งานแสดงสินค้าเป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดที่หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ควรมองข้าม เพราะงานแสดงสินค้าไม่ใช่แค่การโชว์คุณภาพของตัวสินค้า (Product) แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็น “คุณภาพ” และ “รูปแบบ” ของงาน เรียกว่าองค์ประกอบทุกอย่างจะเชื่อมโยงให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความรู้สึกที่ดีกับแบรนด์ และเกิดความมั่นใจในตัวสินค้า
ในทางวิชาการ งานแสดงสินค้าจำแนกได้หลายประเภท และสิ่งที่เป็นตัวแบ่งได้อย่างหนึ่งก็คือ เป้าหมายทางการตลาด แต่โดยทั่วไปงานแสดงสินค้าแบ่งประเภทได้ดังนี้
งานแสดงสินค้า นอกจากจะมีหลายประเภทแล้ว ก็ยังมีอีกหลายระดับ ตั้งแต่ งานแสดงสินค้าระดับท้องถิ่น (Local Trade Fair) เป็นงานที่ผู้เข้าร่วมแสดงสินค้า และผู้เข้าชมงานจะอยู่ในท้องถิ่นเป็นหลัก งานแสดงสินค้าระดับชาติ (National Trade Fair) เป็นงานที่จัดขึ้นโดยเน้นในระดับชาติ มีผู้ร่วมแสดงสินค้า และผู้เข้าชมงานจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ บางครั้งอาจมีผู้ชมงานจากต่างประเทศด้วย งานแสดงสินค้าระดับภูมิภาค (Regional Trade Fair) เป็นงานที่มีผู้เข้าร่วมงานจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาค หรือในทวีปนั้นๆ และงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ (International Trade Fair) เป็นงานที่มีประเทศต่างๆ ทั่วโลกเข้าร่วมงาน วัตถุประสงค์อย่างหนึ่งเพื่อให้ประเทศนั้นๆ เป็นศูนย์กลางในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง ในภูมิภาคหรือตลาดโลก
สำหรับประโยชน์ในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้ามีมากมายหลายอย่างด้วยกัน แต่ในที่นี้จะขอพูดถึงประโยชน์ที่น่าสนใจเพียงข้อเดียวก็คือ การช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดขึ้นในการรับรู้หรือการพบเห็นของกลุ่มเป้าหมาย เพราะไม่ว่าจะเป็น บริเวณจุดขายภายในงาน ผลิตภัณฑ์ เอกสาร บุคลากร และตัวอย่างสินค้า รวมทั้งการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่ลูกค้า ซึ่งจัดเป็นการขายแบบ Soft Sale ที่เน้นผลในระยะยาว โดยค่อย ๆ ปลูกฝังความรู้สึกที่ดี และสร้างความภักดีในตัวสินค้า (Loyalty) ให้เกิดขึ้นกับผู้บริโภค
เห็นแล้วหรือยังว่า งานแสดงสินค้านั้นมีประโยชน์ทั้งในด้านการสร้างภาพลักษณ์องค์กร แถมยังสามารถช่วยเพิ่มยอดขายของสินค้าหรือบริการได้อีกด้วย และในส่วนของผู้เข้าชมงานเอง นอกจากจะมีโอกาสเลือกผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อย่างหลากหลายแล้ว ยังอาจจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนา ต่อยอดเป็นงานประดิษฐ์คิดค้นใหม่ๆ ได้อีกด้วย....
Cr: ภาพจากอินเทอร์เน็ต
ไม่มีความเห็น