คนเราทุกคนหากทำงานก็ต้องถูกตำหนิ หากอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลยให้เวลาผ่านพ้นไปวัน ๆ ก็ไม่เจ็บตัว ทำงานดีก็เสมอตัว แต่หากทำผิดนิดเดียวก็ไม่ถูกใจ ไม่ชอบใจ ถูกตำหนิอยู่ร่ำไป แต่การจะตำหนิใครก็ขอให้นำศิลปะในการตำหนิมาใช้สักนิดหนึ่ง
ศิลปะในการตำหนิ
..ผูกสนิทชิดเชื้อนี้เหลือยาก ถึงเหล็กฟากผูกไว้ก็ไม่มั่น
จะผูกด้วยมนต์เสกลงเลขยันต์ ก็ไม่มั่นเหมือนผูกไว้ด้วยไมตรี..
ในการทำงานย่อมต้องมีข้อผิดพลาด ..หรือมีสิ่งที่ไม่ชอบใจ ในการสื่อถึงความเป็นจริงข้อนี้..จึงต้องมีศิลปะในการตำหนิ..
....................................................
- ก่อนอื่น..ต้องรู้ก่อนว่าเขาผิดพลาดจริง ..
- ไม่แสดงสีหน้าบึ้งตึงหรือแสดงความโกรธ
- เมื่อจะตำหนิใคร..ควรเชิญเขามาในที่เฉพาะ
- พูดในเชิงปรึกษาหารือไม่ใช่ตำหนิติเตียน
- ในขณะที่พูดควรแสดงความเห็นอกเห็นใจและให้กำลังใจเขา..
- ให้เขาได้พูดถึงสิ่งที่ผิดพลาด
- อย่านำความผิดพลาดไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น
- สร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเขา โดยชี้แจงว่าความผิดพลาดอาจเกิดได้จากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์..( แต่ไม่ควรผิดพลาดซ้ำ )
- อย่าตำหนิซ้ำซาก
- ตำหนิให้ทันต่อเหตุการณ์ ( อย่าทิ้งเป็นสัปดาห์ )
- และสุดท้าย..ระวังความรู้สึกของผู้ที่ถูกตำหนิบ้างไม่มีใครอยากทำผิดพลาด
ศิลปะการตำหนิ..ถ้าใช้เป็น..ย่อมจะเกิดประโยชน์มากมายและน่าจะนำมาใช้
จะสูงศักดิ์อัครฐานสักปานใด
จะวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี
จะเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี
หากไม่มีคุณธรรมก็ต่ำตน
สวัสดิ์