมากเลยครับ

ขอให้ทำรายงานให้สนุกนะครับ

อยากทราบเกี่ยวกับสภาโคมิคอนค่ะ ว่ามีหน้าที่อะไร หาเท่าไรก็หาไม่เจอหรืออาจจะอ่านไม่หมดยังไงหากว่าทราบ กรุณาตอบด้วยนะคะ ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

ผมอยากรู้เรื่องของความสัมพันธ์ปากีฯกับอเมริกาช่วงสงครามเย็นและหลังสงครามเย็น อ่ะคับ ใครมีข้อมู๔ลกรุณาส่งให้ผมที่นะคับ  ขอบคุณมากคับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท