KM-ห้องเอกชน / 2 ธันวาคม 2548 Spansion (Thailand) Limited


KM-ห้องเอกชน / 2 ธันวาคม 2548
Spansion (Thailand) Limited
ดร.ปรอง กองทรัพทย์โต
การนำเสนอ
กรอบความคิดและวิธีการปฏิบัติ
กายวิภาคขององค์กร
                รากของคน คือ กรอบความคิดพื้นฐานหลัก มีจิตใจ มี destiny
                จิตใจ คือ จิตสำนึก
                Life system = business process
                Body and organ = org. structure
                Character = values
                คนมักคิดว่าสมองขององค์กรคือ KM แต่สำหรับ spansion ไม่ใช่ คื TCPI2 Total Continues Process improvement and innovation
                Vitamin เราขาดไม่ตาย แต่ไม่แข็งแรง  แต่ km จะช่วย
               
                ในการปฏิบัติ  จะต้องมีทิศทาง ทำงานอย่างไร กลไกทำงาน รู้อุปนิสัยขององค์กร เป็นอย่างไร ถ้ามีจุดหมายปลายทาง และหาเครื่องมือ ต้องอยู่ในกรอบขององค์กร ว่าจะไปอย่างมีคุณธรรม หรือด้อยคุณธรรม
                Direction
                Purpose กำหนดทิศทาง
                Vision
                Mission
                HR Philosophy
                Execution
                การพัฒนาองค์กรใน 4 มิติ (HRD 4-D)
                วิตามินขององค์กร
                Direction
                Purpose การดำรงของ spansion อยู่เพื่ออะไร  จะเป็นผู้ผลิตที่ให้คำตอบกับลูกค้าด้วย โดยกำกับโดยบุคคล หรือพนักงาน คือสิ่งสำคัญ พนักงานมี 1500 คน สายผลิต 800 คน ช่างเทคนิค ฝ่ายสนับสนุน 500 คน บุคลากรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดขององค์กร อยากทำให้บ้านมีความหมายมาก home มีความหมายมากว่า house อยากทำให้ spansion มกากว่าบ้าน ดูแลลูกค้า คนส่งมอบงานให้เป็นอย่างดี
                Value เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เป็นการเตรียมคน มีความเชื่อ 7 ประการ กำหนดพฤติกรรมของคนในองค์กรได้ ถ้ามีความเชื่อ ความบริสุทธิ์ยุติธรรม ถ้ามีความเชื่อ จะไม่หยุดที่จะเรียนรู้  ในมหาวิทยาลัย 4 ปี 8 เทอม ๆ ละ ถ วิชา จะเอา 5 วิชามากำหนดชีวิตหรือ?
1.       เคารพในความแตกต่าง
2.       มีศักดิ์ศรี
3.       มีความรับผิดชอบ
4.       สนุกสนานร่าเริง มองทุกอย่างเป็นบวก มีการแข่งขัน
5.       เชื่อมั่นเรื่องของความรู้
6.       มีความริเริ่มสร้างสรรค์
7.       เชื่อมั่นในความสำเร็จของลูกค้า
                การเตรียมดิน = การเตรียมบุคลากร ให้พร้อมที่จะเป็นผู้ให้ ทำอย่างไรให้พร้อมที่จะเรียนรู้
1.       การอบรม ดูแลร่างกาย จิตใจ สังคม สติปัญญา
                ด้านร่างกาย ต้องดูแลเรื่องอาหาร ไม่มีสารปนเปื้อน มีห้อง fitness มีสนามเทนนิส เพื่อสะท้อนในการพัฒนาทางด้านร่างกาย ร่างกายต้องแข็งแรง
                สติปัญญา ต้องเฉียบแหลม ต้องสร้างให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง สิ่งแวดล้อมต้องเอื้อต่อการเรียนรู้ ดีใจที่จะแลกเปลี่ยน
กรอบความคิดที่จะเตรียมคนแบกเป็น 9 มิติ
B1 การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง life long learning
หลักสูตร 3 ปี
·       IT
·       ทำให้ตระหนักและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
·       การเป็นผู้นำ ต้องเป็นทีม อยู่บ้านเป็นผู้นำครอบครัว
·       ความรู้ในงาน
                 
                มองว่าตัวเองเหมาะกับการทำงานอะไร เช่น มีเซียม ยิบอินซอย เป็นศิลปินอายุ 40+
                ต้องเชื่อว่าเด็กทุกคนเก่ง แต่ความเก่ง เกรดไม่ได้เป็นตัวบอกว่าเก่ง ต้องกลับไปถามว่า ลูกคุณเก่งอะไร กลับไปถามพนักงานว่าคุณเก่งอะไร จบมาทำงาน พูดกะคนไม่รู้เรื่อง ความเก่งของมนุษย์มี 8 อย่าง ถ้าบอกว่าลูกคุณเก่งกีฬา แต่ต้องทำการบ้านให้เสร็จก่อน สิ่งเหล่านี้คือตัวกำหนด ต้องถอดให้ได้ว่าคุณเก่งอะไร
                B2 Accrue talent employees
                B3 Learning environment
                B4 Partnership
               
                HEART
·       Social Skills
·       Teamwork
·       Fun & enjoy
                ร่างกายแข็งแรง สติปัญญาเฉียบแหลม ยังไม่พอ การบ่มคนให้ดี ต้องมีจิตวิญญาณ คนรู้จักให้ เห็นใจ เข้าใจสังคมที่เราอยู่ มีความซื่อสัตย์ มีศักดิ์ศรี เอื้ออาทร ทำกับคนที่ด้อยโอกาสกว่า จะรู้ว่าอะไรกันนักหนาในชีวิตจะช่วยทำจิตใจดีงาม .... ต้องรู้จักอยู่ในสังคม ต้องรู้จัก teamwork ต้องสนุกสนานร่าเริง
                มันสมอง TCPI2 คือการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
                TCPI2 (KAIZEN) System พื้นฐานหลักคือ การมีส่วนร่วมพัฒนาอย่างต่อเนื่องแบบ Bottom Up จะทำให้เกิดการพัฒนา มีสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนได้ดี ต้องมีจิตใจที่จะพัฒนา
               
                1 ปีมีโครงการที่สำเร็จ 500-600 โครงการ มีโครงการที่แตะต้องได้หลายพันเรื่อง การทำงานอย่างต่อเนื่อง มี turning document ... มีความสามารถในการแก้ไข วิเคราะห์ปัญหา
                เช่น การตัดต้นเข็มที่บริษัทตัดได้ตรง แต่ไม่มีสเป็ค ได้รับคำตอบว่า หยิบกรรไกรแล้วตัด หรือหยิบคู่มือของการว่ายน้ำมาอ่าน พรุ่งนี้ก็ยังว่ายไม่ได้แน่นอน
               
                การจัดความรู้ขององค์กรเน้นเรื่อง Technical เพราะมีการแข็งขันที่สูง
                แนวคิดเรื่อง KM
                ความรู้ที่เด่นชัด Explicit knowledge
·       ต้องเข้าถึงให้ได้
·       นำไปปรับใช้
·       เรียนรู้
·       รวบรวมและจัดเก็บ
                ความรู้ซ่อนเร้น มีใจเบ่งปัน มีใจที่จะให้ รู้แล้วเก็บเป็นการทำลายการแลกเปลี่ยนความรู้ จึงทำวิจัยแลกเปลี่ยน สร้างและยกระดับ นำไปปฏิบัติใช้ได้ .... เน้นที่กระบวนการและคน
                สร้าง knowledge online, การจัดเก็บสิ่งที่สำคัญ นำไปต่อยอดได้ง่าย
                ชุมชนนักปฏิบัติ และสังคมแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
               
                Knowledge Online และ Sharing
                อย่าไปบอกว่าจะทำ KM ไม่ใช่ยา km คือ การการจัดการ จะทำอย่างไรให้องค์กรแลกเปลี่ยนความรู้
                มีรากฐาน แต่ไม่เริ่มจาก 0 จะสร้างโดยจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว
                Transition
                เลือกคนทำงานอย่างไร
                ต้องเข้าใจตัวเองก่อน ไม่เริ่มคิดในสิ่งที่เราไม่รู้ว่าคืออะไร
               
                ทุกองค์กรมี KM กลับไปดูว่าองค์มีการจัดเก็บองค์ความรู้อย่างไร
                Communication ต้องมองหาช่องทางที่จะมีการ sharing ในหน่วยงาน การมีบอร์ด มี web board การแลกเปลี่ยนกลับผู้บริหารทุกระดับ
                กระบวนการที่จะจัดเก็บทำอย่างไร เช่น องค์กรมีเวบแต่ไม่มีใครรู้ว่ามี มี knowledge online มีการประชาสัมพันธ์ กิจกรรมต่างที่เกิดขึ้น นำ journals มาใส่ไว้ e-library
                มีการรวมกับมหาวิทยาลัย มีการฝึกอบรม ต้องมีเวทีให้ กับการสร้างเวทีพี่อยากเล่า เวทีพี่อยากพูด เวทีผมอยากพูด เช่น ใกล้ปีใหม่ จะมีเวทีพูดเรื่องความปลอดภัย
                สุดท้าย มี Reward recognitions
                Spansion ขยายผลโดยการเพิ่มกิจกรรม
                SNA
                Expert Map ... มีการส่งต่อความรู้
                Blog อยากแสดงอะไรก็ได้ ... อยากจะเล่า
               
                ข้อเสนอแนะ
                จุดประสงค์ที่ชัดเจน มีเป้าหมาย  spansion คือเก็บทางด้าน technical
                Organization commitment องค์กรต้องยอมรับ ผู้บริหารต้องรับฟังความคิดเห็น เข้าใจ และสนับสนุน
                ต้องสร้างสิ่งแวดล้อมในการแลกเปลี่ยนความรู้ คนอยากเล่า อยากให้สังคมรู้แตกฉานมากขึ้น
                อย่าคิดว่ากรุงโรมสามารถได้ภายในคืนเดียว ทำ KM ต้องใจเย็น อย่ารอว่า KM เป็นพหูสูต แล้วจึงทำ
                อย่าคิดว่ามันคือโปรเจค KM คือวิตามิน ร่ากายถดดอย กินวิตามิน และก้าวเข้าสู่ระบบ
                อย่าเริ่มจาก 0 ศึกษาโครงสร้างขององค์กร เชื่อว่าในองค์กรมีอยู่แล้ว90%
                Q and A
                ผู้บริหารไม่มีเวลาในการทำ KM จะทำอย่างไร
                ผู้บริหารให้ใจ และยอมรับว่า KM เป็นสิ่งจำเป็น ถ้าไม่เร่งด่วน 3-5 ปีทำได้
                จะสร้างคุณค่าร่วมได้อย่างไร
                ถ้าไปอยู่อเมริกา ขับรถไปเจอ Stop จะต้องหยุดแน่นอน.... ไปเห็นป้ายที่ปากเกร็ด ไม่หยุด แค่ชะลอ ... ความหมายคือ คนทุกคนอยู่ได้ในสังคม แต่ละสังคมมีความแตกต่างกัน ... ถ้าบอกว่าบริษัทมีความแตกต่างกันทางสิ่งแวดล้อม ต้องมีการปรับเปลี่ยนทางพฤติกรรม... value คือความเชื่อแต่ฝั่งอยู่เป็นรากลึก ... ความเชื่อองค์กร ต้องมีการแลกเปลี่ยน
                จากหน่วยงานภาครัฐ ต้องมาทำธุรกิจ จะนำประยุกต์ใช้ได้อย่างไร
                ต้องเข้าใจรากฐานขององค์กร ความเชื่อของคนในองค์เป็นอย่างไร การปฏิบัติทำอย่างไร มีวิธีการทำงานอย่างไรบ้าง ต้องเริ่มจากความเชื่อ การทำแบไม่มีความเชื่อ ไม่มีใจ มีโอกาสที่จะสำเร็จได้แต่ไม่ยั่งยืน
                กลไกที่จะใช้คือ
                เตรียมคน เตรียมใจให้พร้อม
                ความเสี่ยงเรื่องการสูญเสียความรู้ในองค์กร Tacit knowledge ทำอย่างไร
                สิ่งสำคัญขององค์กรในหลายๆ องค์กร ทำอย่างไรให้แตกต่าง หลายบริษัทที่เป็น Consultants’ ทั่วโลกทำ ตั้งสมาคมศิษย์เก่าของบริษัท ไปไหนมาทั่วโลก นำความรู้กลับมาแลกเปลี่ยนกันได้ คิดด้านสุขก่อน ปัญญาเราจะเกิด
                การทำ KM คุ้มหรือไม่คุ้ม มีตัวชี้วัดอะไรไหม
                การคุ้มคือต้องลงทุน ต้องมีความเชื่อก่อน สำคัญที่สุด หลังจากนั้นคือ locate resource ... ถึงได้ผลไม่เห็นเด่นชัด แต่มีความเชื่อว่าคุ้ม ... ความรู้ของมนุษย์ 4 ระดับ คือ ไม่รู้ตัวเองว่าไม่รู้  คุณรู้ตัวเองว่าคุณไม่รู้ คุณรู้ว่าตัวเองรู้ คุณไม่รู้ว่าตัวเองรู้ ...
               
อยากได้อะไรจากการทำ KM
                Spansion มี System performance
                Outcome คือ อยากได้จากการทำ KM แต่อย่าบอกว่าเป็นเพราะ KM แต่เป็นเพราะระบบขององค์กร KM เป็นแค่ตัวช่วย สิ่งที่เราอยากได้ ต้องมีทิศทางในทางบวก
                Outcome performance ... Output คือ longterm ต้องหาตัววัดที่เหมาะสม อละอยากได้เป็นหลัก
               
                ทำ KM แล้วได้ หรือไม่ได้
                ได้วัฒนธรรม เข้าใจตัวตนมากขึ้น ปรับให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
                ไม่ได้ แสดงว่าไม่มีจุดประสงค์ ทำ KM เพื่อเป็นการทดลองหรือแบบสอบถาม .. KM คือเครื่องมือเท่านั้น
                ถ้าคนในองค์ไม่ถูกกันจำมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างไร
                Spansion ใช้หลักสูตรของ .......... ช่วยให้แต่ละคนปรับพื้นฐานของตนเอง คือ ฟังคนอื่นให้ถ่องแท้ก่อน แล้วค่อยตัดสิน ...... คนมีเรื่องลึก แต่เราจะชอบฟังแต่เรื่องผิวๆ.... ต้องเข้าใจก่อน จะไม่มีการ Bias
                ทำ KM เวลาไหน ทำอย่างไรให้พนักงานที่มีงานประจำเต็มอยู่แล้วมาทำ KM
                ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมด อยู่ที่การจัดการเวลา
                การ Motivation ของพนักงาน อยากเป็นที่มีความสำคัญ อยากเป็น someone ไม่ใช่ anyone
                แนะนำวิธีการฟังคนอื่น
                ฟังเหมือนคุณเป็นล่าม เอาข้อความจากปากของเขา ไห้ออกจากปากของเรา ... การพูดเพื่อเปลี่ยนมุมมอง สุดท้ายอาจเจอว่าปัญหาจริงๆ คืออะไร ... แล้วค่อยบอกว่าถ้าเป็นพี่จะคิดว่าอย่างไร จะทำอย่างไร
                สรุปขุมความรู้
                KM ที่เนียนในเนื้องาน ต้องเนียนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ... Spansion ทำความเข้าใจว่า KM มันคืออะไร มี 2 Direction คือ Top down มันจะบอกว่าเราจะไปไหน หัใจสำคัญคือ HRD คือการเตรียมคน Botoom Up คือ PCTI2 คือกระบวนการสร้างความรู้ ....  Conceptual model ให้คนองค์กรมองสิ่งเดียวกัน และเข้าใจว่า KM คืออะไร สามารถนำความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด...
                ความสำเร็จของ Spansion ไม่ใช่แค่ KM เรื่องอื่นด้วย คือคำว่า “คน”
               
หมายเลขบันทึก: 8655เขียนเมื่อ 2 ธันวาคม 2005 19:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 13:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
น่าสนใจมากครับ
    เป็นบริษัทที่มีแต่คนเห็นแก่ตัวเยอะมาก................ไม่มีความโปร่งใสในระบบถึงแม้จะมีการตรวจสอบได้ก็ตาม
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท