รูปอ้างอิงพระองค์ท่านท้าวจตุคามรามเทพ


จตุคามรามเทพ

รูปวาดของพระองค์ท่านท้าวจตุคามรามเทพ ที่มีผู้นำไปกราบไหว้บูชากันอย่างมากในปัจจุบัน พี่น้องชาว Gotoknow ที่ยังไม่มีรูปพระองค์ท่านไปบูชา ก็ Save ไปพิมพ์เก็บไว้บูชาได้นะครับ

คำสำคัญ (Tags): #จตุคามรามเทพ
หมายเลขบันทึก: 76502เขียนเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2007 01:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

รู้ได้ไงว่า จตุคามอยู่หน้าตาแบบนี้  นึกเอาเองหรือเปล่าว่ะ

 

นักประวัติศาสตร์หายหน้าไปไหนกันหมด ปล่อยให้พวกเจ้าทรง มาเปิด Course ประวัติศาสตร์กันเละเทะหมดแล้ว

ปัญจคาม รามโคตร และ โสมคาน ผมไม่ว่าอะไรนะครับ แต่ผมบันทึกไปตามสิ่งที่เห็นและค้นคว้าอย่างนักวิทยาศาสตร์ ไม่นำท่านมาหากิน มาหากำไรเหมือนที่เป็นอยู่กันทุกวันนี้ เป็นเรื่องทางจิตวิญญาน ไม่แน่ใจว่าท่านเข้าใจเรื่องจิตวิญญานหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับไสยเวทย์ เวทมนต์คาถาหรือผี วิญญานอะไรเลยนะครับ เช่นบทเพลงเพื่อชีวิต วรรณกรรมเพื่อชีวิต เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องทางจิต่วิญญานของคนทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับวัตถุ และทุนนิยมสามานย์ ที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาอย่างบ้าคลั่งในขณะนี้

ถ้าท่านอยากทราบท่านหาต้นตอของภาพนี้ที่เป็นต้นฉบับให้ผมหน่อยได้มั้ย หาแบบนักวิทยาศาสตร์และผมจะพิสูจน์อะไรให้ท่านดู เพราะภาพนี้มีมนต์ขลังมากโดยผมไม่ทราบที่มา เป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ครับ คุณลองมองท่านแบบนิ่งสงบสักพัก หรือถ้าคุณกล้าจริงแบบนักวิทยาศาสตร์หรือคนที่เป็นลูกผู้ชายที่ไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ ขอเพียงท่านนำภาพนี้ ถ้าหาไม่ได้ที่นครศรีธรรมราชคนมีแทบทุกบ้าน แล้วนำไปที่ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชเองนะครับ ผมก็เป็นนักวิทยาศาสตร์มา 20 กว่าปี ผมก็คิดไม่ค่อยต่างกับท่านหรอก วันที่ผมเข้าไปที่ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ผมไม่มีเรื่ยวแรงไปสองวัน ผมเป็นคนยุคปัจจุบันเหมือนท่าน ไม่เชื่ออะไรง่าย  ๆ หรอกนะ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นผมแค่บันทึกและนำมาตีแผ่แบบคนที่ค้นคว้าอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

คุณรู้เหรอครับว่า อยุธยา ใหญ่กว่าราชธานีอื่นที่มีมาก่อน อาณาจักรศรีวิชัยใหญ่แค่ไหนใครรู้บ้าง ผมก็อยากรู้เหมือนท่านและครับ แต่เราไม่เคยได้เรียนในวิชาประวัติศาสตร์ มีแต่สุโขทัย อยุธยา และต่อมาเท่านั้น

ผมไม่เชื่ออะไรงมงายหรอกครับ ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่ท่านอธิบายผมได้มั้ย ว่าทำไมถึงเหตุการณ์เป็นแบบนั้น ผมก็อยากรู้ใจจะขาด ผมรู้สึกแปลกประหลาดว่าประวัติท่านอยู่ในศิลาจารึกที่จารึกไว้ไม่เสร็จ ผมก็ได้ทราบว่ามีศิลาจารึกที่ยังจารึกไม่เสร็จอยู่จริง คือศิลาจารึกวัดเสมาเมือง และเขียนถึงพระศรีมหาราชา ผมก็อยากรู้ว่าพระศรีมหาราชาเกี่ยวอะไรกับท่าน ผมก็ได้ทราบจากหนังสือของทศพล ว่าท่านเป็นพระระคยัน ศรีมหาราช ซึ่งต่อมาเป็นพระจตุคามรามเทพ ผมรู้เรื่องทั้งหมดนี้ภายในสัปดาห์เดียวเพียงผมพนมมืออยากทราบว่าที่ผมอยากรู้ขอให้ผมได้รู้ ทุกอย่างมีคนนำมาให้ผมโดยไม่ต้องไปค้นให้เหนื่อยแม้แต่น้อยทำให้ผมแปลกประหลาดใจมากที่สุด แล้วจะให้ผมคิดอย่างไร นี่ผมคิดแบบนักวิทยาศาสตร์แล้วนะ ท่านดูซินักวิทยาศาสตร์อย่างผมจะไปมีความรู้อะไรเรื่องศิลาจารึกกับเขาละ แล้วทำไมผมถึงได้รู้เรื่องนี้ท่านว่าอย่างไรละ

ใครรู้ที่มาของภาพนี้กรุณาบอกกล่าวกันบ้างนะครับ อยากเห็นภาพต้นฉบับมากที่สุดครับ

ใครรู้อะไรเกี่ยวกับจตุคามรามเทพที่อ้างอิงเป็นประวัติศาสตร์ได้บ้าง บอกให้ทราบหน่อยครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ผมอยากเจอนักประวัติศาสตร์เหมือนกันนะครับ ท่านช่วยผมหน่อย นักวิทยาศาสตร์อย่างผมก็งงมากเลยครับตอนนี้ ผมอยากรู้เรื่องพระระคยัน ศรีมหาราช ที่บันทึกไว้ไม่เสร็จในศิลาจารึกวัดเสมาเมือง เพราะผมรู้สึกประหลาดอย่างมากที่อธิบายออกมาได้ว่า ประวัติที่เกี่ยวกับพระองค์ท่านท้าวจตุคามรามเทพ ถูกบันทึกไว้ไม่เสร็จในศิลาจารึก ผมว่าถ้าสามารถค้นประวัติศาสตร์ช่วงก่อนปีพ.ศ.1300 จนถึง 1320 ถึงเรื่องที่เกี่ยวกับพระระคยัน ศรีมหาราช ได้ อาจเป็นลู่ทางไปสู่การบันทึกประวัติศาสตร์ที่มาของ พระองค์ท่านท้าวจตุคามรามเทพ ก็อาจเป็นได้นะครับ

สำหรับความคิดเห็นของสองท่านแรกนั่น เป็นการไม่เคารพความเชื่อของคนอื่น แม้ว่าตัวเองจะไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ควร(ลืมความคิดแบบนั้นซะ เสียสุขภาพจิตเปล่า ๆ)

ผมเองก็สนใจใคร่รู้เหมือนกันครับ 

ขอบพระคุณคุณอุทัย อาวรณ์ มากนะครับที่ได้ให้ข้อคิด ตอนนี้ผมคิดว่าคงจะทำเป็นหนังสือดีกว่าเพราะมีเรื่องราวเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนมากทีเดียว จะได้บันทึกไว้ให้คนที่จะค้นคว้าต่อ หรือนักประวัติศาสตร์ที่มีความรู้จริง ๆ ได้ศึกษาต่อ มีโอกาสคงได้ส่งไปให้อ่านนะครับ

  • เรียนท่านอาจารย์แสงเทียนครับ
  • ไม่ทราบว่าท่านทราบประวัติของ พระยาศรีธรรมโศกราช ไหมครับ ผมอยากทราบประวัติของท่านมากเลยครับ หากท่านอาจารย์ มีรบกวนเขียนบทความอีกนะครับ ผมค้นหามานานครับ ไม่เจอเลยครับ หากมีหลายพระองค์ ผมขอทราบทุกพระองค์เลยครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ
พระเจ้าศรีธรรมโศกราช เป็นกษัตริย์นครศรีธรรมราชสมัยโบราณที่ยังเรียกว่า ตามพรลิงค์ พระองค์เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงปัทมวงศ์ พระราชประวัติของพระเจ้าศรีธรรมโศกราชแบ่งออกเป็น ๓ นัย ได้แก่๑.           จากตำนานเมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่าพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชเป็นกษัตริย์ปกครองเมืองอื่นมาก่อน ภายหลังเกิดโรคห่าระบาดในเมืองนั้นจนทำให้ผู้คนล้มตายลงเป็นจำนวนมาก จนต้องอพยพผู้คนที่เหลือลงเรือหนีตายมาขึ้นที่หาดทรายแก้ว และใด้ตั้งบ้านเมือง ณ ที่นั้น และขนานนามว่า นครศรีธรรมราชมหานคร เมื่อสร้างเมืองเสร็จ ก็ได้สร้างสถูปเจดีย์สำหรับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นที่เมืองนั้น๒.          จากตำนานเมืองนครศรีธรรมราชอีกฉบับหนึ่งคือฉบับที่พบที่วัดเวียงสระ อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับฉบับที่พบที่ทุ่งตึกอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา กล่าวความตรงกันว่า พระเจ้าศรีธรรมโศกราชนั้นเป็นพราหมณ์ชาวอินเดีย เดิมชื่อว่า พราหมณ์มาลี ได้อพยพพรรคพวกลงเรือสำเภาหลายร้อยลำ หนีการรุกรานของพวกอิสลามจากอินเดียมาขึ้นบกที่บ้านทุ่งตึก ใกล้เมืองตะกั่วป่า ฝั่งทะเลตะวันตก ในชั้นแรกได้ตั้งบ้านเมืองขึ้นที่นั่น อภิเษกพราหมณ์มาลีขึ้นเป็นกษัตริย์ถวายพระนามว่า พระเจ้าศรีธรรมโศกราช พราหมณ์มาลาผู้เป็นน้องเป็นพระมหาอุปราช การอพยพครั้งนั้นพวกอินเดียได้นำเอาพระทันตธาตุมาด้วย พวกอินเดียสร้างเมืองทุ่งตึกไม่ทันเสร็จก็ถูกพวกอิสลามตามตีแตกพ่ายอีก จนต้องอพยพทิ้งบ้านเมืองหนีขึ้นไปตามลลำน้ำตะกั่วป่า ข้ามเขาสก ล่องเลียบริมฝั่งแม่น้ำพุมดวงมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมาตั้งมั่นอยู่ที่บ้านน้ำรอบ อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีท่าทีว่าจะตั้งราชธานีที่นั่นอีก แต่เพราะเหตุภูมิประเทศไม่อำนวย ทำให้พวกอินเดียที่อพยพมานี้ผิดน้ำผิดอากาศ จนเกิดโรคระบาดขึ้น ทำให้ต้องอพยพผู้คนต่อไปทางทิศระวันตกเฉียงใต้ ไปตั้งถิ่นฐานที่เชิงเขาชวาปราบปลายคลองสินปุน อำเภทคลองท่อม จังหวัดกระบี่ แต่ก็มีสาเหตุคล้าย ๆ กับที่บ้านน้ำรอบ อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายต่อไปเพื่อหาชัยภูมิใหม่ได้อพยพขึ้นมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนืออีกครั้ง และได้มาตั้งหลักแหล่งที่บ้านเสียงสระ อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ก็อยู่ใด้ไม่นานเพราะโรคห่งยังไม่ขาดสาย ต้องรื้อถอนต่อไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จนพบหาดทรายใหญ่อยู่ริมทะเลภูมิประเทศต้องลักษณะชัยภูมิที่ดี คือมีลำน้ำและที่ราบที่เหมาะสำหรับการเกษตร จึงได้สร้างราชธานี ณ ที่นั่นโดยสร้างกำแพงเมือง ปราสาทราชวัง เทวสถาน และพระมหาธาตุเจดีย์บรรจุพระทันตธาตุที่เอามาจากอินเดียด้วย๓.          ขจร สุขพานิช ได้เสนอเรื่อง ราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช โดยอ้างหลักฐานจากจากรึกหลักหนึ่งที่พบจากจังหวัดนครสวรรค์ ประกอบกับการศึกษาจารึกวัดหัวเวียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี และหลักฐานจากตำนานเมืองนครศรีธรรมราชมาประกอบกัน ทำให้ได้ความเลา ๆ ว่า ราชวงศ์นี้อุบัติขึ้นในลุ่มน้ำเจ้าพระยามาก่อนแล้ว จะเป็นด้วยเหตุผลกลใดไม่ปรากฏราชวงศ์นี้มีเหตุให้ต้องทิ้งราชธานีเดิม ลงไปแสวงหาที่พักพิงใหม่ทางปักษ์ใต้ และขณะเดินทางลงใต้ได้พบและทำสัตย์ปฏิญาณกับราชวงศ์อู่ทอง ได้แบ่งอาณาเขตปกครองซึ่งกันและกัน และสัญญาจะเอื้อเฟื้อช่วยเหลือกันในยามคับขัน และลงความเห็นว่าราชธานีน่าจะตั้งอยู่ลพบุรีมาก่อน จากสาเหตุดังกล่าว พอจะอนุมานได้ว่า พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชนั้นเป็นผู้ที่อพยพมาจากถิ่นอื่นและเป็นผู้ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เมืองได้สร้างบ้านเมืองขึ้น จึงนำเอาพระพุทธศาสนา รวมทั้งลัทธิความเชื่อในศาสนาพราหมณ์มาด้วย พระนามว่า ศรีธรรมาโศกราช นี้ ภายหลังได้ใช้เป็นพระนามหรือนามที่เป็นอิสริยศของพระมหากษัตริย์หรือเจ้าเมืองนี้ตลอดมา พระเจ้าศรีธรรมโศกราชได้สร้างเมืองขึ้นเมื่อราว ๆ พุทธศักราช ๑๐๙๘ ในชั้นแรกคนทั่วไปเรียกว่า ศิริธัมนคร ในศิลาจารึกเมืองไชยาเรียกว่า ตามพรลิงค์ หรือในจดหมายเหตุของจีนเรียกว่า ตั้งมาหลิ่ง เป็นต้น การที่เรียกเมืองตามพรลิงค์ ว่า นครศรีธรรมราช นี้ปรากฏในศิลาจากรึกของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช หลักที่ ๑ เป็นครั้งแรกชื่อนี้มีเค้ามูลที่จะเชื่อถือได้ว่า เป็นราชอิสริยยศที่ถวายแด่องค์พระมหากษัตริย์ผู้ครองนครศรีธรรมราชว่า ศรีธรรมราช คงจะถือเป็นประเพณีสือต่อเนื่องกันมาหลายองค์ จึงเป็นเหตุให้ไทยขนรานนามราชธานีนี้ตามพระนามราชอิสริยศของกษัตริย์ผู้ครองนครนี้ว่า นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ครั้งสุโขทัยเป็นต้นมา เมืองที่ทรงสร้างด้งกล่าวเป็นมหานครใหญ่มีอำนาจมาก มีกำแพงปราการโดยรอบทั้งชั้นนอกชั้นในนอกจากนั้นยังมีเมืองขึ้น ๑๒ หัวเมือง เรียกว่า ๑๒ นักษัตร ตั้งอยู่โดยรอบพระราชอาณาเขต ด้านศาสนจักร ได้ทรงสร้างสิ่งสำคัญคือสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขึ้น จึงนับได้ว่าพระเจ้าศรีธรรมโศกราชเป็นผู้สร้างเมืองนครศรีธรรมราช และสร้างพระสถูปเจดีย์ที่เรียกว่า พระบรมธาตุ ปูชะนียสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองของไทยต่อมา

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์มากๆ นะครับผม

ไม่เป็นไรครับ ยินดีครับที่ได้รู้จัก อจ เม้ง หนุ่มหล่อจากเมืองคอนอีกท่านหนึ่ง อยู่ มอ ตานี รู้จักสมชาย รัตนคช มั้ย เพื่อนสมัยเรียน เบญจมราชูทิศ นครฯด้วยกัน ตอนไปเรียน มอ ตานี ก็ไปพร้อมกัน พอดีผมได้ทุน มหิดล เลยแยกกันครับ
  • รู้จักครับผม แต่ไม่ได้เจอพี่สมชายนานพอสมควรแล้วครับ
  • ยินดีที่ได้รู้จักครับผม โลกนี้ช่างกลมจริงๆครับผม
  • พอดีผมสนใจประวัติเมืองนครครับ มีเรื่องราวคล้ายๆ ที่ อจ.แสงเทียนเจอมานะครับ แต่เป็นอีกท่านนะครับ แต่อันนี้ไปหาท่านเองนะครับ
  • ท่านชื่อ ท่านขุนวังครับ ท่านบอกว่าท่านอยู่ในสมัย พระเจ้าศรีธรรมโศกราชนะครับ
  • ผมอ่านอีเมล์ อจ.ไม่ได้ครับ ได้แค่ชื่ออีเมล์ครับ ไม่ทราบเป็นไงครับ อจ.เมล์หาผมได้โดยตรงครับ [email protected] ครับ ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับ คุณแสงเทียน ผมดีใจมากเลยครับที่มีคนศรัทธาท่านในลักษณะ มีเหตุผลและมีที่มาที่ไป ผมเองก็อยากทราบข้อเท็จจริงที่มีหลักฐานอ้างอิง ในเชิงวิทยาศาสตร์แบบนี้มานานแล้ว ขอบคุณคุณแสงเทียนมากเลยครับที่ เสียสละเวลา เพื่อ ศึกษาเรื่องราวขององค์พ่อให้ คนที่ห้อย แต่ไม่รู้จัก ได้ตาสว่างกันบ้าง

 

 

สุดท้าย ขอให้อำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย ดลบันดาลให้ประสบแต่ความสุขความเจริญนะครับ กอปรกัยสามารถเชื่อมโยงหลักฐานทางโบราณคดี เพื่อ พิสูจน์ความเป็นมาที่แท้จริง ขององค์พ่อให้ได้ครับ เอาใจช่วยสุดๆครับ

น่าสนใจมากเลยครับอาจารย์ นี่ล่ะครับที่ตามหามานาน

ข้อมูลที่่มีหลักฐาน อ่านแล้วก็อยากรู้ให้ลึกกว่านี้ครับ

อ่านแล้วได้ความรู้ดีนะคะ บางอย่างวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้นะคะ   ดิฉันไม่เคยไปนครศรีธรรมราช  ขอเรียนถามนิดนะคะ..ลูกหลานของสายสกุลของพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ในปัจจุบันคือต้นสกุลใดบ้างคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท