การพิมพ์ เป็น กระบวนการทำซ้ำที่จะทำให้เกิดอักษร เครื่องหมายการสร้างภาพ จำนวนมาก ๆ เป็น การปฏิวัติเทคโนโลยีทางด้านการสื่อสาร ซึ่งสามารถคัดลอกต้นฉบับ และสามารถทำซ้ำได้จำนวนมหาศาล การพิมพ์ทำให้เกิดการกระจายตัวของสาร ให้เข้าถึงคนจำนวนมาก ดังนั้นผู้ที่สามารถสื่อสารให้กับคนจำนวนมาก ก็คือคนที่มีทรัพยากร กลุ่มแรก คือ รัฐ กลุ่มที่สอง คือ ศาสนา และกลุ่มที่สามคือ เอกชน
.
การพิมพ์ สามารถแบ่งยุคออกได้สามยุค ได้แก่ ยุคก่อนอุตสาหกรรมยุคอุตสาหกรรม และยุค ดิจิตอล การแบ่งออกแบบนี้ ใช้เทคโนโลยีในการผลิตชิ้นงาน ซึ่งการค้นคิดนวัตกรรมของมนุษย์ทำให้เกิดการพิมพ์ที่มีการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
.
หลักฐานการพิมพ์ยุคแรกอยู่ที่ประเทศจีน เป็นการพิมพ์หนังสือ
วัชรปารมีสุตรา (Diamond suthra) จากบล็อกแม่พิมพ์ไม้ ราว คศ. 618 - 906 ------------------ (1)
.
และเริ่มพัฒนาเป็นแม่พิมพ์โลหะในเกาหลี ประมาณ คศ.1241 สมัยราชวงค์ โคยอ (Kaoyo) สำหรับพิมพ์กวีนิพนธ์ บันทึกภูมิปัญญาของนักปราชญ์ และระเบียบราชสำนัก ซึ่งพบหลักฐานหลายชิ้น ต่อมาได้ถูกพัฒนาเป็นแม่พิมพ์ไม้ในประเทศจีนราว คศ 1300 มีหลักฐานเป็นแม่พิมพ์ไม้แบบเรียงพิมพ์จำนวนถึงแสนตัว และ หนังสือที่ใช้พิมพ์ถึง 43 ชนิด--------------(2) (3)
.
ในยุโรป เริ่มผลิตกระดาษชิ้นแรก ราว คศ.1309 และเกิดอุตสาหกรรมกระดาษขึ้นในฝรั่งเศสและเยอรมัน และริเริ่มการใช้แม่พิมพ์ไม้ในการพิมพ์หนังสือ ราว คศ.1403 ต่อมาเริ่มพัฒนาแม่พิมพ์เป็นแบบโลหะ ราว คศ.1452
และสามารถพิมพ์เป็นประเภทหลายสีได้ และต่อมาที่เยอรมัน ได้มีการคิดค้นวิธีการสร้างภาพพิมพ์แบบแม่พิมพ์ร่องลึก ที่ใช้เหล็กจารแม่พิมพ์เป็นร่องลึก เพื่อกำหนดขอบเขตของภาพที่หมึกนั้นจะลงไป ทำให้ภาพพิมพ์ที่ออกมานั้นมีมิติมากขึ้น ---------------------------------------(4)
.
เมื่อมีการคิดค้นพบแล้ว ก็มีการจัดตั้งโรงพิมพ์อุตสาหกรรมขึ้นครั้งแรกที่อังกฤษ ชื่อว่า โรงพิมพ์กูเต็นเบิร์ก โดยนายทุนชื่อ William Caxton ซึ่งโรงพิมพ์ของเขา เริ่มต้นในปี 1476 และมีการพิมพ์หนังสือและพัฒนารูปภาพด้วยแม่พิมพ์ร่องลึก ซึ่งเป็นเทคนิคทางศิลปะที่สร้างแม่พิมพ์ทำให้ภาพมีมิติสูง พิมพ์ลงในหนังสือ ส่วนใหญ่หนังสือจะถูกพิมพ์เพื่อเผยแพร่ศาสนาคริสต์------------(5.)
.
แสตมป์ที่ระลึกของอังกฤษประกอบบทความนี้นำเสนอภาพสมัยแรกของ โรงพิมพ์กูเต็นเบิร์ก ซึ่งบุกเบิกโดย William Caxton ซี่งผู้เขียนได้พยายามค้นหาประเทศที่ให้ความสำคัญกับการพิมพ์ แม้แต่ประเทศจีนที่มีการบุกเบิกเรื่องการพิมพ์รายแรก ๆ หรือแม้แต่เกาหลีที่พัฒนาแม่พิมพ์ที่เป็นโลหะขึ้นมา ก็ไม่ค่อยได้นำเสนอผ่านดวงแสตมป์เท่าไร
.
ต่อมาการพิมพ์ด้วยเทคนิคแม่พิมพ์โลหะร่องลึก Mattsotint printing ที่สามารถไล่โทนสีขาวดำ ซึ่งได้ภาพเหมือนจริง ซึ่งชาวเยอรมันชื่อว่า ลุกวิด วอน ซีเกน การค้นคิดของยุโรปเป็นไปอย่างต่อเนื่อง มีการทำแม่พิมพ์โลหะที่ใช้พิมพ์เป็นแผ่น มีการสร้างแท่นพิมพ์เหล็ก และมีการพัฒนาเทคนิคการพิมพ์บนพื้นนูนเพื่อคนพิการสายตา หรือการพิมพ์อักษรเบลล์นั่นเอง โดย Loiuse Baille-------------(6.) (7.)
.
จากเทคโนโลยีที่ยุโรปได้คิดพัฒนา จึงก่อเกิดให้เกิดอุตสาหกรรมการพิมพ์ มีกำเนิดหนังสือพิมพ์ เกิดการขยายตัวของโรงพิมพ์และอุตสาหกรรมกระดาษ และพัฒนาไปไม่หยุดยั้งด้วยการคิดค้นการพิมพ์แบบออฟเสท คือการพิมพ์แบบลูกกลิ้งหลายตัว และสามารถให้สีสันของตัวหนังสือและภาพได้สมจริงขึ้นมา คือ การพิมพ์ภาพ 4 สี การพิมพ์ด้วย silk screen---------------(8.) (9.) (10.)
.
การเกิดอุตสาหกรรมการพิมพ์นี่เอง ทำให้กำเนิดอุตสาหกรรมหลายอย่าง รวมทั้งการกำเนิดโรงเรียน หนังสือเรียน แบบเรียน ต่อมาเมื่อเข้าสู่ยุคดิจิตอลแล้วการพิมพ์เริ่มเข้าสู่บ้านเรือนผ่าน ปริ้นต์เตอร์ส่วนตัว เครื่องถ่ายเอกสารแบบคาร์บอน ---------(11.)
.
กระบวนการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทางการพิมพ์ มีพัฒนาการเริ่มจากการรับใช้ศาสนาในยุคต้น ๆ ในเอเซีย และ ยุคกลางของยุโรป เมื่อสิ้นสุดยุคกลางลง ระบบทุนนิยม และการผลิตแบบอุตสาหกรรม จึงเฟื่องฟู และมีการขยายตัวของอำนาจและความรู้สมัยใหม่ เช่นวิทยาศาสตร์ และการสืบทอดระบบทุนนิยมผ่านการศึกษาเรียนรู้ในระบบโรงเรียน ถือว่าการกำเนิดการพิมพ์ทำให้มีระบบการศึกษาเกิดขึ้น
.
การพิมพ์ในยุคหลัง ได้เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทางด้านการพิมพ์ จากเครื่องใหญ่ กลายเป็นเครื่องเล็ก ๆ ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการพิมพ์ได้ เรียกว่าการพิมพ์ยุคดิจิตอล ในขณะที่อุตสาหกรรมการพิมพ์ในทุกวันนี้ เริ่มจะปิดตัวลงตามยุคสมัย และหันมาใช้การพิมพ์ให้ข้อความปรากฎในแพลทฟอร์ม และนำเสนอผ่านอุปกรณ์ดิจิตอล เช่น หนังสือพิมพ์เริ่มปิดตัวลง เริ่มกลายเป็น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เป็นต้น
.
อำนาจของการพิมพ์ ก็คือ ทำให้ผู้ที่ได้รับสารจากการอ่าน สามารถถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก สถานการณ์ ตามที่ผู้ผลิตการพิมพ์นั้น ดังนั้นหลายยุคสมัยจึงมีวรรณกรรมและการพิมพ์ที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดหลักของสังคมอยู่ตลอด และรัฐก็มักจะจัดการกับการพิมพ์ที่เห็นตรงกันข้ามอยู่เสมอ แสดงให้เห็นถึงอำนาจของการสื่อสารอยู่ไม่น้อย
ในครั้งต่อไปจะเขียนถึง กำเนิดไปรษณีย์ และ แสตมป์ ในยุคการสื่อสารแบบคลาสสิค ที่มนุษย์ได้คิดขึ้นมา
(อ้างอิง)
(1.) https://www.historyofinformation.com/detail.php?id=207
(2.) https://www.citeco.fr/.../invention-of-metal-movable-type...
(3.) https://www.historyofinformation.com/detail.php?entryid=1642
(4.) https://en.wikipedia.org/wiki/Drypoint
(5.) https://www.britannica.com/biography/Johannes-Gutenberg
(6.) https://www.tate.org.uk/art/art-terms/mezzotint
(7.) https://en.wikipedia.org/wiki/Louis_Braille
(8.) https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_the_oldest_newspapers
(9.) https://siamprint.co.th/what-is-offset-printing/
ไม่มีความเห็น