บทความเรื่อง The Geography of Injustice ลงพิมพ์ในนิตยสาร Scientific American ฉบับเดือนตุลาคม ๒๕๖๖ บอกว่ามองจากมุมของสภาวะแวดล้อม คนที่ได้เปรียบที่สุดคือคนที่มีชีวิตอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ คนที่ด้อยโอกาสคือคนที่มีชีวิตอยู่ในท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่เป็นภัยต่อสุขภาพ
ผมอดเถียงไม่ได้ว่า สภาวะแวดล้อมมีสองมิติ คือมิติภายนอกตัวเรา กับมิติภายในตัวเราเอง ที่เขาเขียนนั้น มองเฉพาะสภาวะแวดล้อมภายนอก ที่หลายส่วนไม่อยู่ในอำนาจของเรา แต่สภาวะแวดล้อมภายใน ตัวเราเองเป็นผู้กำหนด หากเรามีทักษะในการควบคุมตนเอง
กลายเป็นว่า ส่วนหนึ่งของความไม่เป็นธรรมคือ โอกาสได้ฝึกฝนตนเองให้เป็นคนที่ควบคุมจิตใจของตนเองได้ คนเรามีโอกาสไม่เท่ากัน และที่ซับซ้อนยิ่งคือ ในหลายกรณีตนเองเป็นผู้เลือกไม่รับโอกาสนั้น
กลับมาที่ บทความเรื่อง The Geography of Injustice เขาบอกว่า คนจน ในอเมริกา และในประเทศยากจนในโลก หายใจรับอากาศเป็นพิษ มากกว่าคนรวย ผมก็เถียงอีก ว่าความซับซ้อนคือ คนจนสูบบุหรี่เอาพิษจากบุหรี่ใส่ตัวมากกว่าคนรวย
บทความไม่ได้เอ่ยถึง แต่ผมขอเพิ่มว่า คนจนได้รับผลของความไม่เป็นธรรมตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา คือแม่จำนวนมากมีความเครียดเรื้อรัง ความเครียดเรื้อรังของแม่ที่ตั้งครรภ์ ๓ เดือนแรก เป็นพิษร้ายแรงที่สุดต่อทารกในครรภ์ มีผลต่อสมองที่กำลังพัฒนา ทำให้พัฒนาแบบบิดเบี้ยว กลไกสำคัญต่อการควบคุมตนเองพัฒนาผิดทาง โอกาสเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่กำกับตัวเองได้ จะด้อยลงไป
ความเครียดเรื้อรังนี้ เป็นพิษต่อร่างกายในทุกช่วงชีวิต และครอบครัวร่ำรวยบางครอบครัว ก็ตกเป็นเหยื่อด้วย
จะเห็นว่า ความไม่เป็นธรรมมีความซับซ้อนยิ่งนัก บทความที่อ้างถึงแตะเพียงส่วนผิว
วิจารณ์ พานิช
๑๔ ต.ค. ๖๖
ไม่มีความเห็น