มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งชนิดหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับเพศสัมพันธ์
มีผู้สังเกตว่า แม่ชี(คริสต์)ซึ่งไม่มีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นไม่ค่อยเป็นมะเร็งชนิดนี้ ต่อมาพบว่า ไวรัสหูด (human papilloma virus / HPV) เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ
วัคซีนต้านไวรัสเอชพีวีที่นำมาทดลองในปีนี้ (2548) พบว่า ประสิทธิผลสูงมาก(ประมาณ 98 %) ทำให้คาดว่า ถ้ามีการนำวัคซีนนี้มาใช้จริงน่าจะทำให้ผู้หญิงเป็นมะเร็งปากมดลูกน้อยลงมาก
อาจารย์สุพรรณี ศรีอำพรจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ดร.แม็กซเวล ปาร์คินจากสถาบันวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ ลีออง ฝรั่งเศส และคณะได้ทำการศึกษาคนไข้มะเร้งปากมดลูก 179 รายที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น และกลุ่มควบคุม 179 รายพบปัจจัยเสี่ยงสำคัญในคนไทยดังต่อไปนี้
- คนมากคู่:
คนที่มีคู่นอนมากกว่า 1 คนเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูก 1.93 เท่าของคนที่มีคู่นอน 1 คน - มีลูกก่อน 20:
คนที่มีลูกก่อนอายุ 20 ปีมีความเสี่ยงมากกว่าคนที่มีลูกหลังอายุ 20 ปี - มีลูกมาก:
ถ้ามีลูก 3-4 คนจะมีความเสี่ยงเพิ่มเป็น 1.72 เท่า ถ้ามีลูก 5-7 คนมีความเสี่ยงเพิ่มเป็น 2.40 เท่า ถ้ามีลูก 8-13 คนมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 3.48 เท่า
ผู้หญิงที่มีลูกหลายคนทราบผลการวิจัยนี้แล้วอย่าเพิ่งกลัวครับ ถ้าท่านอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป หรือผ่านการร่วมเพศมาแล้ว แนะนำให้ไปตรวจหามะเร็งปากมดลูกที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน
ถ้าตรวจพบมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มแรกก็อย่าเพิ่งตกอกตกใจ เพราะผลการรักษามะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มแรกได้ผลดีมาก
การสำส่อนทางเพศทำให้เสี่ยงต่อโรคติดต่อหลายอย่าง เช่น ตับอักเสบบี ตับอักเสบซี เอดส์ ฯลฯ ผู้หญิงที่ติดไวรัสเอดส์จะมีความเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น
ทางที่ปลอดภัยคือการมีคู่คนเดียว ผู้หญิงที่มีคู่มากกว่า 1 คนควรให้ผู้ชายใช้ถุงยางอนามัย... ปากมดลูกของท่านจะได้ปลอดภัย
แหล่งข้อมูล:
- Sriamporn S., Pengsaa P., Yuenyao P. et al. Risk Factors for Cervical Cancer in Thai Women: A Case-Control Study. Thai Cancer Journal (โรคมะเร็ง). ปี 23 ฉบับ 3-4 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2540). หน้า 58-63.
- นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๘