จิตอาสา พาเด็กสนุก (แม้ยามป่วย)


งานอาสาสมัครเป็นงานที่ต้องเสนอตัวและตามมาด้วยการลงมือกระทำ

                ช่วงนี้มีการตื่นตัวเกี่ยวกับงานอาสาสมัครด้านสาธารณสุขกันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวของอาสาสมัครเยาวชนในโรงพยาบาลบางบัวทอง Blue Angel ของ รพ.รามาธิบดี ซึ่งมีคุณจิ๊ก เนาวรัตน์ ดารานักแสดงเข้ามาเป็นอาสาสมัคร  และที่ รพ.จุฬาฯซึ่งมีมานานแล้วเหมือนกัน กับการเป็นอาสาสมัครของ นศ.แพทย์     

                จึงไม่แปลกใจสำหรับ Theme งาน HA Nationnal Forum ครั้งที่ 8 จะมีกลิ่นอายของคำว่า จิตอาสา ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งหลาย ๆ โรงพยาบาลกำลังเริ่มที่จะทำจิตอาสาในโรงพยาบาล หรือบางโรงพยาบาลได้เริ่มนานแล้วและมีกลุ่มอาสาสมัครที่เข้มแข็ง ในงาน HA มีหลายห้องย่อยที่เสวนาแต่ละห้องก็จะมีหัวข้อแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ความสนใจของแต่ละคน ส่วนฉันได้เข้าร่วมห้อง จิตอาสา พาเด็กสนุก(แม้ยามป่วย)คนก็หนาแน่นพอประมาณ ห้องนี้มีวิทยากร ด้วยกัน 3 ท่าน  ท่านแรก พญ.รัตโนทัย พลับรู้การ หมอผู้ชำนาญการด้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่นของ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) ได้เล่าถึงงานอาสาสมัครใน รพ.เด็ก โดยเริ่มแรกนั้นได้มีการเข้ามาของโฮตสหทัยได้เข้ามาทำกิจกรรมกับเด็กป่วย การจัดทำมุมนิทาน ของเล่น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นคือ เด็กป่วยมีความสุข มีรอยยิ้ม ลดความกลัวและกังวล ได้เจอสิ่งใหม่  ๆ ทำให้ทาง รพ.เด็กยอมรับได้ว่าการมีอาสาสมัครเข้าไปทำกิจกรรมกับเด็กป่วยในโรงพยาบาลนั้นเป็นการส่งผลดีกับตัวเด็กโดยตรงทำให้การรักษาง่ายขึ้น การทำกิจกรรมกับเด็กป่วยไม่ใช่แต่การมีมุมนิทานและของเล่น แต่ยังมีโครงการหวานแหววซึ่งโครงการนี้ได้มีพยาบาลแต่งตัวที่แปลกออกไปจากชุดพยาบาล และได้มีการทำกิจกรรมกับเด็กป่วย ซึ่งเด็กก็ชอบ โดยการที่จะเข้าไปเป็นอาสาสมัครคุณหมอรัตโนทัยได้ทักเกี่ยวกับเรื่องดนเด็กหลอกเพราะว่าเด็กบางคนต้องจำกัดการกิน บางที่เราเข้าไปโดยที่ไม่รู้ก็อาจจะเป็นผลเสียกับเด็กได้ ดังนั้นในการเป็น อาสาสมัครต้องผ่านกระบวนการปฐมนิเทศ เรื่องสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ เพราะเรื่องของโรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ๆค่ะ               

                 วิทยากรท่านที่สอง คือคุณสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือว่าพี่หนูหริ่ง ได้เล่าประสบการณ์การการรับอาสาสมัครกลไกของอาสาสมัคร เพราะได้ผ่านการพิสูจน์มาแล้วกับเรื่องอาสาสมัครที่สามารถขับเคลื่อนองค์กรไปได้ของมูลนิธิกระจกเงา  โดยธรรมชาติแล้วเริ่มแรกก็อาจจะเป็นเรื่องที่แปลก ใหม่ และค่อนข้างที่จะไม่เป็นที่ยอมรับแต่ต้องจัดการกับการทำงานอาสาสมัครให้ตรงจุด โดยพี่หนูหริ่งแสดงให้เห็นว่าความตั้งใจอย่างเดียวไม่พอกับการที่จะเข้ามาเป็นอาสาสมัคร ต้องมีองค์ประกอบอื่นเพิ่มด้วยคือทักษะและศิลป์ ซึ่งงานอาสาสมัครนั้นพูดอย่างเดียวไม่เกิดประโยชน์หากเราไม่ได้ลงมือทำ งานอาสาสมัครเป็นงานที่ต้องเสนอตัวและตามมาด้วยการลงมือกระทำ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างที่จะเห็นด้วยค่ะ มันเป็นรูปธรรมที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดค่ะ พี่หนูหริ่งได้พูดเกี่ยวไปถึงโครงการ รพ.มีสุข ในการเข้าไปทำกิจกรรมร่วมกับ รพ.เด็ก กิจกรรมที่เรานำไปจัดนั้นเราจะเน้นกิจกรรมที่ง่าย ๆ แล้วเกิดผลกระทบทันที ซึ่งมันจะไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะโดยรวมแล้ว เด็กป่วย ซึ่งเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กป่วย = เด็ก ยังต้องการเล่นสนุก ต้องการความอบอุ่น โดยโครงการ รพ.มีสุข เชื่อว่า ความสุข ทุกข์นั้น สามารถถ่ายทอดกันได้ หากเด็กป่วยมีความสุข ก็จะส่งต่อไปยังผู้ปกครองด้วย และก็จะส่งต่อไปยัง บุคลากรทางการแพทย์อีกต่อหนึ่ง ซึ่งมันจะแตะไปถึงจิตวิญญาณของ ผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย                

                   วิทยากรท่านที่สาม รศ.ดร.พรรณวดี พุธวัฒนะ จาก รพ.รามาธิบดี ได้มาเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์อาสาสมัครของ รพ.รามาธิบดี ซึ่งที่ รพ.รามาฯ ได้มีงานอาสาสมัครมานานแล้วและได้พัฒนาไปได้ไกลโดยเริ่มแรกของการทำงานอาสาสมัครใน รพ.ก็ไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับ เพราะอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นค่ะงานในโรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่แล้วทางด้านกลุ่มงานก็ได้พัฒนามาจนเป็นที่ยอมรับของโรงพยาบาล ได้มีอาสาสมัครที่หลากหลายอาทิเช่น การเล่านิทานในห้องนันทนาการ นักดนตรีอาสา Blue Angle อาสาสมัครทั่วไป กิจกรรมของ นศ.หลักสูตรต่าง ๆ งานอาสาสมัครก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยการจัดเสวนา การประชาสัมพันธ์โดยการทำเอกสารแจก เพื่อให้ผู้พบเห็นแล้วสนใจมาสมัครเป็นอาสาสมัครเอง มีการปฏิบัติและประเมินผลของงานอาสาสมัคร ซึ่งฟังแล้วทำให้ได้รับประโยชน์ในการจัดการของงานอาสาสมัครที่ดูมีระบบและได้มีการทำแล้วได้ผลตอบรับที่ดี อาสาสมัครมีความสุข เด็กป่วยมีความสุข              

                    การเข้าร่วมเสวนาครั้งนี้ได้เรียนรู้งานจากประสบการณ์และเรื่องเล่าผ่านทางวิทยากรซึ่งได้ประสบมาและปฏิบัติจนเกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวขึ้น และยังจุดไฟให้กับโรงพยาบาลอื่น ๆ ที่กำลังจะเริ่มเอางานอาสาสมัครเข้าเป็นส่วนหนึ่งในโรงพยาบาล  งานอาสาสมัครเป็นงานที่สามารถทำได้ในงานสาธารณสุขแต่ต้องมีกระบวนการจัดการที่ถูกต้องและตรงจุด การเปลี่ยนแปลงคงอยู่ไม่ไกลเกินที่เราจะทำค่ะ

หมายเลขบันทึก: 84237เขียนเมื่อ 15 มีนาคม 2007 15:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม 2012 20:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ครับเห็นด้วยเช่นเดี่ยวกันครับที่จะทำเรื่องจิตอาสาในโรงพยาบาล พิจิตรก็กำลังจะทำในเรื่องจิตอาสในโรงพยาบาลเหมือนกันครับ...ขอแลกเปลี่ยนด้วยนะครับจะปลูกฝังให้เด็กมีจิตใจที่อาสามากขึ้นครับ.....ผมก็เป็นหนึ่งในการทำงานด้านจิตรอาสาครับ

ยินดีค่ะคุณคนดินดิน หากมีอะไรที่จะแลกเปลี่ยหรือเสนอแนะก็ได้เลยค่ะ   หวังว่าทางพิจิตรก็คงจะมีอะไรดี ๆ มาแลกเปลี่ยนและเล่าสู่กันฟังนะค่ะ

ค่ะเห็นด้วยมาก ๆ เพราะดิฉันก็เป็นสมาชิกชมรมจิตอาสาโรงพยาบาลอินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรีเหมือนกัน ชมรมเราเริ่มกิจกรรมนี้มาก็ย่างเข้าปีที่ 2 แล้วได้ผลตอบรับดีมาก และกำลังจะสร้างเครือข่ายต่อไปในอนาคตค่ะ หามีอะไรแลกเปลี่ยนหรือแนะนำก็บอกกันนะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท