GotoKnow

แถมเรื่องสิงคโปร์ (More on Singapore)

​ศ.ดร. สมาน (Saman) อัศวภูมิ (Asawapoom)
เขียนเมื่อ 28 ตุลาคม 2565 07:07 น. ()

ไหนๆ ก็เขียนเกี่ยวกับสิงคโปร์แล้ว เขียนแถมอีกสักเรื่องสองเรื่องนะครับ มาดูงาน 4 วัน เขียนได้ 4 เรื่อง ถือว่าไม่ขาดทุน ส่วนประสบการณ์  และการได้มาเยี่ยมสถาบันเก่า (RELC) กับการได้ใกล้ชิดกับลูกศิษย์ระหว่างดูงานที่สิงคโปร์ ถือว่าเป็นกำไรครับ

แถมเรื่องแรกคือ แข่งรถFormula 1 ที่สิงคโปร์ ซึ่งมี 2 ประเด็นทางการเมือง (ตามนิยามการเมืองของผมที่ว่า การเมืองคือการตัดสินใจสาธารณะ) (1) ทำไมใช้ถนนปกติแข่ง ไม่สร้างสนามแข่งโดยเฉพาะ และ (2) ทำไมแข่งตอนเที่ยงคืน 

ทั้งสองเรื่องมีการถกเถียงกันมากก่อนตัดสินใจทำ และผมได้ฟังเรื่องนี้จากอาจารย์มหาวิทยาลัยระดับศาสตราจารย์ท่านหนึ่งขณะที่ได้พบกันระหว่างกิจกรรมทางวิชาการระดับนานาชาติครั้งหลายปีมาแล้วท่านเล่าว่าหลังจากถกเถียงกันจนตกผลึกด้วยเหตุผลของฝ่ายนโยบายที่ชี้ให้เห็นว่า การแข่งรถเป็นกิฬาที่คนนิยมไม่น้อยโดยเฉพาะชาวตะวันตก ถ้าสิงคโปร์มีสนามแข่งรถก็เท่ากับมีจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว และเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไปในตัว แต่สิงคโปร์เป็นประเทศเล็ก ไม่มีพื้นที่พอจัดทำสนามแข่งใหม่ และทำแล้วก็ใช้ไม่คุ้มเพราะไม่ได้แข่งทุกวัน เลยเลือกที่จะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ’ถนนปกติ’ แต่แข่งตอนกลางวันไม่ได้เพราะผู้คนต้องใช้ถนน เลยแข่งกันเที่ยงคืน ซึ่งก็เปิดประเด็นทางการเมืองใหม่ว่าประชาชนหนวกหู และไม่ได้ประโยชน์เพราะใคร (ชาวสิงคโปร์) คนไหนจะตื่นมาดูรถแข่งตอนเที่ยงคืน คำตอบพื้นฐานก็คือ คนที่ไม่ชอบการแข่งรถนะ แข่งเวลาไหนก็ไม่ดู แต่คนชอบแล้วแข่งเวลาไหนก็ดู (เหมือนคอบอลล์ไทยดูถ่ายทอดสดตอนตีหนึ่งนะครับ) แต่วิสัยทัศน์เด็ดคือ คำตอบผู้นำสิงคโปร์ตอนนั้น (เป็นไครก็ถามกูเกิลครับ) ว่า ’เราจัดให้ชาวยุโรปและอเมริกาดู‘ (ถ่ายทอดสด และเที่ยงคืนสิงคโปร์ คือกลางวันของยุโรปและอเมริกาครับ) ส่วนเรื่องประชาชนหนวกหูผมได้ได้คำตอบ และก็ไม่เห็นคนสิงคโปร์บ่น แต่น่าจะเป็นว่าทุกเสียงเบิ้ลนำมันคือ ‘เงิน ๆๆ เงิน ๆๆๆ’ แทนครับ

แถมเรื่องสองคือกาสิโน หรือบ่อนการพนัน ซึ่งก็ถกเถียงกันมากเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ทำ หลายคนอาจจะบอกว่า ‘ก็สิงคโปร์เป็นเผด็จการรัฐสภา’ เปล่าใช่ครับ เขาถกเถียงทางการเมืองกันทุกเรื่อง แต่ตกผลึกแล้วถ้าประเทศและประชาชนได้ประโยชน์ เขาก็ทำครับ ซึ่งตอนแรกศาสตราจารย์ท่านดังกล่าวบอกผมว่าท่านก็คัดค้าน แต่เมื่อคนส่วนใหญ่เห็นว่าควรทำ ก็ต้องฟัง อย่างไรก็ตามหลังสองสามปีผ่านไป ท่านเปลียนความคิดและท่าทีมาสนับสนุนเพราะรายได้จากบ่อนเป็นส่วนแบ่งก้อนโตของบประมาณของประเทศสิงคโปร์ครับ ส่วนการป้องกันหรือปรามไม่ให้คนยากจน หรือรายได้น้อยไปเสี่ยงดวงนั้นะสิงคโปร์ใช้วิธการให้ชาวต่างชาติเข้าบ่อนฟรี แต่คนสิงคโปร์ต้องจ่ายค่าเข้าบ่อนครั้งละ 100 เหรียญครับ 

เรื่องที่สามเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งไม่เกี่ยวกับสิงคโปร์เท่านั้นแต่เป็นพฤติกรรมการเมืองทั่วโลกว่าแต่ใครจะฉลาดและเก่งกว่ากัน

ผมกล่าวมาแล้วข้างต้น (และเขียนเรื่องนี้แล้วในบทเขียนต้นๆ) ว่า  ‘การเมืองคือการตัดสินใจสาธารณะ’ แต่นั่นคือการเมืองในประเทศ หรือในองค์การ แต่การเมืองระหว่างประเทศ หรือระหว่างองค์การ/ธุรกิจ คือ การทำเสมือนหนึ่งเป็นมิตรและร่วมมือกัน แต่บนพื้นฐานประโยชน์ของประเทศ หรือองค์การของตนครับ ดูตัวอย่างเรื่องประเทศไทยมีแผนจะขุดคลองคอคอดกระ  ต่างประเทศทั้งที่จะได้ประโยชน์ และเสียประโยชน์ ก็แสดงความชื่นชมและสนับสนุน แต่ขณะเดียวกันประเทศที่เห็นว่าตัวเองจะเสียผลประโยชน์ก็จะดำเนินการทุกอย่างคู่ขนานกันไป  (แต่ไม่เป็นทางการและมียุทธศาสตร์) เพื่อไม่ให้แผนนั้นสำเร็จ อันนี้ก็ต้องอยู่ที่ความฉลาดของผู้นำประเทศ และการรู้เท่าทันของคนในประเทศ 

เรื่องผู้นำนี้ก็เช่นกัน ไม่มีประเทศไหนหรอกครับที่อยากเห็นประเทศอื่นมีผู้นำประเทศที่ฉลาดกว่าประเทศของตน แต่ในทางการเมืองระหว่างประเทศ (โดยการทูต) ก็ต้องชื่นชมยินดี ยกย่องแต่ลึก ๆ ก็ต้องหาวิธี หรือทีมบริหารที่จะทำให้ได้เปรียบเชิงการเมืองระหว่างประเทศครับ ผู้นำประเทศไดที่หลงไหลได้ปลื้มที่ได้รับคำชมว่า ‘เก่ง ฉลาด’ ทั้ง ๆ ที่จริงๆ แล้วไม่ได้เรื่อง จงทราบเถอะครับว่าท่านติดกับการเมืองระหว่างประเทศแล้ว และถ้าประชาชนของประเทศตีโจทย์นี้ไม่แตก และมองการเมืองระหว่างประเทศไม่ออก ก็ถือว่าเป็นกรรมของประเทศก็แล้วกัน

รักนะประเทศไทย จุ๊บๆ

สมาน อัศวภูมิ

28 ตุลาคม2565

สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ

ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย